ค้นคอนโดอดีต ผกก.โจ้ พบอุปกรณ์เสพยา – ยาบางชนิด

นครสวรรค์ 2 ก.ย.-อัยการเดินหน้าสอบอดีต ผกก.โจ้ และพวก ถึงเรือนจำพิษณุโลก หลังตำรวจค้นคอนโดและบ้านผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เจอสิ่งของที่นำไปขยายผลเชื่อมโยงพฤติกรรมแห่งคดีได้


คดีพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาเสียชีวิต กองปราบ และตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ยังเดินหน้าหาหลักฐานเชื่อมโยงพฤติการณ์ของอดีต ผกก.โจ้และพวก โดยเฉพาะประเด็นที่อดีต ผกก.โจ้ อ้างว่าเป็นไบโพลาร์ รวมถึงประเด็นยาเสพติดที่อาจมีซุกซ่อนอยู่ ซึ่งล่าสุด กองปราบ บุกค้นคอนโดของอดีต ผกก.โจ้ ที่ใช้พักขณะทำงานอยู่ในตัวเมืองนครสวรรค์ โดยคอนโดนี้อยู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ ริมอุทยานสวรรค์ ความสูง 8 ชั้น ห้อง อดีต ผกก.โจ้ มีขนาด 32 ตารางเมตร เจ้าตัวเช่าพักเดือนละ 6,500 บาท มาตั้งแต่ปลายปี 63 แต่ไม่กี่วันก่อน ญาติๆ มาขอยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้ว ส่วนภายในห้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกแบบเรียบง่าย แค่เตียง ตู้เสื้อผ้า ทีวี ส่วนการตรวจค้นของใช้ส่วนตัว พบอุปกรณ์เสพยา เศษผงยาเสพติด และยาบรรจุซองวางอยู่ โดยมีรายงานว่า ยาที่พบ เป็นยาคลายเครียด ยาขยายหลอดเลือด ลดความดัน และยาพ่นรักษาภูมิแพ้

ขณะที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เปิดปฏิบัติการรุ่งสาง ตามคำสั่งของ พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังบุกค้นบ้านของตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ที่ถูกจับในคดีอดีต ผกก.โจ้ โดยเฉพาะบ้านของดาบตำรวจวิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ดาบโบ้ นอกจากจะอยู่แฟลตตำรวจที่อยู่หลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแล้ว ยังมีบ้านพักอีกแห่งในตำบลหนองกระโดนด้วย ซึ่งการตรวจค้นพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่จำนวนหนึ่ง


ส่วนความเคลื่อนไหวที่พิษณุโลก นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการภาค 6 และพันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วยทนายฝั่งผู้ต้องหา บุกเรือนจำพิษณุโลก เพื่อสอบปากคำอดีต ผกก.โจ้ และพวก เพราะตามหลักเมื่อคดีมีการชันสูตรพลิกศพ หรือมีใครเสียชีวิตระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ต้องสอบสวนโดยพนักงานอัยการ ร่วมกับ พนักงานสอบสวน เนื่องจากสำนวนคดีที่แจ้งความไว้เป็นการกระทำโดยพนักงานของเจ้าพนักงานสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว พนักงานอัยการยังไม่มีส่วนร่วมด้วย อัยการจึงต้องมาร่วมสอบสวนให้ครบตามกระบวนการ และภายหลังสอบสวนเสร็จสิ้น รองอธิบดีอัยการภาค 6 ให้ข้อมูลว่ากับนักข่าวว่า วันนี้ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวก ยังอยู่ในอาการสงบ ไม่มีอาการเครียด เหมือนวันแรกๆ ทุกคนให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี

ส่วนการให้ปากคำ อดีต ผกก.โจ้ ยังยืนยันให้การภาคเสธ โดยบอกว่า กระทำจริง แต่อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่า แค่ต้องการเค้นข้อมูล ซึ่งการให้ปากคำลักษณะนี้ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ทางอัยการยืนยันว่า การสอบสวนครั้งนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วว่า ฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผลโดยทารุณโหดร้ายและทนทุกข์ทรมาน หลักการตามกฎหมายยังอยู่เหมือนเดิม เพราะการพิจารณาของอัยการ และตำรวจจะดูว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏมีลักษณะของการเจตนาที่จะฆ่าจริงหรือไม่ มีลักษณะทารุณโหดร้ายจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ดูที่เจตนา และ “กรรม” หรือการกระทำ เป็นเครื่องชี้เจตนา

