แจงตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ติดโควิดแค่ 1 คน

นครปฐม 21 ก.ค.- กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม แจงปมข่าวเเชร์สนั่นในโลกโซเชียลว่า ตำรวจสภ.นครปฐมติดโควิด-19 ทั้งโรงพัก ไม่เป็นความจริง ความจริงติดแค่ 1 นายเท่านั้น 


หลังมีกระแสข่าวตำรวจ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ติดเชื้อโควิด-19 ยกโรงพัก และมีการแชร์ข้อมูลต่อๆ กันในโซเชียลเพื่อเตือนผู้ที่จะไปติดต่อราชการให้ระมัดระวังตัว 

ล่าสุด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ต้นสังกัด สภ.นครปฐม ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว พร้อมยอมรับมีตำรวจติดเชื้อจริงแค่ 1 คน  ไม่ได้ติดกับยกโรงพักกว่า 100 คน ตามที่พูด ๆ แชร์ๆ ต่อ ๆ กัน


ผู้สื่อข่าวไปที่ สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พบว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา บริเวณทางขึ้นมีป้ายติดประกาศไว้จริงๆ ไม่มีประชาชนมาติดต่อราชการ มีเพียงตำรวจบางนายที่มาปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนอยู่

พ.ต.อ.จุลภณ มีชำนาญ ผู้กำกับการ สภ.พุทธมณฑล เผยว่ามีพนักงานสอบสวนยศร้อยตำรวจโท ติดโควิด 1 นาย ตรวจยืนยันผลเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ซึ่งรถของทางโรงพยาบาลได้มารับตัวไปรักษาตัวแล้ว ส่วนพนักงานสอบสวนคนอื่นๆ และผู้เกี่ยวข้องซึ่งทำงานด่านหน้าที่สัมผัสใกล้ชิดประชาชน มีเสี่ยงสูง 10 นาย จึงได้มีการสั่งกักตัว 14 วันแล้ว ส่วนผู้เสี่ยงต่ำ 16 นาย สั่งเฝ้าระวัง พร้อมขอความร่วมมือตำรวจพื้นที่ข้างเคียง 8 นาย มาให้บริการประชาชนชั่วคราว ส่วนเรื่องงานบริการอื่นๆ ยังคงเปิดให้บริการอยู่ แต่ขอประชาสัมพันธ์หากไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วน ขอให้เลื่อนไปก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยให้บริการก็ถือเป็นผู้เสียงต่ำ ถึงจะสวมหน้ากากอนามัย  สวมเฟซชิลด์  ก็ยังไม่ปลอดภัยเท่าการอยู่ห่างกัน

ด้านกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ชี้แจงกรณีสื่อนำเสนอข่าว “ด่วน!! ตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ติดโควิดทั้งโรงพักตั้งแต่ พ.ต.ท. – นสต. รวม ๒๘ นาย” ว่าจริง ๆ แล้ว มีตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ยืนยันผลว่าติดเชื้อโควิด-19 เพียง 1 นาย เป็นพนักงานสอบสวน จึงมีการกักตัวผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จำนวน 10 นาย และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงานสอบสวนต้องเฝ้าระวังอีก 16 นาย   


นอกจากนี้ ทางภูธรจังหวัดนครปฐม ได้ออกคำสั่งให้พนักงานสอบสวนจาก สภ.อื่น จำนวน 8 นาย ไปทำหน้าที่แทนจนกว่าผู้ติดเชื้อ และผู้ที่ต้องกักตัว และเฝ้าระวังจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติได้ ส่วนงานด้านป้องกันปราบปราม งานสืบสวนและงานจราจร สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติเนื่องจาก สภ.พุทธมณฑล มีกำลังพลทั้งสิ้น 117 นาย ขณะนี้มีกำลังพลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้จริง 90 นาย รวมพนักงานสอบสวนที่ไปช่วย 8 นาย รวมเป็น 98  นาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง