มุกดาหาร 27 ส.ค. – พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เผยพฤติกรรมลุงพล ในสำนวนคดีการฆาตกรรมปริศนาน้องชมพู่ เป็นการเล็งเห็นผลที่จะทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตได้ จึงสั่งให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ขณะที่แม่น้องชมพู่และชาวบ้านมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม หลังอัยการลงพื้นที่ด้วยตัวเอง แม้จะสั่งฟ้องไม่ทันกำหนดการฝากขัง
กว่า 1 ปี 3 เดือน คดีฆาตกรรมปริศนาน้องชมพู่ ความวิตกกังวลของชาวบ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ทยอยดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะหลังนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งล่าสุดมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย
พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า หลักฐานในสำนวนการสอบสวนที่ปรากฏพฤติกรรมของลุงพล ที่พรากน้องชมพู่ไปปล่อยไว้บนภูเหล็กไฟ เป็นการเล็งเห็นผลว่าจะทำให้เสียชีวิตได้ จึงสั่งให้ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา การสั่งฟ้องไม่ทันกำหนดฝากขัง 84 วัน ไม่ส่งผลเสียต่อคดี คาดว่าจะสามารถพิจารณาสั่งฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลได้ภายใน 10 วัน
แม่น้องชมพู่ ไม่รู้สึกกังวล เพราะมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมมาตลอด รอความยุติธรรมมากว่า 1 ปี ยังรอได้ รออีกสักหน่อย ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
เช่นเดียวกับชาวบ้านกกกอก ที่เห็นคณะพนักงานอัยการมาลงพื้นที่สอบสวนด้วยตัวเอง จึงมั่นใจว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายได้โดยไม่มีการกล่าวหาผิดคน
ด้านทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ปฏิเสธให้สัมภาษณ์คดีลุงพล ขณะที่ลุงพลเอง ไปรายงานตัวครั้งสุดท้ายกับผู้ใหญ่บ้านกกตูม หลังสิ้นสุดอำนาจการฝากขัง ซึ่งมีการวิดีโอคอลต่อศาลเหมือนทุกครั้ง ผู้ใหญ่บ้านกกตูม ยืนยันว่าตลอดระยะเวลาการฝากขัง ลุงพลไม่มีพฤติกรรมข่มขู่ หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ก่อนหน้านี้ ลุงพลมีคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว 3 คดี ได้แก่ คดีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติสร้างรูปปั้นพญานาค คดีทำไม้ในเขตหวงห้าม และทำร้ายร่างกายผู้สื่อข่าว . – สำนักข่าวไทย