แยกสอบเครียดปม ผกก.ใช้ถุงดำคลุมหัวรีดเงิน

นครสวรรค์ 23 ส.ค. – กระจายกำลังเร่งสอบสวนปมผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหารีดเงินยาเสพติดจนเสียชีวิต ตำรวจคาดว่ารู้ผลสอบภายใน 30 วัน ขณะที่พ่อ แม่ ภรรยาผู้เสียชีวิต และชุดจับกุม ถูกเรียกมาแยกสอบเครียด


หลังมีคำสั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปประจำตำรวจภูธรภาค 6 จากกรณีถูกกล่าวหาพัวพันใช้ถุงดำคลุมหัวรีดเงิน 2 ล้านบาท จากสามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ทำให้ฝ่ายชายขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม โดยพลตำรวจตรีระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เรียกประชุมคณะทำงานกำหนดแนวทางการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่ง ผบ.ตร. กำชับให้สอบสวนอย่างตรงไปตรงมา และวันนี้มีจเรตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินทางมาติดตามคดีด้วย

ผลประชุมได้แบ่งคณะทำงานเป็น 2 ส่วน โดยทีมของจเรตำรวจจะไปสอบ ปากคำพ่อ แม่ และภรรยาของผู้เสียชีวิต ส่วนทีมตำรวจภูธรนครสวรรค์จะเรียกผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ และลูกน้องที่เป็นชุดจับกุม มาสอบข้อเท็จจริง


เมื่อมาร์กจุดได้แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ลุยไปสอบปากคำ โดยพันตำรวจเอกณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รักษาการผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ นำทีมไปสอบที่ สภ.เมืองนครสวรรค์, พันตำรวจเอกสุทธินันท์ คงแช่มดี ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ใช้กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรนครสวรรค์ สอบสวน และหัวหน้าชุด พันตำรวจเอกสมชาย จันทร์คง รองผู้บังคับการ สภ.นครสวรรค์ ใช้ห้องประชุมภูธรจังหวัดนครสวรรค์ แยกกันสอบ เจ้าหน้าที่เฉพาะกิจ หรือที่เรียกกันว่าชุด 05 จำนวน 13 นาย ซึ่งเป็นชุดจับกุมนายจิระพงศ์ พร้อมภรรยา มาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครสวรรค์

โดยตำรวจชุด 05 ถูกแยกสอบตลอดทั้งวันด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด ไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ หน้าประตูมีตำรวจยืนเฝ้า 2 นาย ตลอดการสอบสวน เพราะมีข่าวลือว่าหนึ่งในชุดจับกุม ยศดาบตำรวจ มีคลิปตอนที่ใช้ถุงคลุมหัวผู้ตาย เตรียมเผยแพร่ ทำให้ทั้งชุดสอบสวนข้อเท็จจริง และชุดทำงาน 05 กังวลในคำให้การ ย้ำว่าทั้งหมดที่สอบสวน “ไม่ใช่ผู้ต้องหา” เป็นเพียงพยานแวดล้อมเพื่อหาข้อเท็จจริงเท่านั้น

ทั้งนี้ มีรายงานว่าชุดสอบสวนตั้งประเด็นการสอบพุ่งเป้าไปหาข้อเท็จจริงที่ว่าในวันเกิดเหตุมีใครร่วมจับกุมบ้าง เกิดอะไรขึ้น ใครมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะจุดที่จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไปจับมาจากไหน ก่อนนำตัวมา สภ.เมืองนครสวรรค์ และใครเข้ามาเกี่ยวข้องบ้างในวันเกิดเหตุ ซึ่งรายละเอียดยังเปิดเผยไม่ได้


