หน้าชัด! ฆาตกรโหดปาดคอสาวโรงงาน

ระยอง 14 ก.ย.-ผ่านไป 7 วัน ยังจับฆาตรกรโหดปาดคอสาวโรงงานระยอง ไม่ได้ ตำรวจเร่งล่าตัว พบเส้นผมในหมวกกันน็อก อีกหนึ่งหลักฐานสำคัญสาวตัวคนร้าย ด้านสามีผู้ตายแค้นฝังใจ อยากฟังคำตอบชัดๆ “ฆ่าภรรยาผมทำไม?”


รถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน-ดำคันนี้ เป็นคันเดียวกับที่คนร้ายฆ่าปาดคอ นางสาวหยดน้ำ สาวโรงงานวัย 23 ปี ขโมยไปจอดทิ้งไว้หลังป้อมตำรวจ สี่แยกไฟแดงมาบตาพุด สภาพรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยางล้อหน้ารั่ว และพบเส้นผมจากหมวกกันน็อกสีดำ ดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่จะสาวถึงฆาตรกรโหดรายนี้ได้

เหตุฆ่าปาดคอสาวโรงงานเกิดขึ้นในคืนวันที่ 6 กันยายน ที่ห้องแถวริมถนนบ้านบึง บ้านค่าย จ.ระยอง เวลา 21.50 น. วงจรปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ใกล้จุดเกิดเหตุ จับภาพรถรับส่งพนักงานโรงงานมาจอดส่งนางสาวหยดน้ำ ระหว่างที่นางสาวหยดน้ำเดินไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ มีชายต้องสงสัยเดินตาม ก่อนจะเกิดเหตุการณ์สลดขึ้น ชาวบ้านในจุดเกิดเหตุบอกว่าคืนวันนั้น ฝนตกหนัก ได้ยินเสียงหญิงกรีดร้อง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น นึกว่าเป็นเสียงคนข้างบ้านทะเลาะกัน


ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายอยู่ในที่เกิดเหตุก่อนที่ผู้ตายจะปรากฏตัว เมื่อพบและสบโอกาส จึงใช้มีดจี้บังคับหวังจะข่มขืน แต่ผู้ตายต่อสู้ คนร้ายจึงลงมือสังหารด้วยการปาดคอ สภาพศพบมีแผลฉกรรจ์ที่ลำคอและข้อมือ สวมเพียงเสื้อชั้นใน และนุ่งกางเกงขายาว มีสแลนสีเขียวคลุมร่างอำพรางไว้ ส่วนทรัพย์สินถูกรื้อค้น และจักรยานยนต์หายไป

จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมประกอบกับภาพวงจรปิดที่มีความสัมพันธ์กัน ทำให้ทราบรูปพรรณสันฐานของผู้ต้องสงสัย เป็นชายผิวดำแดง อายุประมาณ 40 ปี และพูดสำเนียงอีสาน นำมาซึ่งการออกภาพสเกตซ์ผู้ต้องสงสัยแจกจ่ายให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส กระทั่งพบวงจรปิดอีกจุด บริเวณหน้าร้านริมถนน ค.2 เขตเทศบาลนครระยอง เวลา 5 ทุ่มเศษ คืนวันเกิดเหตุ ชายต้องสงสัยขับรถจักรยานยนต์มาหลบฝน และนั่งสูบบุหรี่ที่ม้าหินอ่อน ก่อนจะพยายามเดินไปถอดป้ายทะเบียนรถ แต่ถอดไม่ออก จากนั้นชายคนดังกล่าวได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บเสื้อผ้าไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ก่อนจะขับออกไป

ภาพชายในวงจรปิดดังกล่าวสอดคล้องกับชายในร้านสะดวกซื้อ ที่ใส่ชุดขาว คล้ายชุดปฏิบัติธรรม สูงประมาณ 160-170 เซนติเมตร ผมรากไทร มีหนวดเครา และมีรอยสักตรงข้อมือซ้ายและแผ่นหลัง นับเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้ตำรวจมั่นใจได้ว่าชายคนนี้เป็น ฆาตรกรโหดปาดคอนางสาวหยดน้ำ


ตำรวจตั้งปมสังหารไว้ที่ การฆ่าชิงทรัพย์ และพุ่งเป้าไปที่ชายเร่ร่อน โดยขอความร่วมมือผู้พบเห็น แจ้งเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมฆาตรกรโหดรายนี้มาดำเนินดคี พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท คาดว่าจะออกหมายจับเร็ววันนี้

คดีนี้นับเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญ ที่สร้างความเจ็บปวดฝังลึกไว้ในใจครอบครัวเหยื่อไม่อาจลบเลือน โดยเฉพาะสามีของผู้เสียชีวิต ที่อยู่กินกันมานาน 7 ปี วางแผนจะมีลูกด้วยกันปีนี้ แต่สุดท้ายกลับเป็นเพียงฝัน แม้ผ่านไปแล้ว 7 วัน จะยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่สามียังหวังภาพคนร้ายใบนี้ จะเป็นเบาะแสสำคัญที่จะนำตัวคนร้ายมาลงโทษ และยังแค้นฝังใจ อยากฟังคำตอบจากปากฆาตรกรโหดรายนี้ว่า “ฆ่าภรรยาผมทำไม” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ช่วยผู้ที่ติดค้างใต้ซากตึกถล่ม

ระดมทีมค้นหาสุดกำลัง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างใต้ซากอาคาร สตง. ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว ทุกภาคส่วนยังทำงานแข่งกับเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจัด ล่าสุดมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ราย

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบอาคาร สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว

“อนุทิน” เซ็นตั้ง คกก.สอบ หลังตึก สตง.ถล่มจากเหตุแผ่นดิน​ไหว​เพียงตึกเดียว​ คาดรู้ผลใน 7 วัน ยันไล่บี้ตั้งแต่แบบอาคารและการก่อสร้าง ชี้ทั้งบริษัทไทย-จีน​ ต้องรับผิดชอบเต็มร้อย ​ขณะทูตจีนพาผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวพบ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้