ชลบุรี 14 ก.ย. – ตำรวจชลบุรีบุกจับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านค้าปืนเถื่อน ยึดของกลาง 48 กระบอก เร่งสอบสวนขยายผลจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้อง
พ.ต.อ.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สืบสวน ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผกก.สภ.สัตหีบ สนธิกำลังสืบสวนจังหวัดชลบุรี สืบสวน สภ.สัตหีบ จับกุมนายดนุพล อายุ 31 ปี หรือเบล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลแสมสาร ภายในบ้านเลขที่ 143/22 หมู่บ้านนาวีเฮ้าส์ 43 ม.4 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย เลขที่ จ.126/2564 และนายพลเทพ หรือบอม อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดหนองคาย ที่ จ.127/2564 ได้ที่บ้านเลขที่ 68/2 ม.1 ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี กระทำความผิดฐานร่วมกันส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร และร่วมกันมีอาวุธปืนครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันนำอาวุธปืนผ่านราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี
กรณี สภ.เมืองหนองคาย จับกุมคดีค้าอาวุธปืน ลักลอบส่งออกต่างประเทศ ก่อนที่ผู้ต้องหารับสารภาพและเชื่อมโยงมายังนายดนุพล และ นายพลเทพ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับและหมายค้น เข้าจับกุมและตรวจค้น ก่อนส่งตัวทั้งคู่ให้ สภ.เมืองหนองคาย เพื่อสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธปืนข้ามชาติหรือไม่
เบื้องต้นค้นภายในบ้านนายดนุพล พบปืน 46 กระบอก ปืนสั้น 30 กระบอก ปืนยาว 16 กระบอก ทั้งหมดมีใบอนุญาตทะเบียน ป.4 พร้อมตีตราเพื่อการกีฬา โดยเป็นชื่อของนายดนุพล ในจำนวนนี้มี 3 กระบอก มีใบอนุญาตทะเบียน ป.4 เป็นชื่อผู้อื่น ส่วนนายพลเทพ ค้นในบ้านพบปืนสั้น 2 กระบอก มีใบอนุญาตทะเบียน ป.4 แต่เป็นชื่อผู้อื่น
ส่วนอาวุธปืนทั้งหมดที่ตรวจยึดจะนำส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบที่มาทั้งหมดอย่างละเอียดว่าได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจับกุมตัวนายดนุพล และนายพลเทพ จากการเปิดเผยทราบว่าได้มีการสืบสวนจากตำรวจจังหวัดหนองคาย และดำเนินการขยายผลกลุ่มลักลอบส่งอาวุธปืนออกต่างประเทศ ที่ก่อนหน้านี้ถูกจับกุมได้ หลังมีการส่งอาวุธปืนออกต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขยายผลจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่มีละเว้น ส่วนนายดนุพล และนายพลเทพ ต้องนำตัวไปสอบสวนว่าทั้งคู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธปืนข้ามชาติจริงหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย