แยกสอบเครียดปม ผกก.ใช้ถุงดำคลุมหัวรีดเงิน

นครสวรรค์ 23 ส.ค. – กระจายกำลังเร่งสอบสวนปมผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีดเงินยาเสพติดจนเสียชีวิต ตำรวจคาดว่ารู้ผลสอบภายใน 30 วัน ขณะที่พ่อ แม่ ภรรยาผู้เสียชีวิต และชุดจับกุม ถูกเรียกมาแยกสอบเครียด


หลังมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปประจำตำรวจภูธรภาค 6 จากกรณีถูกกล่าวหาพัวพันใช้ถุงดำคลุมหัวรีดเงิน 2 ล้านบาท จากสามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ทำให้ฝ่ายชายขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม โดยพลตำรวจตรีระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เรียกประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่ง ผบ.ตร. กำชับให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และวันนี้มีจเรตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาติดตามคดีด้วย

ผลประชุมได้แบ่งคณะทำงานเป็น 2 ส่วน โดยทีมของจเรตำรวจจะไปสอบ ปากคำพ่อ แม่ และภรรยาของผู้เสียชีวิต ส่วนทีมตำรวจภูธรนครสวรรค์จะเรียกผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องที่เป็นชุดจับกุม มาสอบข้อเท็จจริง


เมื่อมาร์กจุดได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ลุยไปสอบปากคำ โดยพันตำรวจเอกณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รักษาการผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ นำทีมไปสอบที่ สภ.เมืองนครสวรรค์, พันตำรวจเอกสุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ใช้กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ สอบสวน และหัวหน้าชุด พันตำรวจเอกสมชาย จันทร์คง รองผู้บังคับการ สภ.นครสวรรค์ ใช้ห้องประชุมภูธรจังหวัดนครสวรรค์ แยกกันสอบ เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ หรือที่เรียกกันว่าชุด 05 จำนวน 13 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมนายจิระพงศ์ พร้อมภรรยา มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

โดยตำรวจชุด 05 ถูกแยกสอบตลอดทั้งวันด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด ไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ หน้าประตูมีตำรวจยืนเฝ้า 2 นาย ตลอดการสอบสวน เพราะมีข่าวลือว่าหนึ่งในชุดจับกุม ยศดาบตำรวจ มีคลิปตอนที่ใช้ถุงคลุมหัวผู้ตาย เตรียมเผยแพร่ ทำให้ทั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริง และชุดทำงาน 05 กังวลในคำให้การ ย้ำว่าทั้งหมดที่สอบสวน “ไม่ใช่ผู้ต้องหา” เป็นเพียงพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อเท็จจริงเท่านั้น

ทั้งนี้ มีรายงานว่าชุดสอบสวนตั้งประเด็นการสอบพุ่งเป้าไปหาข้อเท็จจริงที่ว่าในวันเกิดเหตุมีใครร่วมจับกุมบ้าง เกิดอะไรขึ้น ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะจุดที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปจับมาจากไหน ก่อนนำตัวมา สภ.เมืองนครสวรรค์ และใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในวันเกิดเหตุ ซึ่งรายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้


ด้านชุดสอบสวนหาข้อเท็จจริงในส่วนของจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยพลตำรวจตรีภูริวัจช พูลสวัสดิ์ ผบก.กก.6 จเรตำรวจ พร้อมด้วยชุดสอบสวน เดินทางไปบ้านของพ่อ แม่ และภรรยาของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองตาคลี เพื่อเชิญมาสอบปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี แต่เรืออากาศตรีจักรกฤษ พ่อของผู้ตาย ไม่ยอมไป บอกจะขอให้การที่บ้านพักเท่านั้น พร้อมกับยืนยันว่าไม่ติดใจเอาความ และย้ำว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะมีหลายโรครุมเร้า

ส่วนนางจันจิรา แม่ของผู้ตาย และนางสาวกมลวรรณ ภรรยาผู้ตาย และพยานจำนวนหนึ่ง ยอมมาให้ปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดขึ้นไปยังห้องสอบสวนชั้น 2 ทันที และห้ามไม่ให้สื่อเข้าไปสังเกตการณ์ โดยย้ำว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้บังคับบัญชาจึงกำชับให้ทำหน้าที่อย่างรอบคอบ และขณะนี้ได้แยกห้องสอบแม่และภรรยาผู้ตาย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมากที่สุด

นอกจากพ่อ แม่ ภรรยา รวมถึงชุดจับกุม ที่ถูกเรียกมาสอบ ชุดสอบสวนยังได้ทำหนังสือแจ้งผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ถูกเด้งไปภาค 6 และเจ้าหน้าที่ รพ.พริ้นซ์ปากน้ำโพ เจ้าหน้าที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ที่ชันสูตรพลิกศพ ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ศพ เนื่องจากขณะนี้ศพถูกเผาไปแล้ว ส่วนตัวผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ มีรายงานว่าเมื่อเช้าได้มาเซ็นชื่อรายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก แล้ว แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ากี่โมง

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ สมัยที่ทำงานเป็น รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ทำงานในตำแหน่งรองสืบฯ ขณะเดียวกันยังทำงานเหมือนกับเลขานุการส่วนตัวกับผู้บัญชาการภาค 6 เสมือนเป็นญาติกัน มีการทำคดีสำคัญ อาทิ ปิดคดียิง 3 ศพ ของคนใน สวท.พิษณุโลก เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กระทั่งนั่งตำแหน่งรองกำกับสืบสวนจนครบวาระ และ ผบช.ภาค 6 เซ็นคำสั่งให้ไปนั่งตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.นครสวรรค์ในที่สุด

กรณีนี้ต้องย้ำว่าคณะทำงานที่เป็นชุดสืบสวนพยายามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุเส้นทางเลี่ยงเมือง เรื่อยมาจนถึงโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ว่าในวันเกิดเหตุมีใครจับกุมตัวนายจิระพงศ์ และภรรยา มาสอบสวนและเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะประเด็นผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปร่วมสอบผู้ตายด้วยหรือไม่ ซึ่งมีรายงานว่าจุดที่นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีชื่อเรียกว่า ”บ้านกาแฟ” ตั้งอยู่ใน สภ.เมืองนครสวรรค์ หากรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดได้จะทำให้รู้เส้นทางการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน เส้นทางการนำส่งโรงพยาบาล และทราบว่ามีใครเกี่ยวข้อง และมีหน้าที่ทำอะไรบ้างในเรื่องนี้

ด้านพลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏขณะนี้อาจทำให้ประชาชนสับสนในข้อเท็จจริงหลายอย่าง เพราะพ่อบอกอีกอย่าง แต่มีการกล่าวหาอีกอย่าง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจนและโปร่งใส โดยยึดตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่ใช้ความรู้สึกมาเป็นคำตอบ รวมถึงจะให้ความเป็นธรรม และไม่ช่วยเหลือตำรวจด้วยกันเด็ดขาด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย