บุรีรัมย์ 15 ส.ค. – เปิดใจสาววัย 22 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ติดโควิดเพิ่งรักษาหายกลับมาพักฟื้นที่บ้าน แต่เจอญาติและชาวบ้านบุกไล่ สุดน้อยใจถูกไล่เหมือนเป็นผีปอบ ทั้งที่หมอบอกสามารถกลับมากักตัวที่บ้านได้เพราะเชื้อตายแล้ว
เป็นเสียงของ น.ส.พรกมล อายุ 22 ปี ชาวบ้านบ้านขาม ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิดและเพิ่งรักษาหาย กลับมาพักฟื้นที่บ้าน หลังออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรมลงในโซเซียล ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา เนื่องจากตอนที่กลับมาพักฟื้นที่บ้าน มีชาวบ้านประมาณ 20 คน ไปรุมต่อว่าและพยายามขับไล่ที่หน้าบ้านตามที่ปรากฏในคลิป
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านขาม พบ น.ส.พรกมล ซึ่งกักตัวอยู่ในบ้านคนเดียว บริเวณรอบบ้านมีการนำเชือกมาขึงเอาไว้ ด้านหน้ามีป้ายที่มีข้อความระบุว่า “ห้ามเข้าใกล้ผู้ป่วย (รักษาตัวมาแล้ว)” ติดเอาไว้ด้วย
จากการสอบถาม น.ส.พรกมล เล่าให้ฟังว่า ตนทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรสาคร ตรวจพบเชื้อโควิด-19 มื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นทำเรื่องเดินทางกลับมารักษาที่โรงพยาบาลสตึก ซึ่งเป็นบ้านเกิด เข้ารับการรักษาวันที่ 1 ส.ค. และรักษาหายเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยหมออนุญาตให้กลับมาพักฟื้นหรือกักตัวที่บ้านอีกเป็นเวลา 14 วัน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตนก็ทำตามคำแนะนำทุกอย่าง ตั้งแต่การแยกอยู่ในบ้านคนเดียวไม่ได้ไปปะปนหรือใกล้ชิดกับใคร ห้องน้ำก็แยกส่วนตัว และใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ทำตามที่แพทย์แนะนำทุกอย่าง
แต่เมื่อวันที่ 13 ส.ค. กลับมี อสม. กลุ่มชาวบ้าน และญาติพี่น้อง ประมาณ 20 คน มายืนอออยู่หน้าบ้านของตัวเอง พยายามกดดันและต่อว่าให้ตนเองไปกักตัวอยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน ซึ่งเป็นสถานที่พักฟื้นสำหรับผู้ป่วยโควิดที่เพิ่งรักษาหาย แต่ตนยืนยันว่าจะกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่ไปอยู่ที่ศาลากลางหมู่บ้าน เพราะหมอบอกว่าตนเองสามารถมากักตัวที่บ้านได้ เกิดการโต้เถียงกันสักพัก จากเหตุการณ์ดังกล่าวตัวเองยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจ ถูก อสม. ชาวบ้าน และญาติพี่น้อง ไล่เหมือนกับว่าตัวเองเป็นผีปอบ
ด้าน น.ส.สุดารัตน์ ญาติของ น.ส.พรกมล บอกว่า ทาง รพ.สต. ได้มาอธิบายให้ชาวบ้านรับฟังแล้วว่ากรณีของ น.ส.พรกมล รักษาหายแล้ว เชื้อตายแล้ว สามารถมาพักฟื้นที่บ้านได้ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ว่าอะไร แต่ก่อนที่ผู้ป่วยจะมาได้มีมติหรือกฎของหมู่บ้านแล้วว่าใครที่ติดโควิด รักษาหายออกจากโรงพยาบาล จะต้องมาพักฟื้นหรือกักตัวอีก 14 วัน ที่ศูนย์พักฟื้น หรือศาลาประชาคมหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจและเห็นใจว่าอาจจะเก็บกด แต่ต้องเข้าใจส่วนรวมด้วยเช่นกันว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร แต่หากพูดกันเรื่องสิทธิ เขายืนกรานจะทำแบบนี้ก็ไม่ผิด แค่ชาวบ้าน ญาติพี่น้อง อยากให้ปฏิบัติตามกฎ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย กรณีที่เกิดขึ้นทางผู้นำชุมชน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมาพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก
ขณะที่นางรุ่ง อสม.ประจำหมู่บ้าน บอกว่า กรณีที่ปรากฏในคลิปเป็นเพียง อสม. และชาวบ้าน ไปพูดคุยขอร้องให้ น.ส.กรกมล ไปพักฟื้นหรือกักตัวที่ศาลาประชาคมตามที่มติของหมู่บ้าน แค่กันไว้ดีกว่าแก้ ยืนยันว่าไม่ได้ไล่ แค่ไปบอกให้เขามากักตัวยังสถานที่ที่เตรียมไว้เท่านั้นเอง ตอนนั้นเขายังอยู่ที่บ้าน เพราะเขาไม่ยอมมา อสม. ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่ยอมปฏิบัติตามกฎของหมู่บ้าน.-สำนักข่าวไทย