กาฬสินธุ์ 3 ก.ย.- สองสามี-ภรรยาชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ อดีตเจ้าของร้านซ่อมและจำหน่ายอุปกรณ์รถจักรยานยนต์และแม่บ้าน ขายข้าวจี่มูนต้นทุนวันละ 100-200 บาท ขายราคาก้อนละ 5 บาท สุดปัง! รายได้วันละ 2,000 บาท สามารถผ่อนส่งบ้านราคา 3 ล้านบาทได้สบาย
ร้านปูข้าวจี่มูน อยู่บนถนนธนะผล หลังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 49/3 เจ้าของกิจการ 2 สามีภรรยาคือ นายธวัชชัย ศรีคัดเค้า อายุ 49 ปี และ นางกาญจนา ศรีคัดเค้า หรือปู อายุ 48 ปี เป็นเจ้าของร้าน กำลังให้บริการขายข้าวจี่ ให้กับลูกค้า พร้อมรับออร์เดอร์ส่งอาหารทั้งไรเดอร์ฟู้ดแพนด้า และไรเดอร์แกร็บ ที่ทยอยมารับข้าวจี่มูนอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ยังเข้าร่วมโครงการกับรัฐคนละครึ่ง อีกด้วย
นายธวัชชัย กล่าวว่าเดิมตนเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เช่าคูหาติดกับร้านขายข้าวจี่ ค่าเช่าเดือนละ 6,000 บาท โดยเปิดมานานกว่า 10 ปี ขณะที่นางกาญจนาภรรยา เป็นแม่บ้าน และขายของเล็กๆ น้อยๆ หน้าร้าน พอมีรายได้เสริมเลี้ยงลูกและส่งเสียลูกชาย 2 คนเรียนหนังสือจนจบปริญญาตรี ก่อนหน้านั้นอาชีพช่างซ่อมรถจักรยานยนต์พอไปได้เรื่อยๆ เพราะร้านซ่อมมีน้อย ต่อมาระยะหลัง ร้านซ่อมตามหมู่บ้านและในเมืองผุดขึ้นมามาก อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 แทบจะไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย จึงเริ่มต้นจากทดลองปั้นข้าวจี่ขาย สูตรข้าวจี่มูนมาวางขายหน้าร้าน และมีสินค้าของกินต่างๆ เช่น หมูทอดแดดเดียว กากหมูเจียว ลูกชิ้น กาแฟ น้ำผลไม้ต่างๆ ขายเป็นอาหารเสริม เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกค้า ปรากฏว่าขายดีขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งมีออร์เดอร์สั่งมาเป็น 500-1,000 ก้อน ทำคนเดียวไม่ทัน ตนจึงตัดสินใจปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ มาเป็นลูกมือช่วยภรรยาทำข้าวจี่มูนขายอย่างจริงจัง และเป็นอาชีพหลักถึงปัจจุบันนี้
ด้านนางกาญจนา ศรีคัดเค้า หรือปู เจ้าของสูตร “ปูข้าวจี่มูน” กล่าวว่าสาเหตุที่ทำข้าวจี่มูนขายเป็นอาชีพหลัก เนื่องจากชอบทำข้าวจี่หรือปิ้งข้าวจี่มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ซึ่งจะทำกันในฤดูหนาว โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ซึ่งจะนำข้าวเหนียวใหม่ ที่นึ่งสุกใหม่ๆ มีกลิ่นหอม มาปั้นเป็นก้อนแล้วจี่ไฟ ขณะนั่งล้อมวงผิงไฟเพื่อคลายหนาวตามประสาชาวบ้านอีสาน ซึ่งพอสิ้นสุดฤดูหนาว ไม่ได้ผิงไฟ ก็จะไม่มีข้าวจี่รับประทานกัน กว่าจะได้ทานข้าวจี่อีกครั้ง ก็ต้องรอกันเป็นปีๆ ทีเดียว หรือที่เรียกว่ามีปีละครั้งเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้ทานข้าวจี่
ปัจจุบันทำวันละ 2 หม้อ ใช้ข้าวสาร 6 กก.ได้ข้าวจี่มูน 400 ก้อน เฉลี่ยต้นทุนต่อวันคิดเฉพาะค่าข้าวสารประมาณ 200 บาท ขายได้ 2,000 บาท หรือเดือนละ 60,000 บาท แต่หากเป็นในฤดูหนาวจะขายดีกว่านี้ถึง 1 เท่าตัว สำหรับช่องทางจำหน่ายที่หน้าร้าน และบริการรับส่งโดยไรเดอร์เจ้าต่างๆ เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 08.00-20.00 น. หรือลูกค้ามีออร์เดอร์เข้ามาก็จัดให้ตามความต้องการ.-สำนักข่าวไทย
