กาญจนบุรี 10 ส.ค.-หญิงกัมพูชาท้อง 9 เดือน ติดโควิด ลูกในท้องเสียชีวิต หมอต้องรีบฉีดยาเร่งคลอดเพื่อรักษาชีวิตแม่
เรื่องราวนี้ถูกถ่ายทอดโดยนายเจษฎา ประทีป เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ซึ่งเป็นผู้พาร่างของทารกน้อยอายุครรภ์ 9 เดือน ที่เสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ชาวกัมพูชาซึ่งติดโควิด ไปส่งวัดเทวสังฆารามพระอารามหลวง หรือ วัดเหนือ อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้พระสมุห์วิโรจน์ วิโรจน์ หรือ หลวงพี่ตู่ เลขานุการเจ้าอาวาสเป็นผู้เผาศพให้
โดยตัวเขาบอกขณะถ่ายคลิปว่า “ลุงไม่รู้ว่าหนูเป็นหญิงหรือชาย ลุงพาหนูมาส่งได้ไกลเท่านี้ละ #ถ้าไม่ใช่เพราะโควิคระบาด หนูคงได้ออกมาเห็นอะไรอีกตั้งมากมาย 9 เดือนแล้วนะ ลุงขอให้หนูไปเกิดในภพภูมิที่ดีนะลูกนะ และหลวงพี่ตู่จะได้เป็นผู้พาหนูส่งต่อไป #หดหู่เลย หนูถือเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ และเสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุดที่ลุงรับส่ง”
สาเหตุที่เจ้าหน้าที่บอกแบบนี้ เพราะขณะที่แม่เด็กรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทารกได้เสียชีวิตในครรภ์ คณะแพทย์จึงตัดสินใจฉีดยาเร่งให้คลอด เพื่อรักษาชีวิตของแม่เอาไว้ และประสานให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิ นำร่างทารกไปเผาที่วัด ซึ่งพระกิตติสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาส ได้อนุเคราะห์เผาศพให้ฟรี และมอบหมายหลวงพี่ตู่เป็นผู้ดำเนินการเผา
ขณะที่หลวงพี่ตู่ บอกว่า ที่มารับช่วงเผาศพให้ทารกรายนี้ด้วยตัวเอง เพราะสัปเหร่อของวัดยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เกรงไม่ปลอดภัย ส่วนตัวหลวงพี่เองก็ใส่ชุด PPE เพื่อพยายามป้องกันอย่างดีที่สุด
เยาวชน 15 ป่วยติดเตียงติดโควิด สิ้นลมก่อนได้รักษาตัว
ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณชุมชนหลังวัดลาดพร้าว มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เข้าเคลื่อนย้ายร่างเยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และเสียชีวิตเพราะติดเชื้อ ไปฌาปนกิจ โดยตัวแทนชุมชนให้ข้อมูลว่า ครอบครัวนี้อยู่ด้วยกัน 7 คน ในบ้านมีทั้งคนแก่ คนวันทำงาน และเด็ก และทุกคนไปตรวจโควิดพบติดเชื้อทุกคน ที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานใดนำยาหรืออุปกรณ์ในการประคองชีวิตมาให้ เพราะครอบครัวนี้ตรวจเชื้อกันไปแบบ ATK มีเฉพาะชาวบ้านช่วยกันหาอาหารและยามาให้ ทำให้เยาวชนอายุ 15 ปี ซึ่งป่วยติดเตียง อาการเริ่มทรุด และก่อนหมดลม ทุกคนพยายามติดต่อขอให้น้องได้เข้ารักษาตัว แต่เมื่อไม่มีผลแล็บตรวจแบบ RT-PCR ทำให้ไม่ได้เข้ารับการรักษาตัว
เสียเงิน 1,500 ถูกหลอกส่งไปรักษาบ้านเกิด
ส่วนเรื่องราวนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่ก็เกิดแล้ว เมื่อเฟซบุ๊ก หมีกู้ภัยอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว ได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE พูดคุยกับผู้ติดเชื้อ พร้อมข้อความว่า “ระวังกันด้วยนะครับทุกคน ตอนนี้อันตรายไปหมด มีรถตู้จาก กทม. เอาคนมาปล่อย ตามจุดต่าง ๆ เก็บค่ารถ คนละ 1,500 แต่เอามาปล่อย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ช่วยกันสอดส่องดูแลด้วยครับ”
ผู้สื่อข่าวโคราช ไปคุยกับนายมนตรี ผิวผ่อง หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัยฮุก 31 เจ้าของโพสต์ เขาเล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 9 สิงหาคม มีรถตู้จากกรุงเทพฯ นำชายหญิง 2 คน มาปล่อยทิ้งที่ป้อมตำรวจบะใหญ่ และหน้า อบต.อุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว ริมถนน 304 ซึ่งตอนที่กู้ภัยกับตำรวจไปพบ ผู้ที่ถูกปล่อยทิ้งต่างอยู่ในอาการเครียด เอาแต่ร้องไห้ แล้วบอกว่า เป็นคนไทย แต่ไม่มีบัตรประชาชน รถตู้ที่นำมาทิ้งรับพวกเขามาจากพื้นที่มักกะสัน ตอนแรกในรถมีด้วยกัน 10 คน แต่ละคนถูกเรียกเก็บค่าหัว 1,500 บาท ซึ่งทุกคนยอมจ่ายเพราะหวังว่าจะได้กลับบ้านเกิดไปรักษาตัว แต่จู่ๆ ก็ถูกนำมาปล่อยทิ้ง ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ถูกพาไปส่งศูนย์พักคอยบ้านห้วยน้ำเค็ม ที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 80 คน และตอนนี้มีผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง 75 คน และมีชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันต้มน้ำสมุนไพรผสมฟ้าทะลายโจรและกระชาย มาให้ผู้ป่วยได้ดื่มบรรเทาอาการป่วย.-สำนักข่าวไทย