ไทม์ไลน์บีบหัวใจ ปูพรมลุยป่าค้นหา “น้องจีน่า” จนพบ

เชียงใหม่ 8 ก.ย. – 65 ชั่วโมง กับการหายตัวปริศนาของน้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่พ่อแม่ของน้องต้องร้องไห้แทบขาดใจทุกวัน เพราะหาลูกไม่เจอ กระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่เค้นสอบเพื่อนพ่อ นำไปสู่การพบตัวน้องอยู่ในกระท่อม ย้อนไปดูเหตุการณ์ตั้งแต่วินาทีที่น้องถูกพรากไปจากพ่อแม่


19.00 น. วันที่ 5 กันยายน เป็นวินาทีบีบหัวใจที่พ่อแม่ของน้องจีน่า วัย 1 ขวบ 11 เดือน เมื่อรู้ว่าน้องจีน่าหายไปจากบ้านห้วยฝักดาบ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อย่างไร้ร่องรอย ช่วงเกิดเหตุ พ่อน้องจีน่าขี่มอเตอร์ไซค์เอาขยะไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะหมู่บ้าน อยู่ห่างบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนแม่ของน้องทำอาหารอยู่ในครัว และพี่ชายวัย 4 ขวบนั่งเล่นอยู่ในบ้าน

หลังชาวบ้านรู้ข่าวน้องจีน่าหายตัว ต่างช่วยกันระดมค้นหา แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ทำให้ต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกู้ภัยช่วยค้นหา ตอนนั้นได้เบาะแสแรกจากเพื่อนบ้านว่า ช่วงขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เห็นเด็กเดินอยู่กลางถนนคนเดียว แต่ไม่รู้จักว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ชะลอรถแล้ว แต่เด็กไม่ตอบ เพื่อนบ้านก็ไม่ได้เอะใจ ขี่รถผ่านไป พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านแถวนั้นว่าเจอเด็กอยู่ตรงถนน แต่ไม่รู้ลูกใคร


เมื่อได้เบาะแสแรก คืนแรกของปฏิบัติการค้นหาน้องก็เริ่มขึ้น โดยแบ่งทีมทั้งชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ปูพรมหาน้องในรัศมี 2 กิโลเมตร รอบหมู่บ้าน ยาวนานเกือบถึงเช้า แต่ไร้วี่แวว เพราะด้วยสภาพของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ห่างไกลตัวเมือง พ่อแม่เริ่มคิดแล้วว่าลูกอาจถูกลักพาตัว เพราะเชื่อว่าเด็กแค่ขวบกว่าไม่น่าเดินหายไปได้ไกล ประกอบกับที่พักอาศัยเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีบ้านอยู่แค่ 75 หลัง คนในหมู่บ้านอาศัยอยู่รวมๆ กันก็ไม่เกิน 200 คน เด็กไม่น่าหายตัวได้อย่างไร้ร่อยรอย

6 กันยายน เจ้าหน้าที่ปรับแผนค้นหาใหม่ แบ่งเป็นปูพรมค้นหาทั้งในบ่อน้ำ และบ้านชาวบ้าน โดยตำรวจตั้ง 2 ประเด็น คือ ลักพาตัว เพราะพ่อของน้องสงสัยรถกระบะต่างถิ่นที่วิ่งเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนพี่ชายวัย 4 ขวบ บอกว่าเห็นนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ ขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องสาวออกไปจากบ้าน และอีกประเด็นคือ น้องจีน่าเดินพลัดหลงไป โดยมีคนไปพบและช่วยดูแลน้องให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมีชื่อบุคคล 1 คนโผล่มา ตำรวจจึงไปคุมตัวนายเสี่ยวมาสอบถาม แต่เจ้าตัวยืนยันไม่รู้ไม่เห็น

ด้านมูลนิธิกระจกเงา ช่วยโพสต์ตามหาน้องจีน่าด้วยอีกแรง โดยบอกรูปพรรณสัณฐานว่า เด็กหาย รูปร่างผอม ผิวขาวเหลือง ผมสั้น สีดำ สูงประมาณ 75 เซนติเมตร หนัก 12 กิโลกรัม และมีรอยแผลเป็นที่ใต้คาง ครั้งสุดท้ายที่พบได้สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีชมพู กางเกงสีแดง ด้านพ่อแม่ยังร้องไห้แทบขาดใจ เพราะไม่รู้ชะตากรรมของลูก


7 กันยายน การค้นหายังเป็นไปอยางต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และชาวบ้านทั้งในพื้นที่และต่างถิ่น รวมแล้วเป็นร้อยคน ระดมปูพรมค้นหา แต่ครั้งนี้ได้นำ ฮ.ขึ้นบินสำรวจป่ารอบหมู่บ้าน และชี้จุดต้องสงสัยซึ่งคาดว่าอาจพลัดหลง หรือถูกนำตัวไปซ่อน ส่วนทีมภาคพื้นที่ยังเดินหน้าค้นหาต่อ แต่คราวนี้ค้นละเอียดทุกจุดรวมถึงตรวจรถต้องสงสัยที่เข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องจีน่า มาสอบถามประเด็นขัดแย้งกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเพิ่มเติม ซึ่งพ่อแม่ยืนยันไม่เคยขัดแย้งกับใคร กลางดึกวันนั้น ตำรวจวกกลับไปเค้นสอบนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่ต้องสงสัยซ้ำ คราวนี้นายเสี่ยวทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมสารภาพได้พาน้องจีน่าไป แต่ไม่ได้พาไปฆ่าหรือทำเรื่องไม่ดี แค่พาไปปล่อยทิ้งไว้หน้าถ้ำแห่งหนึ่งห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลครึ่ง พร้อมอ้างเป็นการทำเพื่อสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา

08.00 น. วันนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 4 ของการค้นหา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเสี่ยวไปถ้ำเพื่อชี้จุดทิ้งน้องจีน่า แต่ไม่พบตัว จึงปูพรมค้นหาโดยรอบพื้นที่ กระทั่งช่วงเที่ยงพบตัวน้องจีน่าอยู่ที่กระท่อมเถียงนา ปลอดภัยดี แต่อยู่ในสภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปดูแล พร้อมพาตัวส่งโรงพยาบาล

จุดเส้นทางที่น้องหายตัว จากภาพจะเห็นว่าบ้านอยู่กลางป่าเขา น้องเดินอยู่บนถนนใกล้บ้านซึ่งไม่ถึง 50 เมตร จู่ๆ น้องก็ถูกพาตัวไป ซึ่งนายเสี่ยวอ้างว่าพาไปทิ้งไว้ที่ถ้ำ ซึ่งถ้ำนี้อยู่ห่างจากบ้านไป 2 กิโลครึ่ง แต่คนกลับพบตัวน้องที่กระท่อม ซึ่งอยู่ห่างบ้านไป 2 กิโลเมตร และอยู่ห่างถ้ำไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งมีหลากหลายข้อสงสัยให้ต้องตามต่อ เพราะเหตุผลที่นายเสี่ยวอ้างว่านำน้องไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้าน และจุดที่พบน้อง มีลักษณะเหมือนว่าน้องเพิ่งถูกพามาทิ้งไว้ และน้องซึ่งอยู่ในวันไม่ถึง 2 ขวบก็ไม่น่าเดินจากถ้ำมาเองได้ เพราะแม้ระยะทางห่างไม่มาก แต่ด้วยความที่เป็นป่าเขา ขนาดเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหายังเดินหากันเหนื่อย แต่น้องเดินไปได้อย่างไร . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก