ไทม์ไลน์บีบหัวใจ ปูพรมลุยป่าค้นหา “น้องจีน่า” จนพบ

เชียงใหม่ 8 ก.ย. – 65 ชั่วโมง กับการหายตัวปริศนาของน้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่พ่อแม่ของน้องต้องร้องไห้แทบขาดใจทุกวัน เพราะหาลูกไม่เจอ กระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่เค้นสอบเพื่อนพ่อ นำไปสู่การพบตัวน้องอยู่ในกระท่อม ย้อนไปดูเหตุการณ์ตั้งแต่วินาทีที่น้องถูกพรากไปจากพ่อแม่


19.00 น. วันที่ 5 กันยายน เป็นวินาทีบีบหัวใจที่พ่อแม่ของน้องจีน่า วัย 1 ขวบ 11 เดือน เมื่อรู้ว่าน้องจีน่าหายไปจากบ้านห้วยฝักดาบ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อย่างไร้ร่องรอย ช่วงเกิดเหตุ พ่อน้องจีน่าขี่มอเตอร์ไซค์เอาขยะไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะหมู่บ้าน อยู่ห่างบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนแม่ของน้องทำอาหารอยู่ในครัว และพี่ชายวัย 4 ขวบนั่งเล่นอยู่ในบ้าน

หลังชาวบ้านรู้ข่าวน้องจีน่าหายตัว ต่างช่วยกันระดมค้นหา แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ทำให้ต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกู้ภัยช่วยค้นหา ตอนนั้นได้เบาะแสแรกจากเพื่อนบ้านว่า ช่วงขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เห็นเด็กเดินอยู่กลางถนนคนเดียว แต่ไม่รู้จักว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ชะลอรถแล้ว แต่เด็กไม่ตอบ เพื่อนบ้านก็ไม่ได้เอะใจ ขี่รถผ่านไป พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านแถวนั้นว่าเจอเด็กอยู่ตรงถนน แต่ไม่รู้ลูกใคร


เมื่อได้เบาะแสแรก คืนแรกของปฏิบัติการค้นหาน้องก็เริ่มขึ้น โดยแบ่งทีมทั้งชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ปูพรมหาน้องในรัศมี 2 กิโลเมตร รอบหมู่บ้าน ยาวนานเกือบถึงเช้า แต่ไร้วี่แวว เพราะด้วยสภาพของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ห่างไกลตัวเมือง พ่อแม่เริ่มคิดแล้วว่าลูกอาจถูกลักพาตัว เพราะเชื่อว่าเด็กแค่ขวบกว่าไม่น่าเดินหายไปได้ไกล ประกอบกับที่พักอาศัยเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีบ้านอยู่แค่ 75 หลัง คนในหมู่บ้านอาศัยอยู่รวมๆ กันก็ไม่เกิน 200 คน เด็กไม่น่าหายตัวได้อย่างไร้ร่อยรอย

6 กันยายน เจ้าหน้าที่ปรับแผนค้นหาใหม่ แบ่งเป็นปูพรมค้นหาทั้งในบ่อน้ำ และบ้านชาวบ้าน โดยตำรวจตั้ง 2 ประเด็น คือ ลักพาตัว เพราะพ่อของน้องสงสัยรถกระบะต่างถิ่นที่วิ่งเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนพี่ชายวัย 4 ขวบ บอกว่าเห็นนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ ขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องสาวออกไปจากบ้าน และอีกประเด็นคือ น้องจีน่าเดินพลัดหลงไป โดยมีคนไปพบและช่วยดูแลน้องให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมีชื่อบุคคล 1 คนโผล่มา ตำรวจจึงไปคุมตัวนายเสี่ยวมาสอบถาม แต่เจ้าตัวยืนยันไม่รู้ไม่เห็น

ด้านมูลนิธิกระจกเงา ช่วยโพสต์ตามหาน้องจีน่าด้วยอีกแรง โดยบอกรูปพรรณสัณฐานว่า เด็กหาย รูปร่างผอม ผิวขาวเหลือง ผมสั้น สีดำ สูงประมาณ 75 เซนติเมตร หนัก 12 กิโลกรัม และมีรอยแผลเป็นที่ใต้คาง ครั้งสุดท้ายที่พบได้สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีชมพู กางเกงสีแดง ด้านพ่อแม่ยังร้องไห้แทบขาดใจ เพราะไม่รู้ชะตากรรมของลูก


7 กันยายน การค้นหายังเป็นไปอยางต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และชาวบ้านทั้งในพื้นที่และต่างถิ่น รวมแล้วเป็นร้อยคน ระดมปูพรมค้นหา แต่ครั้งนี้ได้นำ ฮ.ขึ้นบินสำรวจป่ารอบหมู่บ้าน และชี้จุดต้องสงสัยซึ่งคาดว่าอาจพลัดหลง หรือถูกนำตัวไปซ่อน ส่วนทีมภาคพื้นที่ยังเดินหน้าค้นหาต่อ แต่คราวนี้ค้นละเอียดทุกจุดรวมถึงตรวจรถต้องสงสัยที่เข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องจีน่า มาสอบถามประเด็นขัดแย้งกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเพิ่มเติม ซึ่งพ่อแม่ยืนยันไม่เคยขัดแย้งกับใคร กลางดึกวันนั้น ตำรวจวกกลับไปเค้นสอบนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่ต้องสงสัยซ้ำ คราวนี้นายเสี่ยวทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมสารภาพได้พาน้องจีน่าไป แต่ไม่ได้พาไปฆ่าหรือทำเรื่องไม่ดี แค่พาไปปล่อยทิ้งไว้หน้าถ้ำแห่งหนึ่งห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลครึ่ง พร้อมอ้างเป็นการทำเพื่อสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา

08.00 น. วันนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 4 ของการค้นหา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเสี่ยวไปถ้ำเพื่อชี้จุดทิ้งน้องจีน่า แต่ไม่พบตัว จึงปูพรมค้นหาโดยรอบพื้นที่ กระทั่งช่วงเที่ยงพบตัวน้องจีน่าอยู่ที่กระท่อมเถียงนา ปลอดภัยดี แต่อยู่ในสภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปดูแล พร้อมพาตัวส่งโรงพยาบาล

จุดเส้นทางที่น้องหายตัว จากภาพจะเห็นว่าบ้านอยู่กลางป่าเขา น้องเดินอยู่บนถนนใกล้บ้านซึ่งไม่ถึง 50 เมตร จู่ๆ น้องก็ถูกพาตัวไป ซึ่งนายเสี่ยวอ้างว่าพาไปทิ้งไว้ที่ถ้ำ ซึ่งถ้ำนี้อยู่ห่างจากบ้านไป 2 กิโลครึ่ง แต่คนกลับพบตัวน้องที่กระท่อม ซึ่งอยู่ห่างบ้านไป 2 กิโลเมตร และอยู่ห่างถ้ำไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งมีหลากหลายข้อสงสัยให้ต้องตามต่อ เพราะเหตุผลที่นายเสี่ยวอ้างว่านำน้องไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้าน และจุดที่พบน้อง มีลักษณะเหมือนว่าน้องเพิ่งถูกพามาทิ้งไว้ และน้องซึ่งอยู่ในวันไม่ถึง 2 ขวบก็ไม่น่าเดินจากถ้ำมาเองได้ เพราะแม้ระยะทางห่างไม่มาก แต่ด้วยความที่เป็นป่าเขา ขนาดเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหายังเดินหากันเหนื่อย แต่น้องเดินไปได้อย่างไร . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]