ไทม์ไลน์บีบหัวใจ ปูพรมลุยป่าค้นหา “น้องจีน่า” จนพบ

เชียงใหม่ 8 ก.ย. – 65 ชั่วโมง กับการหายตัวปริศนาของน้องจีน่า เด็กหญิงวัย 1 ขวบ 11 เดือน ที่พ่อแม่ของน้องต้องร้องไห้แทบขาดใจทุกวัน เพราะหาลูกไม่เจอ กระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่เค้นสอบเพื่อนพ่อ นำไปสู่การพบตัวน้องอยู่ในกระท่อม ย้อนไปดูเหตุการณ์ตั้งแต่วินาทีที่น้องถูกพรากไปจากพ่อแม่


19.00 น. วันที่ 5 กันยายน เป็นวินาทีบีบหัวใจที่พ่อแม่ของน้องจีน่า วัย 1 ขวบ 11 เดือน เมื่อรู้ว่าน้องจีน่าหายไปจากบ้านห้วยฝักดาบ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ อย่างไร้ร่องรอย ช่วงเกิดเหตุ พ่อน้องจีน่าขี่มอเตอร์ไซค์เอาขยะไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะหมู่บ้าน อยู่ห่างบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนแม่ของน้องทำอาหารอยู่ในครัว และพี่ชายวัย 4 ขวบนั่งเล่นอยู่ในบ้าน

หลังชาวบ้านรู้ข่าวน้องจีน่าหายตัว ต่างช่วยกันระดมค้นหา แต่หาเท่าไรก็ไม่เจอ ทำให้ต้องแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกู้ภัยช่วยค้นหา ตอนนั้นได้เบาะแสแรกจากเพื่อนบ้านว่า ช่วงขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้าน เห็นเด็กเดินอยู่กลางถนนคนเดียว แต่ไม่รู้จักว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ชะลอรถแล้ว แต่เด็กไม่ตอบ เพื่อนบ้านก็ไม่ได้เอะใจ ขี่รถผ่านไป พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านแถวนั้นว่าเจอเด็กอยู่ตรงถนน แต่ไม่รู้ลูกใคร


เมื่อได้เบาะแสแรก คืนแรกของปฏิบัติการค้นหาน้องก็เริ่มขึ้น โดยแบ่งทีมทั้งชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ปูพรมหาน้องในรัศมี 2 กิโลเมตร รอบหมู่บ้าน ยาวนานเกือบถึงเช้า แต่ไร้วี่แวว เพราะด้วยสภาพของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ล้อมรอบด้วยป่าไม้ ห่างไกลตัวเมือง พ่อแม่เริ่มคิดแล้วว่าลูกอาจถูกลักพาตัว เพราะเชื่อว่าเด็กแค่ขวบกว่าไม่น่าเดินหายไปได้ไกล ประกอบกับที่พักอาศัยเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก มีบ้านอยู่แค่ 75 หลัง คนในหมู่บ้านอาศัยอยู่รวมๆ กันก็ไม่เกิน 200 คน เด็กไม่น่าหายตัวได้อย่างไร้ร่อยรอย

6 กันยายน เจ้าหน้าที่ปรับแผนค้นหาใหม่ แบ่งเป็นปูพรมค้นหาทั้งในบ่อน้ำ และบ้านชาวบ้าน โดยตำรวจตั้ง 2 ประเด็น คือ ลักพาตัว เพราะพ่อของน้องสงสัยรถกระบะต่างถิ่นที่วิ่งเข้าออกหมู่บ้าน ส่วนพี่ชายวัย 4 ขวบ บอกว่าเห็นนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่เป็นเพื่อนสนิทของพ่อ ขี่มอเตอร์ไซค์พาน้องสาวออกไปจากบ้าน และอีกประเด็นคือ น้องจีน่าเดินพลัดหลงไป โดยมีคนไปพบและช่วยดูแลน้องให้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อมีชื่อบุคคล 1 คนโผล่มา ตำรวจจึงไปคุมตัวนายเสี่ยวมาสอบถาม แต่เจ้าตัวยืนยันไม่รู้ไม่เห็น

