ให้ออกจากราชการ “ดาบชัย” หน.แก๊งอุ้มรีดเงิน

ชลบุรี 5 ก.ย. – ให้ออกจากราชการ “ดาบชัย” หัวหน้าแก๊งอุ้มผู้เสียหายข่มขู่รีดเงิน แจ้งหลายข้อหาหนัก ยันดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โทษถึงประหารชีวิต


กรณี 2 สาวผู้เสียหายแจ้งความถูกกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นตำรวจอุ้มไปขังกรง ปล่อยสุนัขพิตบูลเฝ้าแล้วขู่รีดเงิน ก่อนปล่อยตัวออกมา ซึ่งตำรวจจับผู้ต้องหา 5 ราย พร้อมสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ

ต่อมามี น.ส.หมวย อายุ 29 ปี เหยื่ออีกราย เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน และเข้าพบตำรวจ ระบุว่าเมื่อ 2 เดือนที่ผ่าน ตนและแฟนหนุ่มถูกแก๊งนี้ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน โดยมีดาบตำรวจนายหนึ่งเป็นหัวหน้า รีดเงินไปจำนวน 20,000 บาท และบังคับจำนำรถไว้ในราคา 20,000 บาท ก่อนเอาไปใช้ก่อเหตุครั้งล่าสุดด้วย


กระทั่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 6 คน และติดตามจับกุมนายเบส ลูกสมุน (เจ้าของเซฟต์เฮาส์เกิดเหตุ) และจับกุม ด.ต.กิตติพัทธ์ พันธ์แก้ว ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ช่วยราชราชการ ศอ.ปส.ภ.จว.ชลบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้าขบวนการ ได้ที่ลานจอดคอนโดฯ แห่งหนึ่ง

เวลา 19.00 น. เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยพิสูจน์หลักฐาน 2 จังหวัดชลบุรี ได้ตรวจค้นรถยนต์ 2 คัน ที่ตรวจยึดมาจากคอนโดฯ ของดาบชัย คันแรกเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กฉ5936 สระบุรี คาดว่าเป็นรถยนต์ส่วนตัวของ ดาบชัย ภายในตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนหลายกล่อง เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และตู้เซฟ 1 ใบ ตรวจสอบภายในพบเพียงซองกันชื้น และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ส่วนรถยนต์อีกคันเป็นรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม7315 ระยอง ซึ่งเป็นรถของเหยื่ออีกรายที่ถูกขบวนการนี้บังคับให้จำนำแล้วยึดรถไว้เมื่อประมาน 1 เดือนที่ผ่านมา ภายในตรวจพบยาเสพติดหลายประเภท ซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติกอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ตรวจสอบ

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบก.ชลบุรี เปิดเผยว่า คนร้ายในขบวนการนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ เจ้าพนักงาน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เป็นผู้สั่งการ และส่วนที่ 2 คือ กลุ่มประชาชนหรือชาวบ้าน ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่แล้วก่อเหตุ ทำให้ผู้อื่นขาดอิสรภาพ กักขังไว้เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สิน ซึ่งมี 2 กลุ่ม กลุ่มละประมาน 5 คน โดยมีดาบชัยเป็นผู้บงการ หากพบเหยื่อหรือสบโอกาสจะก่อเหตุทันที


สำหรับผู้เสียหายในพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา ภายหลังเหยื่อถูกปล่อยตัวได้มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที จึงสามารถเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ และร่องรอยการก่อเหตุ ทำให้สืบสวนติดตามจับกุมตัวกลุ่มคนร้ายได้รวดเร็ว ส่วนความผิดในพื้นที่ สภ.หนองปรือ เป็นคนร้ายอีกกลุ่ม แต่มีผู้บงการคนเดียวกัน คือดาบชัย เจ้าหน้าที่ตรวจพบหลักฐานทรัพย์สินของผู้เสียหายหลายรายการ ซึ่งทราบว่าก่อเหตุในหลายพื้นที่

ขณะนี้ตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาในแก๊งดาบชับได้แล้ว 10 คน คือดาบชัย กลุ่มผู้ก่อเหตุพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา 5 คน และกลุ่มผู้ก่อเหต สภ.หนองปรือ 4 คน เหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน (ก่อเหตุในพื้นที่ สภ.หนองปรือ) ยังหลบหนีอยู่ คาดว่าจะจับกุมตัวได้เร็วๆ นี้ จากการตรวจสอบ ประวัติผู้ต้องหาพบว่าบางรายถูกต้องโทษ บางรายอยู่ในช่วงการประกันตัว บางรายเป็นการกระทำความผิดซ้ำ

สำหรับตัวดาบชัย หรือ ด.ต.กิตติพัทธ์ พันธ์แก้ว ผู้บงการหรือห้วหน้าขบวนการนี้นั้น ยังคงปิดปากเงียบ ไม่ให้การใดๆ แต่จากพยานหลักฐานต่างๆ มั่นใจว่าสามารถส่งฟ้องดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

เบื้องต้นมีคำสั่งให้ดาบชัยออกจากราชการแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมแจ้งหลายข้อหาหนัก ทั้งเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, เอาตัวบุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรม, ซ่องโจร ซึ่งความผิดที่กระทำนั้นมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ส่วนผู้ร่วมขบวนการรายอื่นจะแจ้งข้อกล่าวหาตามความผิดที่ก่อเหตุไว้ในสถานีตำรวจแต่ละพื้นที่

ตำรวจฝากผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ ให้ออกมาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]