ส่ง 135 ผู้ติดเชื้อ กลับไปรักษาที่ภูมิลำเนา 7 จังหวัด

ภูมิภาค 28 ก.ค.-ผู้ป่วยโควิด กลุ่มสีเขียวที่เดินทางโดยขบวนรถไฟขบวนพิเศษ 971 กลับภูมิลำเนา 7 จังหวัดอีสานใต้ วันแรก 135 คน ทยอยเดินทางถึงภูมิลำเนาแล้ว ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากหน่วยงานในพื้นที่อย่างเข้มงวด


หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปที่สถานีรถไฟรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจเยี่ยมความพร้อมระบบส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มอาการสีเขียว ที่ไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการเล็กน้อยกลับภูมิลำเนา ตามเส้นทางของการรถไฟไปยังเส้นทางจังหวัดในภาคอีสานใต้ ตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร และอำนาจเจริญ

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากการเดินทางอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดของทีมงานกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ร่วมเดินทาง 10 คน แบ่งเป็น 2 ทีม เมื่อไปถึงแต่ละสถานีปลายทางจะมีรถพยาบาลพร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาลในเครือข่ายมารับจากสถานีรถไฟไปสู่สถานพยาบาลในพื้นที่ปลายทาง มั่นใจ 100% เชื้อไม่กระจายสู่ภายนอก เพราะเป็นระบบเส้นทางปิด (Seal route)


ทั้งนี้ก่อนจะนำผู้ป่วยไปส่งถึงปลายทาง ทางต้นทางจะส่งรายชื่อผู้ป่วยให้ปลายทางเตรียมรถพยาบาลเตรียมเตียงไว้รอเพื่อนำผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาไปรักษาอย่างปลอดภัย หากเป็นการเดินทางระยะไกล มีการหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี ว่า ต้องใช้อากาศยานก็ให้ประสานกับทางกองทัพ ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดมากอยู่ที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งเราพยายามใช้เครือข่ายทุกอย่างที่มีเพื่อดูแลผู้ป่วย แม้ว่าบุคลากรสาธารณสุขต้องรับภาระงานเต็มมือแต่เราไม่สามารถทอดทิ้งผู้ป่วยได้ ต้องทำสุดความสามารถให้ผู้ป่วยทุกคนได้เข้าถึงมือแพทย์ โดยเฉพาะผู้ป่วยอาการสีเหลือง สีแดง

จ.สุรินทร์ รับผู้ป่วยโควิดกลับบ้านแล้ว 1 คน

ขบวนรถไฟขบวนพิเศษขบวนที่ 971 เดินทางมาถึงจังหวัดสุรินทร์ และจอดส่งผู้ป่วยโควิด ที่สถานีลำชี เมื่อเวลา 18.30 น. ซึ่งจังหวัดมีรถรับ-ส่ง ต่อ ไปยังจุดคัดกรองในศูนย์ศิลปชีพอีสานใต้ ถนนเลี่ยงเมือง เพื่อทำการคัดกรองตามมาตรการ ก่อนส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ทั้งนี้ มีชาวสุรินทร์ประสงค์ ขอกลับภูมิลำเนา 16 คน แต่พบว่ามาแค่ 1 คน เป็นชาว ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี ขณะที่ยอดผู้ประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนา ติดต่อเข้ามาที่ศูนย์ประสานงานรับ-ส่งผู้ป่วยโควิด ที่ต้องการเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านใน จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เปิดศูนย์ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ประสงค์ขอเดินทางกลับบ้านวันละ 100 กว่าคน รวมแล้วประมาณ 1,000 คนแล้ว


รับผู้ป่วยโควิด 2 คนกลับศรีสะเกษ

เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.เมืองศรีสะเกษ และฝ่ายปกครอง เตรียมรับผู้ป่วยโควิด-19 จากขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษที่ 971จากสถานีรังสิต โดยมาถึง สถานีศรีษะเกษ ที่สถานีบ้านหนองแวง ต.โพนเขวา อ.เมือง เมื่อเวลา 20.00 น. ก่อนส่งโรงพยาบาลอำเภอพยุห์โดยทันที ทั้งนี้ผู้ป่วย 2 คน เป็นผู้สูงอายุ อายุ 60 ปี และ 65 ปี เป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว เป็นชาวอำเภอพยุห์ และอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ ทำงานที่กรุงเทพฯ ก่อนจะติดเชื้อโควิด 19 และขอความประสงค์กลับบ้านเกิด สำหรับ จ.ศรีสะเกษ มีการลงทะเบียนกลับมารักษาตัวผ่านสายด่วนกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 303 คน
แต่ส่วนใหญ่ได้เดินทางกลับมาแล้ว บางคนรับการรักษาที่กรุงเทพฯ จึงเหลือผู้ป่วยชาวศรีสะเกษ 2 คน

จ.อุบลราชธานี ระดมเจ้าหน้าที่รับผู้ป่วยโควิด 22 คนกลับบ้าน

ที่จังหวัดอุบลราชธานี รถไฟขบวนพิเศษ ส่งผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ชุดแรก เดินทางมาถึงสถานีปลายทางอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. วานนี้ (27 ก.ค.) มีรองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมทีมสาธารณสุขจังหวัด ทหารหน่วยยานพาหนะมณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ นำรถบรรทุกทหาร 3 คัน จอดรับผู้ป่วยติดเชื้อกลุ่มสีเขียว รวม 22 คน โดยเมื่อขบวนรถแล่นเข้าจอดในชานชาลาที่ 1 ติดกับประตูทางออกด้านทิศตะวันตกของสถานี เจ้าหน้าที่ได้คัดแยกผู้ป่วย และสัมภาระตามภูมิลำเนาที่อยู่เป็น 3 กลุ่ม ก่อนส่งขึ้นรถบรรทุกทหาร ส่งต่อไปยังศูนย์ดูแลชุมชน จากนั้นสาธารณสุขเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้นำอุปกรณ์ขึ้นฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในโบกี้โดยสาร ทั้งหมดส่วนขบวนไฟ จะจอดพักแยกออกจากขบวนรถไฟอื่นๆ ก่อนคนขับจะตีรถเปล่ากลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น โดยไม่ใช้รับผู้โดยสารอื่นแต่อย่างใด

สถานีรถไฟเชียงใหม่ พร้อมรับผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนา

ส่วนที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ นายสถานีรถไฟ เปิดเผยถึงความพร้อมของสถานีรถไฟเชียงใหม่ ที่เป็นปลายทางรับผู้ป่วยโควิคจากกรุงเทพฯ ขบวนพิเศษภาคเหนือ นำผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ กลับมารักษาตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการเตรียมการความพร้อม ร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุข และทหาร หลังลงจากขบวนรถไฟ และให้ออกประตูด้านหลังสถานี ไปขึ้นรถที่ทหารจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อส่งยังโรงพยาบาลสนาม จากนั้นจะทำความสะอาดบนขบวนรถไฟ ตามมาตรการทางสาธารณสุข และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ที่จะใช้บริการรถไฟว่าปลอดภัย ซึ่งเส้นทางภาคเหนือ ยังเปิดให้บริการวันละ 1 ขบวน ส่วนขบวนพิเศษของผู้ป่วยโควิด-19 ต้องรอการยืนยันอีกครั้งว่าจะมีการนำผู้ป่วยมาส่งวันเวลาใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]