ภูเก็ต 6 ส.ค. – รมว.ท่องเที่ยวฯ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หามาตรการดูแลความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยว ย้ำภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ยังต้องเดินหน้าต่อไป
ไทม์ไลน์ก่อนที่นักท่องเที่ยวรายนี้จะเสียชีวิต นางสาวนิโคล ซาเวน ไวครอป เดินทางถึงไทยในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีการกักตัว 14 วัน ในโรงแรมแห่งหนึ่ง อ.ถลาง จากนั้นได้เดินทางไปท่องเที่ยว จ.กระบี่ ก่อนจะกลับมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อ่าวยน ต.วิชิต ในวันที่ 31 กรกฎาคม และช่วงใกล้เที่ยงของวันที่ 3 สิงหาคม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพของผู้เสียชีวิตอยู่หน้าร้านอาหาร ห่างจากจุดพบศพประมาณ 200 เมตร โดยผู้เสียชีวิตอยู่ตามลำพัง และกำลังมุ่งหน้าไปยังน้ำตกโตนอ่าวยน จนกระทั่งวันที่ 5 สิงหาคม เวลาประมาณบ่าย 2 โมง พบว่ากลายเป็นศพในแอ่งน้ำ น้ำตกโตนอ่าวยน
เบื้องต้น พลตำรวจโทกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุว่า การสืบสวนสอบสวนพุ่งเป้าไปที่กลุ่มแรงงานต่างด้าวในพื้นที่ และบุคคลที่เพิ่งพ้นโทษออกมา โดยอยู่ระหว่างเร่งพิสูจน์ว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งอำพรางคดี หรือถูกทำร้ายเสียชีวิตในจุดพบศพ รวมถึงประเด็นคนร้ายมากับผู้เสียชีวิต หรือมาพบผู้เสียชีวิตระหว่างทาง
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจไปถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว และย้ำให้ทุกส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น
ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจกับเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยตนเอง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะประสานกับสถานเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เพื่อรายงานความก้าวหน้าทางคดีอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งขณะนี้อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยหลังประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการดูแลความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ โดยที่ประชุมมองว่าควรกำหนดแผนสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว ติดกล้อง CCTV เพิ่มให้ครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยว กำหนดมาตรการดูแลนักท่องเที่ยวตั้งแต่สนามบินจนถึงที่พัก รวมถึงติดตามดูแลนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด หากพบว่านักท่องเที่ยวหายตัวไปอย่างน่าสงสัยควรโทรศัพท์หานักท่องเที่ยวเพื่อสอบถาม หากผิดสังเกตควรแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามทันที
สำหรับการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวรายนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ มีกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ กรณีประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิตในประเทศไทย โดยเยียวยาสูงสุดรายละ 1 ล้านบาท ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลให้เป็นไปตามระเบียบแล้ว พร้อมย้ำว่าภูเก็ตเเซนด์บ็อกซ์ยังต้องเดินหน้าต่อไป .-สำนักข่าวไทย