สาวเมืองตรังชวนกินหญ้ามารวยทอด

ตรัง 15 ก.ย.- สาวชาว ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ผุดไอเดียนำหญ้ามารวยหรือหญ้าซ้อน ที่ขึ้นช่วงฤดูฝน มาทอดกรอบแบบทรงเครื่องใส่กุ้งนา ขายได้วันละเกือบ 100 กล่อง สร้างรายได้วันละกว่า 4,000-5,000 บาท


ที่นาข้าวเนื้อที่ 1 ไร่ ในพื้นที่หมู่ 2  ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ของนางสุพัตรา ศรีขำ อายุ 45 ปี ตอนนี้มี “หญ้ามารวย” ขึ้นเติบโตอยู่ในนาข้าว โดยจมอยู่ใต้น้ำที่มีความลึก 30-40 ซม. ลักษณะเป็นกอทับซ้อนกัน และแผ่ออกด้านข้าง จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “หญ้าซ้อน” โดยหญ้าชนิดนี้ขึ้นเองตามธรรมชาติในที่นาแห่งนี้มานานกว่า 70-80 ปีแล้ว บางกอสูงถึง 1 ฟุต และเป็นที่นาแปลงเดียวที่พบหญ้ามารวยขึ้นอยู่มากที่สุดใน ต.ตรังโดยสมัยคุณทวดจนมาถึงคุณย่าของสุพัตรา มักจะนำมาทำอาหารให้ลูกๆ กิน เชื่อว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และมีคลอโรฟิลสูง 

หญ้ามารวยจะเกิดขึ้นเองเพียงปีละครั้ง เฉพาะฤดูกาลทำนา ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เมื่อข้าวออกรวง หญ้ามารวยก็จะหายไป ต่อเมื่อมีการปักดำ มีน้ำท่วมขังในนา และต้นข้าวเริ่มโต หญ้ามารวยก็จะงอกขึ้นมาใหม่วนเวียนอยู่แบบนี้มาเกือบ 100 ปีแล้ว อาจเนื่องมาจากที่นาแปลงนี้ไม่ใช้สารเคมีจึงทำให้มีน้ำที่สะอาด และมีหญ้ามารวยให้เก็บกินได้ทุกปี แต่ลูกหลานรุ่นหลังๆ ไม่เคยคิดที่จะเอามาทำขาย จนกระทั่งเกิดการระบาดโควิดรอบแรก คุณสุพัตรา ซึ่งเป็นแม่ค้าขายของทอดอยู่แล้ว จึงพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการนำหญ้ามารวยมาชุบแป้งทอดทั้งแบบธรรมดาและแบบทรงเครื่อง ใส่กุ้งนาที่ช้อนมาเองในนาข้าว มาผสมกับเครื่องแกงกะทิบ้าง แกงพริกบ้าง ใส่ใบมะกรูด  ไข่ไก่ โซดาและน้ำเย็นลงไป ทอดออกมาจนกรอบเหลือง ขายคู่กับน้ำจิ้มมะขาม ซึ่งแบบชุบแป้งทอดธรรมดา ราคากล่องละ 50 บาท (2 ขีด) และแบบทรงเครื่องกล่องละ 100 บาท


ปรากฏว่าขายได้เพียง 2 สัปดาห์ มีลูกค้าสนใจสั่งซื้อเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย โดยมีบริการเดลิเวอรี่ถึงบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงด้วย ส่วนต่างจังหวัดรับเฉพาะจังหวัดกระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ติดกับ จ.ตรัง เพื่อให้แป้งคงความกรอบ ความหอมสมุนไพรและสดใหม่แบบวันต่อวัน  โดยมีลูกค้าที่เคยกินหญ้ามารวยจาก จ.ภูเก็ต ติดใจสั่งซื้อเข้ามาหลายกล่อง ซึ่งบางรายขอซื้อหญ้ามารวยเพื่อนำไปทอดขายวันละหลายกิโลกรัม แต่มีหญ้าไม่เพียงพอ ส่วนเธอเองทอดขายอยู่หน้าร้านบริเวณสามแยกโรงแรมเรือ ริมถนนสายตรัง-นาโยง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง โดยขายได้มากถึงวันละ 80-100 กล่อง สร้างรายได้วันละ 4,000-5,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งปีนี้นำหญ้ามารวยมาทอดขายเป็นปีที่ 2 แล้ว ส่วนใครสนใจจะกินหญ้าชนิดนี้ติดตามได้ที่เพจ น้องหญิงกุ๊กๆ กู๋ หรือทางหมายเลขโทรศัพท์ 080-8020978

นางสุพัตรา ศรีขำ แม่ค้าขายหญ้ามารวยชุบแป้งทอดกล่าวว่า หญ้าชนิดนี้เกิดขึ้นเองปีละครั้งระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม เมื่อเริ่มมีการทำนาก็จะมีหญ้ามารวยขึ้น แต่ก็มีไม่ทุกแปลง สมัยก่อนปู่ย่าตาทวดนำมาทำเป็นอาหารหลายอย่าง ทั้งทำข้าวยำได้ ต้ม ผัด แกง ทอดให้กิน พอมาถึงรุ่นตนจึงใช้ความคิดสมัยใหม่มาทำทอดกรอบ  ซึ่งเรียกหญ้าชนิดนี้ว่าหญ้ามารวยหรือหญ้าซ้อนเพราะมันขึ้นซ้อนกันเป็นแผง โดยขายอยู่ที่กล่องละ 50 บาท ซึ่งขายดีจนทำไม่ทัน บางวันขายได้ถึงวันละ 100 กล่องเลยทีเดียว ส่วนสรรพคุณดีสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวก เป็นหอบหืด ขึ้นแบบธรรมชาติไม่ใส่ปุ๋ยหรือเคมี เวลาทอดจะออกกลิ่นหอมของหญ้ามารวย โดยขายมาเป็นปีที่ 2 ตั้งแต่โควิดรอบแรกจนมาถึงรอบนี้ ถือว่าสร้างรายได้ดี.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]