นอกจากนี้ รองอธิบดีอัยการภาค 6 ยังอธิบายแบบละเอียดอีกครั้งถึงพฤติการณ์ของอดีต ผกก.โจ้ ว่าตามหลักฐานที่ปรากฏ ทำไมใช้ถุงคลุมศีรษะเหยื่อถึง 6 ชั้น มีการขันชะเนาะหลายรอบ ทำให้รอบคอมีรอยแดง ซึ่งเป็นลักษณะการใช้ความรุนแรง ส่วนประเด็นไบโพลาร์ ท่านอธิบายชัด และยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างว่าอย่างไร จะปฏิเสธอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่เชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อในข้อมูลของแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีหน้าที่โดยตรง ไม่ใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ ของผู้ต้องหา ฟังแล้วค่อนข้างชัดเจน แต่คดีจะพลิกอีกหรือไม่ ต้องรอติดตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า กำลังเร่งทำสำนวนการสอบสวน และชันสูตรพลิกศพให้เสร็จ คาดไม่เกิน 30 วัน สามารถส่งสำนวนต่อศาลให้พิจารณาคดีได้ ส่วนข้อกล่าวหา ย้ำว่ายัง 3 ข้อเหมือนเดิม คือ ฆ่าคนตายโดยทรมานโหดร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุแก่ความตาย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยกฎหมาย


ส่วนความเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น วันนี้ กมธ.กฎหมาย ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน จึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง นำทีมโดยพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พลตำรวจตรี ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ และแพทย์นิติเวช เข้าร่วม

ทันทีที่เริ่มประชุม นายสิระ ได้สอบถามตำรวจว่า คดีนี้ มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในระหว่างดำเนินการจับกุมหรือไม่ ซึ่งพลตำรวจเอกสุชาติ ยืนยันคดีนี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฏหมาย ไม่ได้ช่วยเหลือผู้กระทำผิด ขณะที่ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ยอมรับเคยพบ และรู้จักกับ อดีต ผกก.โจ้ มาก่อนบ้าง แต่ไม่ได้สนิท พร้อมย้ำคำเดิมคืนก่อนมอบตัว อดีต ผกก.โจ้ ได้โทรมาหาและร้องไห้บอกว่าอยากตาย ทำให้ต้องบอกไปว่า อย่าคิดสั้นควรต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องป้ายทะเบียนยอมรับไม่ได้โฟกัสจริงๆ เพราะสมาธิอยู่ที่ตัวผู้ต้องหา

ส่วนนายน้ำแท้ มีบุญสล้าง ผอ.สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาการสอบสวนฯ และดำเนินคดี สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงประเด็นการเสียชีวิตของเหยื่อ ว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปยังพนักงานอัยการทันที แต่ตำรวจที่ทำคดีนี้ไม่ได้ดำเนินการทันที เมื่ออัยการลงไปทำคดี จึงสั่งให้ชันสูตรใหม่ทั้งหมด เพราะที่ทำมานั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งนับว่า โชคดีที่แพทย์ทำรายงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าจะได้รับคำให้การเท็จมาจากตำรวจในตอนแรก และยังโชคดีที่แพทย์ได้ผ่าพิสูจน์ไว้อย่างละเอียด ทำให้การชันสูตรใหม่ ผลออกมาสอดคล้องกับพยานหลักฐาน และกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ

เรื่องคดีก็ต้องตามกันต่อ แต่ประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ ที่เว็บไซต์ราชกิจจาเผยแพร่ มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งรายละเอียดมี 5 ข้อใหญ่ 7 ข้อย่อย โดยข้อใหญ่ที่น่าสนใจ คือ ข้อ 2 ที่เป็นประเด็นในการรักษาจริยธรรม มีการระบุไว้ว่า ต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ ด้วยการแสดงออกถึงความภูมิใจในชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ กล้าตัดสินใจและยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม กล้าคัดค้าน และแก้ไขสิ่งไม่ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ ไม่คบหาหรือให้การสนับสนุนผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ ดำรงตนเป็นแบบอย่างด้วยการเป็นข้าราชการที่ดี รักษาภาพลักษณ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]