24 ก.ค. – หลายจังหวัดทั่วประเทศขานรับนโยบายรับผู้ป่วยโควิดในพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม มารักษาตัวที่ภูมิลำเนา เร่งเตรียมพร้อมศูนย์พักคอยรองรับกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าวเข้าสู่ระบบการรักษาที่โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนาม
ที่ จ.เชียงใหม่ ยังคงมีคนป่วยโควิดทยอยเดินทางจากพื้นที่สีแดง เข้ามารักษาตัวที่บ้านเกิด และขอมารักษาตัวในโรงพยาบาลนครพิงค์ โดยนั่งท้ายรถกระบะมาตลอดเส้นทาง ไม่มีการแวะที่ไหน ทั้งนี้ เชื่อว่าจะมีคนเชียงใหม่ในต่างจังหวัดที่ป่วยโควิด เดินทางมารักษาตัวที่เชียงใหม่เพิ่มขึ้น
เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จะซักประวัติ และมีตำรวจจราจรขี่รถนำไปส่งที่โรงพยาบาล ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ออกประกาศพร้อมรับคนเชียงใหม่ปิ๊กบ้าน โดยขอให้คนป่วยประสงค์จะกลับมา ติดต่อประสานงานในการเดินทางเพื่อรับคำแนะนำ พร้อมทั้งรับการประเมินอาการจากเจ้าหน้าที่ และจัดเตรียมเตียงเพื่อการรักษา ได้ที่หมายเลข 065-4723187, 065-4723188, 065-4723189 ตั้งแต่เวลา 08.30 น.- 24.00 น
เร่งเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด
ส่วนสถานการณ์ที่ จ.นคราชสีมา หลังเกิดวิกฤติโรงพยาบาล 18 แห่ง เจอวิกฤติเตียงเต็มทุกแห่ง ด้านสาธารณสุขได้ประสานให้โรงพยาบาลทั้งจังหวัด 37 แห่ง เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยในส่วนที่สามารถรองรับได้ รวมทั้งเพิ่มโรงพยาบาลสนามในต่างอำเภอ รวมแล้วมากกว่า 1,000 เตียง เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นวันละมากกว่า 200-245 คน สถานการณ์ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาอยู่ 2,230 ราย และเหลือเตียงผู้ป่วย 343 เตียง ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น มีทั้งผู้ป่วยในจังหวัด ผู้ป่วยเดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยงสูง และผู้ป่วยที่ขอกลับมารักษาที่โคราช ซึ่งล่าสุดรับผู้ป่วยกลับมารักษาที่โคราชแล้ว 716 ราย และแนวโน้มรับกลับมาเพิ่มขึ้นวันละกว่า 100 ราย
เตรียมพร้อมศูนย์พักคอย รองรับคนป่วยโควิดกลับรักษาตัว
ที่อาคารเก็บวัสดุ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์พักคอย ที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์จัดตั้งขึ้น เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ และอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ที่ติดเชื้อโควิดอยู่ระหว่างรอเข้ารับการรักษา เป็นที่พักคอย ก่อนทำการรักษาตามระบบ โดยจะเปิดให้กับประชาชนจากนอกพื้นที่และอยู่ในพื้นที่ และผ่านการประเมินจากโรงพยาบาล เพื่อมาพักคอย โดยแบ่งออกเป็น ฝั่งชาย 54 เตียง และหญิง 46 เตียง รวม 100 เตียง ซึ่งก่อนหน้านี้ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ และ รพ.ทั้ง 23 อำเภอ เต็มทุกแห่งแล้ว เหลือเพียง รพ.สนาม ขณะที่ผู้ป่วยที่ทำงานอยู่จังหวัดต่าง ๆ เข้าโครงการ “อุ้มลูกหลานเซราะกราวกลับบ้าน สะสมแล้ว 346 คน
ฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้บุคลากรทางการแพทย์
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต นำบุคลากรทางการแพทย์เข้ารับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดส (เข็ม 3) เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ไปรับบริการ โดยในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์และด่านหน้าต่างดีใจเป็นอย่างมากที่ได้รับการฉีดบูสเตอร์โดส เพื่อสร้างภูมิให้เพิ่มขึ้น หลังจากการรับวัคซีนซิโนแวคไปครบ 2 โดสแล้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 สัปดาห์นี้ จ.ภูเก็ต ได้รับการจัดวัคซีนแอสตราเซเนกา เพื่อบูสเตอร์โดส (เข็ม 3) ให้บุคลากรทางการแพทย์ใน 9 โรงพยาบาล, สำนักงานสาธารณสุขและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ในจังหวัดภูเก็ตเกือบ 100% ได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการจะรับวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิ แต่หากบุคลากรรายใดประสงค์จะฉีดวัคซีน mRNA กระทรวงสาธารณสุขจะจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นา หรือ Johnson & Johnson มาให้ ซึ่งจะได้ฉีดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม หรือต้นเดือนสิงหาคม. – สำนักข่าวไทย