ด้านชุดสอบสวนหาข้อเท็จจริงในส่วนของจเรตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยพลตำรวจตรีภูริวัจช พูลสวัสดิ์ ผบก.กก.6 จเรตำรวจ พร้อมด้วยชุดสอบสวน เดินทางไปบ้านของพ่อ แม่ และภรรยาของผู้ตาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองตาคลี เพื่อเชิญมาสอบปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี แต่เรืออากาศตรีจักรกฤษ พ่อของผู้ตาย ไม่ยอมไป บอกจะขอให้การที่บ้านพักเท่านั้น พร้อมกับยืนยันว่าไม่ติดใจเอาความ และย้ำว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะมีหลายโรครุมเร้า

ส่วนนางจันจิรา แม่ของผู้ตาย และนางสาวกมลวรรณ ภรรยาผู้ตาย และพยานจำนวนหนึ่ง ยอมมาให้ปากคำที่สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวทั้งหมดขึ้นไปยังห้องสอบสวนชั้น 2 ทันที และห้ามไม่ให้สื่อเข้าไปสังเกตการณ์ โดยย้ำว่าเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้บังคับบัญชาจึงกำชับให้ทำหน้าที่อย่างรอบคอบ และขณะนี้ได้แยกห้องสอบแม่และภรรยาผู้ตาย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริงมากที่สุด

นอกจากพ่อ แม่ ภรรยา รวมถึงชุดจับกุม ที่ถูกเรียกมาสอบ ชุดสอบสวนยังได้ทำหนังสือแจ้งผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่ถูกเด้งไปภาค 6 และเจ้าหน้าที่ รพ.พริ้นซ์ปากน้ำโพ เจ้าหน้าที่ รพ.สวรรค์ประชารักษ์ ที่ชันสูตรพลิกศพ ให้มาพบพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ศพ เนื่องจากขณะนี้ศพถูกเผาไปแล้ว ส่วนตัวผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ มีรายงานว่าเมื่อเช้าได้มาเซ็นชื่อรายงานตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 6 ตำบลมะตูม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก แล้ว แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่ากี่โมง

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ สมัยที่ทำงานเป็น รองผู้กำกับสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ทำงานในตำแหน่งรองสืบฯ ขณะเดียวกันยังทำงานเหมือนกับเลขานุการส่วนตัวกับผู้บัญชาการภาค 6 เสมือนเป็นญาติกัน มีการทำคดีสำคัญ อาทิ ปิดคดียิง 3 ศพ ของคนใน สวท.พิษณุโลก เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กระทั่งนั่งตำแหน่งรองกำกับสืบสวนจนครบวาระ และ ผบช.ภาค 6 เซ็นคำสั่งให้ไปนั่งตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.นครสวรรค์ในที่สุด

กรณีนี้ต้องย้ำว่าคณะทำงานที่เป็นชุดสืบสวนพยายามตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุเส้นทางเลี่ยงเมือง เรื่อยมาจนถึงโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ว่าในวันเกิดเหตุมีใครจับกุมตัวนายจิระพงศ์ และภรรยา มาสอบสวนและเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยเฉพาะประเด็นผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปร่วมสอบผู้ตายด้วยหรือไม่ ซึ่งมีรายงานว่าจุดที่นำตัวผู้ต้องหามาสอบสวนเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีชื่อเรียกว่า ”บ้านกาแฟ” ตั้งอยู่ใน สภ.เมืองนครสวรรค์ หากรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดได้จะทำให้รู้เส้นทางการนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน เส้นทางการนำส่งโรงพยาบาล และทราบว่ามีใครเกี่ยวข้อง และมีหน้าที่ทำอะไรบ้างในเรื่องนี้

ด้านพลตำรวจเอกวิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏขณะนี้อาจทำให้ประชาชนสับสนในข้อเท็จจริงหลายอย่าง เพราะพ่อบอกอีกอย่าง แต่มีการกล่าวหาอีกอย่าง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันดำเนินการตรวจสอบให้ชัดเจนและโปร่งใส โดยยึดตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่ใช้ความรู้สึกมาเป็นคำตอบ รวมถึงจะให้ความเป็นธรรม และไม่ช่วยเหลือตำรวจด้วยกันเด็ดขาด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]