ด้านมูลนิธิกระจกเงา ช่วยโพสต์ตามหาน้องจีน่าด้วยอีกแรง โดยบอกรูปพรรณสัณฐานว่า เด็กหาย รูปร่างผอม ผิวขาวเหลือง ผมสั้น สีดำ สูงประมาณ 75 เซนติเมตร หนัก 12 กิโลกรัม และมีรอยแผลเป็นที่ใต้คาง ครั้งสุดท้ายที่พบได้สวมเสื้อยืดแขนสั้น สีชมพู กางเกงสีแดง ด้านพ่อแม่ยังร้องไห้แทบขาดใจ เพราะไม่รู้ชะตากรรมของลูก


7 กันยายน การค้นหายังเป็นไปอยางต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร และชาวบ้านทั้งในพื้นที่และต่างถิ่น รวมแล้วเป็นร้อยคน ระดมปูพรมค้นหา แต่ครั้งนี้ได้นำ ฮ.ขึ้นบินสำรวจป่ารอบหมู่บ้าน และชี้จุดต้องสงสัยซึ่งคาดว่าอาจพลัดหลง หรือถูกนำตัวไปซ่อน ส่วนทีมภาคพื้นที่ยังเดินหน้าค้นหาต่อ แต่คราวนี้ค้นละเอียดทุกจุดรวมถึงตรวจรถต้องสงสัยที่เข้าออกหมู่บ้าน ขณะที่ตำรวจเชิญตัวพ่อแม่น้องจีน่า มาสอบถามประเด็นขัดแย้งกับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเพิ่มเติม ซึ่งพ่อแม่ยืนยันไม่เคยขัดแย้งกับใคร กลางดึกวันนั้น ตำรวจวกกลับไปเค้นสอบนายเสี่ยว เพื่อนบ้านที่ต้องสงสัยซ้ำ คราวนี้นายเสี่ยวทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมสารภาพได้พาน้องจีน่าไป แต่ไม่ได้พาไปฆ่าหรือทำเรื่องไม่ดี แค่พาไปปล่อยทิ้งไว้หน้าถ้ำแห่งหนึ่งห่างจากหมู่บ้าน 2 กิโลครึ่ง พร้อมอ้างเป็นการทำเพื่อสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา

08.00 น. วันนี้ (8 ก.ย.) ซึ่งเข้าสู่วันที่ 4 ของการค้นหา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเสี่ยวไปถ้ำเพื่อชี้จุดทิ้งน้องจีน่า แต่ไม่พบตัว จึงปูพรมค้นหาโดยรอบพื้นที่ กระทั่งช่วงเที่ยงพบตัวน้องจีน่าอยู่ที่กระท่อมเถียงนา ปลอดภัยดี แต่อยู่ในสภาพอิดโรย เจ้าหน้าที่จึงรีบเข้าไปดูแล พร้อมพาตัวส่งโรงพยาบาล

จุดเส้นทางที่น้องหายตัว จากภาพจะเห็นว่าบ้านอยู่กลางป่าเขา น้องเดินอยู่บนถนนใกล้บ้านซึ่งไม่ถึง 50 เมตร จู่ๆ น้องก็ถูกพาตัวไป ซึ่งนายเสี่ยวอ้างว่าพาไปทิ้งไว้ที่ถ้ำ ซึ่งถ้ำนี้อยู่ห่างจากบ้านไป 2 กิโลครึ่ง แต่คนกลับพบตัวน้องที่กระท่อม ซึ่งอยู่ห่างบ้านไป 2 กิโลเมตร และอยู่ห่างถ้ำไปประมาณ 500 เมตร ซึ่งมีหลากหลายข้อสงสัยให้ต้องตามต่อ เพราะเหตุผลที่นายเสี่ยวอ้างว่านำน้องไปสังเวยเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้าน และจุดที่พบน้อง มีลักษณะเหมือนว่าน้องเพิ่งถูกพามาทิ้งไว้ และน้องซึ่งอยู่ในวันไม่ถึง 2 ขวบก็ไม่น่าเดินจากถ้ำมาเองได้ เพราะแม้ระยะทางห่างไม่มาก แต่ด้วยความที่เป็นป่าเขา ขนาดเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหายังเดินหากันเหนื่อย แต่น้องเดินไปได้อย่างไร . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย