มุมมองนักอาชญาวิทยา คดีฆ่าบีบคอสาวเปลือย

สมุทรปราการ 6 ก.ย. – นักอาชญาวิทยาชี้พฤติกรรมผู้ต้องหาฆ่าบีบคอสาวเปลือย สมุทรปราการ โหดเหี้ยม ตามหลักวิชาการหากถูกกระทำรุนแรงตอนเด็ก โตขึ้นจะส่งผลต่อบุคลิกภาพ การคิด การตัดสินใจ ทำให้แนวโน้มกระทำความรุนแรงต่อคน


ตำรวจคุมตัวนายเอกพจน์ อายุ 34 ปี มือฆ่าบีบคอสาววัย 27 ปี เปลือยกายบนเตียงในอพาร์ตเมนต์หรูย่านสมุทรปราการ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหายอมรับว่ารู้จักเหยื่อผ่านทวิตเตอร์ ก่อนจะตกลงปลงใจนัดพบกัน โดยจ่ายเงินให้เหยื่อ 1,300 บาท มีเพศสัมพันธ์กัน ก่อนจะเริ่มมีปากเสียง ด้วยความโมโหจึงใช้มือบีบคอเหยื่อจนเสียชีวิต จากนั้นคว้าสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท และมือถืออีก 3 เครื่อง ของเหยื่อไป ในคืนเดียวกันนั้น ก่อเหตุลักษณะเดียวกันกับเหยื่ออีกคนในพื้นที่บางนา บีบคอเหยื่อเช่นกัน แต่เหยื่อมีสติ ร้องขอชีวิตไว้ ก่อนจะรีดเงิน 6,000 บาท เพื่อแลกกับอิสรภาพ

พฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้มักนำรูปคนอื่นมาแอบอ้างเพื่อใช้การติดต่อเหยื่อผ่านทางโซเชียล และมีนิสัยมักใช้ความรุนแรง และใช้ยาเสพติดก่อนมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต ระบุว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาที่กระทำกับเหยื่อมีความโหดเหี้ยม หากเทียบเคียงกับคดีสมคิด พุ่มพวง ฆาตรกรต่อเนื่อง 6 ศพ นายสมคิดมีพฤติกรรมชัดเจนล่อลวงเหยื่อ แรงจูงใจให้เหยื่อขายบริการทางเพศ และที่สำคัญจะฆ่าเหยื่อทุกราย ฉะนั้นต้องดูมูลเหตุจูงใจว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพราะอะไรกันแน่


นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามักก่อเหตุในลักษณะเดียวกันซ้ำๆ และเมื่อปี 59 พบประวัติเคยก่อเหตุคดีข่มขืนลักษณะคล้ายๆ กัน มาแล้ว ก่อนจะพ้นโทษเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาจเกิดจากนิสัยส่วนตัวที่มีรสนิยมทางเพศใช้ความรุนแรง ซึ่งจะเข้าข่ายมีปัญหาทางจิตเวชหรือไม่นั้น ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ระบุว่าส่วนตัวยังไม่สามารถชี้ชัดว่าพฤติการณ์แบบนี้มาจากอาการทางจิตหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้จิตแพทย์เป็นผู้ประเมินอาการอีกครั้ง

ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยา ม.รังสิต ยังให้ข้อมูลอีกว่าผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมลักษณะนี้ แม้จะถูกดำเนินดคีไปแล้ว แต่เมื่อพ้นโทษ ถูกปล่อยตัวออกสู่อิสรภาพ แนวโน้มอาจจะกลับมาก่อเหตุซ้ำได้ ดังนั้น ต้องมีมาตรการป้องกัน มีระบบติดตามตัวเมื่อพ้นโทษ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยจะทำให้ผู้ต้องหารู้สึกว่าถูกติดตามและเสี่ยงจะถูกจับกุมสูงหากก่อเหตุซ้ำอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