รวบคนร้ายฆ่าปาดคอสาวโรงงาน

ชลบุรี 16 ก.ย. – ตำรวจจับคนร้ายฆ่าปาดคอสาวโรงงาน จ.ระยอง ได้แล้ว​ หลังตามล่ามากว่า 1 สัปดาห์​ จนมุมในท้องที่อำเภอพนัสนิคม​ จังหวัดชลบุรี


ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ นางสาวหยดน้ำ อายุ 23 ปี สาวโรงงานที่จังหวัดระยอง ถูกฆาตกรรมในห้องแถวร้านค้าริมถนนสายบ้านบึง-บ้านค่าย ตำบลหนองกรับ อำเภอบ้านค่าย เมื่อคืนวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา โดยสภาพศพถูกปาดคอและข้อมือเป็นแผลฉกรรจ์ ส่วนตามตัวถูกห่อด้วยสแลนกันสาดสีเขียว ล่าสุดการล่าตัวฆาตกรโหด ตำรวจระดมกำลังทั้งชุดสืบสวนภูธรภาค 2 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ช่วยตำรวจ สภ.หนองกรับ เจ้าของท้องที่ คลี่คลายคดี ทำให้ตอนนี้ได้เบาะแสแล้วว่าฆาตกรชื่อว่าอุดร เป็นชาวอุดรธานี อายุ 50 ปี มีประวัติอาชญากรรมในข้อหาพยายามฆ่า ขณะที่เบาะแสใหม่พบฆาตกรโหดหนีไปกบดานในพื้นที่ฉะเชิงเทรา หลังชิงมอเตอร์ไซค์ไปแล้วนำมาจอดทิ้งริมถนน ชุดสืบสวนจึงเร่งประสานตำรวจฉะเชิงเทรา ร่วมกันไล่ล่าตัวอย่างกระชั้นชิด พร้อมนำภาพคนร้ายมาตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท เพื่อเร่งล่าตัว

อย่างไรก็ตาม แม้คดีมีความคืบหน้าถึงขั้นรู้ตัวฆาตกรรายนี้ แต่ตำรวจยังย้ำว่าตอนนี้ยังไม่ออกหมายจับ ขอรอการพิสูจน์ทราบ ถ้าชัดเจนเมื่อไรออกหมายจับทันทีแน่นอน


มือฆ่าปาดคอโผล่ฉะเชิงเทรา ถูกจับคดีอื่น แต่ยังหนีไปได้
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ฉะเชิงเทรา ที่บอกไปพบตัวนายอุดรโผล่ในพื้นที่ ตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราบอกว่าไม่ใช่แค่โผล่มาให้เห็น แต่ตำรวจได้จับตัวนายอุดรไว้แล้วด้วย ในข้อหาเมาสุรา ประพฤติตนวุ่นวาย และเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ตำรวจจึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ซึ่งตอนนั้นตำรวจไม่มีใครรู้ว่าคนนี้มีประกาศจับ กระทั่งตรวจข้อมูล พบภาพประกาศจับของ สภ.หนองกรับ ระยอง ว่ามีลักษณะรูปพรรณคล้ายกับคนร้ายในคดีฆ่าสาวโรงงาน ชุดสืบสวนจึงได้โทรประสานกัน และรีบเดินทางมาอายัดตัว แต่ปรากฏว่านายอุดรหนีออกจากโรงพยาบาลไปก่อนแล้ว ซึ่งขณะนี้กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้วางหาแนวทางตามจับตัว โดยมีชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 สนธิกำลังชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และระยอง แบ่งกำลังไปสังเกตการณ์ตามสถานที่สาธารณะ สถานที่ขนส่ง สถานีรถไฟ และจุดที่มีคนเร่ร่อนพักอาศัย เพราะเชื่อว่านายอุดรยังหนีวนเวียนอยู่ในพื้นที่เมืองฉะเชิงเทรา

มือฆ่าปาดคอเคยต้องโทษพยายามฆ่า
สำหรับฆาตกรโหดรายนี้ ตำรวจย้ำว่าเคยต้องโทษข้อหาพยายามฆ่าเมื่อปี 56 เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี และการนำภาพประกาศจับไปให้แม่ของนายอุดรดู ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็นลูกชายของตัวเอง แต่แม่บอกตั้งแต่ลูกพ้นโทษมาเมื่อปี 61 ลูกก็ออกจากบ้านไป และไม่เคยเห็นหน้ากันอีกเลย

เปิดเบาะแสมือฆ่าปาดคอสาวโรงงาน
คดีนี้เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 6 กันยายน แต่มีคนไปพบศพของสาวโรงงานถูกฆ่าปาดคอในวันที่ 7 กันยายน ซึ่งในตอนที่พบศพนั้น ตำรวจเชื่อว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 10 ชั่วโมง โดยสามีผู้ตายให้ข้อมูลว่า กิจวัตรทุกวันของผู้ตายคือจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาจากบ้าน มาจอดที่ร้านค้าที่เกิดเหตุ แล้วขึ้นรถรับส่งพนักงานของโรงงานไปทำงาน พอช่วงค่ำเลิกงานก็จะลงรถขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านก่อน 3 ทุ่มทุกวัน แต่คืนวันที่ 6 กันยายน เวลา 4 ทุ่มแล้ว ภรรยายังไม่กลับ ออกมาดูก็เห็นมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่เห็นภรรยา ก็กลับไปรอที่บ้าน จนตอนเช้ามาที่ร้านอีกครั้ง พบรอยคราบเลือดบริเวณร้านค้า ส่วนมอเตอร์ไซค์ภรรยาหายไป กระทั่งช่วงเที่ยง เจ้าของร้านค้ามาเปิดร้าน ดึงผ้าสแลนกั้นหน้าร้านออกจึงพบศพของภรรยา


ส่วนมือฆ่าโหดตอนนั้น สันนิษฐานเป็นชายเร่ร่อน พอก่อเหตุเสร็จก็ขี่มอเตอร์ไซค์ผู้ตายหนีไป กระทั่งกลางดึกวันที่ 9 กันยายน ชุดสืบสวนไปพบมอเตอร์ไซค์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และยางรถเสื่อมสภาพ ถูกจอดทิ้งไว้หลังป้อมตำรวจจราจรแยกไฟแดงมาบตาพุด จึงตรวจหมายเลขเครื่อง ทำให้พบว่าเป็นของสาวโรงงาน ขณะที่ตัวรถพบถุงมือสีดำ 1 คู่ วางอยู่ในช่องเก็บของใต้เบาะ และหมวกกันน็อกสีดำวางอยู่ในตะกร้าหน้ารถ ซึ่งในหมวกพบเส้นผมอยู่ในนั้นด้วย ชุดสืบสวนจึงเก็บไปตรวจดีเอ็นเอ นอกจากนี้ชุดสืบสวนยังได้รับแจ้งจากเจ้าของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง ว่าช่วง 5 ทุ่ม วันที่ 6 กันยายน วงจรปิดของร้านบันทึกภาพชายคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหลบฝน แล้วนั่งที่ม้าหินอ่อนข้างร้าน จากนั้นมีการถอดแผ่นป้ายทะเบียนมอเตอร์ไซค์ แล้วเอาไปทิ้งฝั่งตรงข้ามร้านค้า ก่อนจะพยายามถอดแผ่นป้ายทะเบียนของมอเตอร์ไซค์ที่จอดหน้าร้านค้า เพื่อเอาไปสลับเปลี่ยน แต่ถอดไม่ออก จึงเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วนั่งสูบบุหรี่ พร้อมกับเอากระเป๋าเป้ไปซ่อนไว้หลังม้าหินอ่อน แล้วขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ขณะที่เบาะแสเพิ่มเติมซึ่งนำสู่การสเก็ตซ์ภาพฆาตกรโหด คือมีคนไปพบชายเร่ร่อนขณะเมาสุรา เดินเข้ามาขอซื้อลาบในจุดเกิดเหตุ จากนั้นก็เกิดเหตุฆาตกรรมโหดขึ้น ตำรวจจึงนำภาพดังกล่าวไปตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุม

ส่วนมูลเหตุจูงใจคาดว่าเป็นการชิงทรัพย์ โดยฆาตกรอาศัยช่วงเคอร์ฟิว คนน้อย และฝนตก มาดักรอก่อเหตุ

โดยเช้าวันนี้​มีการระดมตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 สืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และชุดสืบสวน​ สภ.หนองกรับ ไล่ล่าในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา และชลบุรี​ ก่อนจะจนมุมในท้องที่อำเภอพนัสนิคม​ จังหวัดชลบุรี เมื่อช่วงค่ำวันนี้​ ขณะนี้กำลังคุมตัวมาสอบปากคำที่ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]