ฉะเชิงเทรา 20 ส.ค.-สั่งปิดแล้ว บ้านพักคนชราเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ไม่มีใบอนุญาต มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ติดโควิด เจ้าหน้าที่เร่งย้ายผู้ป่วยรักษาโรงพยาบาล
กรณีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านพักคนชราเอกชนแห่งหนึ่ง ริมถนนสายฉะเชิงเทรา-สุวินทวงศ์ ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านถึงสถานประกอบการแห่งนี้มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ติดโควิด-19 จำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าสถานประกอบการแห่งนี้กำลังอยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน เพื่อเป็นสถานประกอบการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาระพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืน ในลักษณะกิจการนิติบุคคล พบผู้สูงอายุและคนชราที่ยังรักษาตัวอยู่ภายในสถานประกอบการแห่งนี้ อีก 10 คน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีผู้ดูแลผู้ป่วยอีก 4 คน ติดเชื้อแล้ว 2 คน กระทั่งนายประเทือง อยู่เกษม นายอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุขจังหวัดและอำเภอ รวมถึงหน่วยงานหลักอย่างพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เข้าไปตรวจสอบเอกสาร พร้อมปิดสถานประกอบการบ้านพักคนชราเอกชนแห่งนี้ทันที เนื่องจากยังไม่ได้รับใบอนุญาตเปิดสถานประกอบการที่ถูกต้อง
ล่าสุด นายชำนาญ ฉัตรวิเชียร รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา นำทีมชุดสก๊อตหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและหน่วยกู้ภัยพนม พร้อมรถเฉพาะทางเข้าไปเคลื่อนย้ายผู้ป่วยภายในสถานประกอบการแห่งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบผู้ป่วยเป็นเพศหญิงทั้งหมด 10 ราย และผู้ดูแลผู้ป่วยเป็นชาย 1 และหญิง 1 ทั้งหมดรวม 12 รายที่ติดโควิด
โดยเจ้าหน้าที่เริ่มทำการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์และผู้สูงอายุที่อยู่ระหว่างพักฟื้น แบบช่วยเหลือตัวเองได้ ทยอยออกมาก่อน ซึ่งก็จะมีทั้งผู้ป่วยที่สามารถเดินเองได้และผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินได้ต้องขึ้นเปลเข็นออกมา เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ป่วยชุดแรกออกมาจากบริเวณชั้น 1 ของอาคาร เพื่อนำไปขึ้นรถเฉพาะทาง จากนั้นวางแผนขึ้นไปเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงบริเวณชั้นลอยของอาคาร เพื่อนำลงมาด้านล่าง ก่อนนำขึ้นรถส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาล โดยผู้ป่วยทั้ง 12 รายนี้ ถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร 6 ราย ไปโรงพยาบาลสนามชัยเขต 4 ราย และไปโรงยาบาลราชสาสน์อีก 2 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้พ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณด้านหน้าพร้อมปิดสถานประกอบการดังกล่าว เพื่อรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
นายธีรศักดิ์ วชิรนนท์ อายุ 54 ปี ผู้ที่พักอาศัยใกล้เคียงกับสถานประกอบการ เปิดเผยว่า ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัยและสุ่มเสี่ยงกับการได้รับเชื้อเป็นอย่างมาก เพราะดูแล้วผู้ประกอบการเองไม่ได้มีความรู้และวิชาชีพในด้านนี้ ซึ่งตนเองก็สงสัยว่าเปิดมาได้อย่างไร ใครเป็นผู้อนุมัติให้เข้ามาเปิดตรงนี้ ควรจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ตนเองและชาวบ้านในบริเวณนี้ต่างกลัว หวาดผวากันไปหมด ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งตนก็สงสารผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดิ้นรนไปไหนได้ที่ติดเชื้อมากมายขนาดนี้ จึงอยากให้ผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปิดสถานประกอบการแห่งนี้ ซึ่งการบริหารจัดการของสถานประกอบการแห่งนี้แย่มาก นำขยะติดเชื้อมาไว้ด้านนอก ตนต้องแจ้งให้พนักงานเก็บขยะทราบ เพราะหวั่นว่าหากพนักงานเก็บขยะไม่ระวังขยะติดเชื้อเหล่านี้ก็จะติดโควิด-19 และลุกลามต่อไปเป็นวงกว้าง.-สำนักข่าวไทย