fbpx

ส่ง 135 ผู้ติดเชื้อ กลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา 7 จังหวัด

ภูมิภาค 28 ก.ค.-ผู้ป่วยโควิด กลุ่มสีเขียวที่เดินทางโดยขบวนรถไฟขบวนพิเศษ 971 กลับภูมิลำเนา 7 จังหวัดอีสานใต้ วันแรก 135 คน ทยอยเดินทางถึงภูมิลำเนาแล้ว ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากหน่วยงานในพื้นที่อย่างเข้มงวด


หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปที่สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว ที่ไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการเล็กน้อยกลับภูมิลำเนา ตามเส้นทางของการรถไฟไปยังเส้นทางจังหวัดในภาคอีสานใต้ ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากการเดินทางอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ร่วมเดินทาง 10 คน แบ่งเป็น 2 ทีม เมื่อไปถึงแต่ละสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาลพร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาลในเครือข่ายมารับจากสถานีรถไฟไปสู่สถานพยาบาลในพื้นที่ปลายทาง มั่นใจ 100% เชื้อไม่กระจายสู่ภายนอก เพราะเป็นระบบเส้นทางปิด (Seal route)


ทั้งนี้ก่อนจะนำผู้ป่วยไปส่งถึงปลายทาง ทางต้นทางจะส่งรายชื่อผู้ป่วยให้ปลายทางเตรียมรถพยาบาลเตรียมเตียงไว้รอเพื่อนำผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาไปรักษาอย่างปลอดภัย หากเป็นการเดินทางระยะไกล มีการหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องใช้อากาศยานก็ให้ประสานกับทางกองทัพ ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดมากอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งเราพยายามใช้เครือข่ายทุกอย่างที่มีเพื่อดูแลผู้ป่วย แม้ว่าบุคลากรสาธารณสุขต้องรับภาระงานเต็มมือแต่เราไม่สามารถทอดทิ้งผู้ป่วยได้ ต้องทำสุดความสามารถให้ผู้ป่วยทุกคนได้เข้าถึงมือแพทย์ โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการสีเหลือง สีแดง

จ.สุรินทร์ รับผู้ป่วยโควิดกลับบ้านแล้ว 1 คน

ขบวนรถไฟขบวนพิเศษขบวนที่ 971 เดินทางมาถึงจังหวัดสุรินทร์ และจอดส่งผู้ป่วยโควิด ที่สถานีลำชี เมื่อเวลา 18.30 น. ซึ่งจังหวัดมีรถรับ-ส่ง ต่อ ไปยังจุดคัดกรองในศูนย์ศิลปชีพอีสานใต้ ถนนเลี่ยงเมือง เพื่อทำการคัดกรองตามมาตรการ ก่อนส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ทั้งนี้ มีชาวสุรินทร์ประสงค์ ขอกลับภูมิลำเนา 16 คน แต่พบว่ามาแค่ 1 คน เป็นชาว ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี ขณะที่ยอดผู้ประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนา ติดต่อเข้ามาที่ศูนย์ประสานงานรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด ที่ต้องการเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านใน จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เปิดศูนย์ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ประสงค์ขอเดินทางกลับบ้านวันละ 100 กว่าคน รวมแล้วประมาณ 1,000 คนแล้ว


รับผู้ป่วยโควิด 2 คนกลับศรีสะเกษ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองศรีสะเกษ และฝ่ายปกครอง เตรียมรับผู้ป่วยโควิด-19 จากขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษที่ 971จากสถานีรังสิต โดยมาถึง สถานีศรีษะเกษ ที่สถานีบ้านหนองแวง ต.โพนเขวา อ.เมือง เมื่อเวลา 20.00 น. ก่อนส่งโรงพยาบาลอำเภอพยุห์โดยทันที ทั้งนี้ผู้ป่วย 2 คน เป็นผู้สูงอายุ อายุ 60 ปี และ 65 ปี เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว เป็นชาวอำเภอพยุห์ และอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนจะติดเชื้อโควิด 19 และขอความประสงค์กลับบ้านเกิด สำหรับ จ.ศรีสะเกษ มีการลงทะเบียนกลับมารักษาตัวผ่านสายด่วนกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 303 คน
แต่ส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับมาแล้ว บางคนรับการรักษาที่กรุงเทพฯ จึงเหลือผู้ป่วยชาวศรีสะเกษ 2 คน

จ.อุบลราชธานี ระดมเจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยโควิด 22 คนกลับบ้าน

ที่จังหวัดอุบลราชธานี รถไฟขบวนพิเศษ ส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ชุดแรก เดินทางมาถึงสถานีปลายทางอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วานนี้ (27 ก.ค.) มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทีมสาธารณสุขจังหวัด ทหารหน่วยยานพาหนะมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ นำรถบรรทุกทหาร 3 คัน จอดรับผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มสีเขียว รวม 22 คน โดยเมื่อขบวนรถแล่นเข้าจอดในชานชาลาที่ 1 ติดกับประตูทางออกด้านทิศตะวันตกของสถานี เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกผู้ป่วย และสัมภาระตามภูมิลำเนาที่อยู่เป็น 3 กลุ่ม ก่อนส่งขึ้นรถบรรทุกทหาร ส่งต่อไปยังศูนย์ดูแลชุมชน จากนั้นสาธารณสุขเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้นำอุปกรณ์ขึ้นฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในโบกี้โดยสาร ทั้งหมดส่วนขบวนไฟ จะจอดพักแยกออกจากขบวนรถไฟอื่นๆ ก่อนคนขับจะตีรถเปล่ากลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น โดยไม่ใช้รับผู้โดยสารอื่นแต่อย่างใด

สถานีรถไฟเชียงใหม่ พร้อมรับผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนา

ส่วนที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ นายสถานีรถไฟ เปิดเผยถึงความพร้อมของสถานีรถไฟเชียงใหม่ ที่เป็นปลายทางรับผู้ป่วยโควิคจากกรุงเทพฯ ขบวนพิเศษภาคเหนือ นำผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ กลับมารักษาตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการเตรียมการความพร้อม ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุข และทหาร หลังลงจากขบวนรถไฟ และให้ออกประตูด้านหลังสถานี ไปขึ้นรถที่ทหารจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อส่งยังโรงพยาบาลสนาม จากนั้นจะทำความสะอาดบนขบวนรถไฟ ตามมาตรการทางสาธารณสุข และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ที่จะใช้บริการรถไฟว่าปลอดภัย ซึ่งเส้นทางภาคเหนือ ยังเปิดให้บริการวันละ 1 ขบวน ส่วนขบวนพิเศษของผู้ป่วยโควิด-19 ต้องรอการยืนยันอีกครั้งว่าจะมีการนำผู้ป่วยมาส่งวันเวลาใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน