นครสวรรค์ 1 ก.ย.-วันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.64) พนักงานสอบสวน จะเข้าสอบปากคำผู้ต้องหา ทั้ง 7 ราย ในคดีอดีตผู้กำกับโจ้ และพวก ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ที่เรือนจำพิษณุโลก
วันพรุ่งนี้ (2 ก.ย.64) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปราม คณะทำงานพนักงานสอบสวน บอกว่า จะเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ที่เรือนจำพิษณุโลก ในคดีอดีตผู้กำกับโจ้ และพวก ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต ซึ่งตั้งเเต่ฝากขัง ทั้ง 7 ราย เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เป็นต้นมา ยังไม่มีการไปสอบปากคำเพิ่ม โดยการสอบครั้งนี้จะมีพนักงานสอบสวน ทนายความ และอัยการ เข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 155/1 การสอบสวนในกรณีที่มีความตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้พนักงานอัยการเข้าร่วมกับพนักงานสอบสวนในการทำสำนวนสอบสวน การทำสำนวนสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้รับผิดชอบโดยพนักงานอัยการอาจให้คำแนะนำ ตรวจสอบพยานหลักฐาน ถามปากคำ หรือสั่งให้ถามปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่เริ่มการทำสำนวนสอบสวน นับแต่โอกาสแรกเท่าที่จะพึงกระทำได้
ขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพ มีดังนี้
-พนักงานสอบสวน – พนักงานอัยการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพให้เสร็จภายใน 30 วัน (ขยายได้ 2 ครั้ง / ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
-พนักงานอัยการทำคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลทำการไต่สวน และทำคำสั่ง แสดงว่า • ผู้ตายคือใคร ? • ตายที่ไหน ? • ตายเมื่อใด ? • เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ? ถ้าเสียชีวิตโดยมีคนทำร้าย ต้องรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำนวน ขยายเวลาได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 30 วัน (ต้องมีเหตุผลที่มีการขยายเวลา)
-นัดไต่สวน สามี ภริยา บุพการี ผู้สืบสันดาน ผู้แทน โดยชอบธรรม หรือญาติของผู้ตาย อย่างน้อย 1 คน
-ศาลสามารถเรียกพยานมาสืบเพิ่มเติมได้ และยังขอให้ผู้เชียวชาญมาให้ความเห็นเพื่อประกอบการไต่สวนได้
-ศาลมีคำสั่งเรื่องการชันสูตรพลิกศพ
-ได้พยานสำคัญไปประกอบในคดีของ ผู้กำกับโจ้และพวกต่อไป
โดยจะเห็นได้ว่าผู้ชั้นสูตรพลิกศพ มีคำตอบในเรื่องการเสียชีวิตเกือบจะสมบูรณ์แล้ว ซึ่งเป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 154 ให้ผู้ชั้นสูตรพลิกศพทำความเห็นเป็นหนังสือแสดง เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด ถ้าตายโดยคนทำร้าย ให้กล่าวว่าใครหรือสงสัยว่าใครเป็นผู้กระทำผิด เท่าที่จะทราบได้
โดยสรุปผลในเบื้องต้น คือ
• ผู้ตายคือใคร ? – นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี
• ตายที่ไหน ? – บ้านกาแฟ สภ. เมืองนครสวรรค์ หรือ โรงพยาบาลโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
• ตายเมื่อใด ? – 5 สิงหาคม 2564
• เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ? – รอสอบปากคำต้องหารวม 7 คน ในวันที่ 2 กันยายน 2564 ที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก
ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บเพื่อนำใช้ในการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับ แก๊ง “ผู้กำกับโจ้” เบื้องต้นมี 10 รายการ ดังนี้
- หลักฐานที่เก็บจากบริเวณเก้าอี้โซฟาสีเทา
- เศษเส้นผม เส้นขน บริเวณพื้นห้องจุดที่ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ เสียชีวิต
- หลักฐานที่เก็บจากเก้าอี้สีแดง
- น้ำดื่ม 2 ขวด
- หลักฐานที่เก็บจากโซฟายาวด้านขวา
- ขวดน้ำดื่ม 1 ใบ
- หลักฐานที่เก็บจากด้ามจับเปิดปิดประตู
- หลักฐานลายนิ้วมือแฝง บริเวนโต๊ะทำงาน
- ตรวจเก็บเยื่อบุกระพุ้งแก้ม 2 ข้าง ของ น.ส.กนกวรรณ คล้ายนิ่ม ภรรยาผู้ตาย
- ตรวจเก็บเนื้อเยื่อกระพุ้งแก้ม น.ส.จันทร์จิรา ธนพัฒน์ แม่ผู้ตาย