คุมตัวลูกชาย-ลูกสะใภ้สอบ หลังหญิงชราวัย 92 ปี ถูกฆ่าคาบ้าน

อ่างทอง 29 ส.ค.- ตำรวจนำลูกชายและลูกสะใภ้หญิงชราวัย 92 ปี ที่ถูกฆ่าเสียชีวิตภายในบ้านไปสอบเข้ม ขณะที่เพื่อนบ้านเผยได้ยินเสียงทะเลาะเป็นประจำ คาดเป็นชนวนเหตุฆาตกรรมครั้งนี้


กรณีพบร่างของนางสงวน อายุ 92 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บนบ้าน บริเวณใบหน้าและลำตัวมีบาดแผลคล้ายถูกฟันด้วยของมีคมจนเกลือดกระจายเต็มพื้นในบ้านหลังหนึ่ง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมภายในบ้าน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนางสาววรรณา อายุ 56 ปี ภรรยาของนายสุรศักดิ์ บุตรชายของนางสงวนที่อยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก และมีร่องรอยบาดแผลบริเวณที่แขนด้านขวา พร้อมยึดกางเกงยีนส์เปื้อนเลือดและมีดทำครัว 2 เล่มที่อยู่ในที่เกิดเหตุไปเป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อประกอบกับหลักฐานที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญพยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมาสอบสวน โดยพยานให้การว่าที่บ้านนี้ทะเลาะวิวาทกันเป็นประจำ โดยเฉพาะนางสาววรรณาที่มีปากเสียงกับนางสงวนจนชาวบ้านรู้กันไปทั่ว ถ้าเป็นลูกสะใภ้ทำก็ถือว่าโหดเหี้ยมผิดมนุษย์มาก


นางสงบ บุตรสาวของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า นางสงวนมีบุตรอยู่ด้วยกัน 9 คน โดยอยู่กับนายสุรศักดิ์กับภรรยา โดยส่วนตัวเคยเจอลูกสะใภ้แค่ครั้งเดียวไม่รู้นิสัยใจคอว่าเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ซึ่งหากเป็นคนก่อเหตุก็ถือว่าใจร้ายมาก

ด้านนายสุรศักดิ์ บุตรชาย ยอมรับว่าภรรยาของตนมีปัญหากับแม่บ่อยๆ โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องหลงลืมและชอบด่าว่ากันเป็นประจำ ซึ่งตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ส่วนนางสาววรรณา ซึ่งยังมีอาการพูดจาไม่รู้เรื่อง และยังคงปฎิเสธว่าไม่เคยมีเรื่องอะไรนางสงวน เมื่อวานก็ยังเอายาขึ้นไปให้อยู่ แล้วก็เข้าไปเอนหลังดื่มเหล้าในบ้านซึ่งก็มีน้ำอะไรหยดลงมาจากข้างบนแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะเมา แต่ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บหลักฐาน DNA ของทั้งนายสุรศักดิ์และนางสาววรรณาไว้ เพื่อตรวจสอบกับหลักฐานที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นยังคงควบคุมตัวไว้สอบสวน และรอพยานหลักฐานเพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่