ประจวบคีรีขันธ์ 1 ก.ย.- “พลายบุญมี” บุกพังกำแพงบ้านแม่ค้ากล้วยทอดอีกเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 เดือน ครั้งนี้กินข้าวสวยจนหมดหม้อ กินข้าวสาร น้ำมันพืชอีกครึ่งปี๊บ ก่อนกลับคว้าถุงกล้วยติดงวงออกไปด้วย ตรวจสอบสภาพบ้าน เสียหายหนัก เจ้าของบ้านเครียด วอนเร่งแก้ปัญหาเคลื่อนย้ายพลายบุญมี ออกนอกพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านเริ่มหวาดกลัว
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านป่าละอู ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับบ้านป้าสุภา แตงทอง หรือป้าใหญ่ อายุ 58 ปี อาชีพแม่ค้าขายกล้วยทอดป่าละอู ตั้งอยู่ริมถนนเข้าหมู่บ้านป่าละอู บ้านเลขที่ 155 หมู่ 1 ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าบ้านของป้าสุภาถูกช้างป่าละอูเจ้าถิ่น “พลายบุญมี” บุกเข้ามาพังกำแพง ที่เพิ่งทำขึ้นมาใหม่ได้ประมาณเดือนเศษ เนื่องจากเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พลายบุญมีได้บุกเข้ามาพังประตูเหล็กม้วนจนเสียหาย โดยครั้งนี้พลายบุญมีได้บุกเข้าไปในบ้าน รื้อทำลายข้าวของ กินข้าวสวยที่หุงไว้เต็มหม้อจนหมดเกลี้ยง กินข้าวสาร น้ำตาล น้ำมันพืชในปี๊บที่มีอยู่ประมาณครึ่งปี๊บจนหมด กินกล้วยน้ำว้าที่เตรียมไว้กว่า 10 หวี ซึ่งขณะที่กำลังกินกล้วยมีการจุดประทัดยักษ์ไล่ ก่อนจะกลับออกมาพลายบุญมียังได้ใช้งวงคว้าถุงกล้วยน้ำว้าที่เหลือติดตัวออกมาด้วย
จากการตรวจสอบพบข้าวของภายในบ้านพังเสียหาย กำแพงปูนที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ จัดงบประมาณเข้ามาซ่อมแซม แทนประตูเหล็กม้วน โดยครั้งนั้นหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ,ตำรวจพลร่มชุดพัฒนาการ 712 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ช่วยกันก่อสร้างใหม่เสียหายเกือบทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 3 ในรอบสองเดือน
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผบ.ร้อย กองกำกับการ 1 ตชด.ค่ายนเรศวร ชุดพัฒนาการเคลื่อนที่ 712 ,นายประทีป กุ้งวงตาล ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกัน องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร ชุดพัฒนาการเคลื่อนที่712 ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และเจ้าหน้าที่ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้เดินทางไปดูสภาพความเสียหายที่บ้านของป้าสุภา เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะช่วยกันซ่อมแซมในวันที่ 4 กันยายน เนื่องจากขณะนี้ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน และช่าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อยู่ในระหว่างกักตัว เนื่องจากมีการระบาดของโควิดในพื้นที่หมู่บ้านกระเหรี่ยงป่าละอู และค่ายฤทธิ์ฤาชัย
ป้าสุภา เล่าว่าขณะเกิดเหตุช้างบุกเข้ามา ตนเองและสามีนอนหลับอยู่ในห้องพักภายในบ้าน กระทั่งช่วงเที่ยงคืนได้ยินเสียงของหล่นจึงเปิดประตูออกไปดู พบพลายบุญมีพังกำแพงบ้านเข้ามา กำลังเดินใช้งวงแกว่งไปมารื้อค้นข้าวของ ตนและสามีจึงพากันหนีออกทางประตูหลัง และจุดประทัดยักษ์ไล่ เพื่อนบ้านก็ช่วยกันประมาณครึ่งชั่วโมง พลายบุญมีจึงเดินออกมา และเดินไปตามถนน ตนเองรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ช้างป่าที่บุกพังบ้านซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงอยากให้กรมอุทยานฯ แห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์ุพืช เร่งจัดการแก้ปัญหาในการเคลื่อนย้ายพลายบุญมีออกไป อยากให้เร่งดำเนินการก่อนที่จะเดือดร้อนหนักมากกว่านี้ ครั้งนี้โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ข้าวของที่เอาไว้ทำมาหากินก็หมดไปด้วย
ด้านนายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย.ผช.หน.อช.แก่งกระจาน กล่าวว่าการเคลื่อนย้ายช้างพลายบุญมีออกไปเป็นเรื่องที่กรมอุทยานฯ แห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นผู้ตัดสินใจ ตนเองก็นำเสนอถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านเข้าไปทุกครั้ง ซึ่งช่วงนี้ชุดตระเวนผลักดันช้างป่ามีน้อย ถูกกักตัวอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากในพื้นที่คลัสเตอร์โควิด-19.-สำนักข่าวไทย