20 ก.ค. – โควิดพรากชีวิต หลายครอบครัวสูญเสีย แต่วันนี้ที่ร้อยเอ็ด มีเรื่องราวดีๆ เมื่อ รพ.ร้อยเอ็ด ผ่าคลอดให้แม่ที่ติดเชื้อได้สำเร็จ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ส่วนที่วัดบางม่วง จ.นนทบุรี สร้าง “บันไดสวรรค์” ทุ่นแรงนำศพโควิดขึ้นเมรุ
รพ.ร้อยเอ็ด ผ่าคลอดแม่ติดโควิด ปลอดภัยทั้งแม่และลูก
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดย นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ว่าเมื่อวานนี้ (19 ก.ค.) เวลา 09.30 น. ทีมแพทย์ พยาบาลของโรงพยาบาลได้ผ่าคลอดให้กับแม่วัย 31 ปี ที่มีอายุครรภ์ 38 สัปดาห์ ซึ่งติดโควิด ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ารผ่าคลอดเจ้าหน้าที่ได้ใช้ชุดป้องกันอย่างดี และผลการผ่าตัดทั้งแม่และลูกปลอดภัยดี เด็กที่คลอดมาเป็นเพศชาย น้ำหนักแรกเกิด 3,330 กรัม ซึ่งการผ่าคลอดครั้งนี้นับว่าเป็นรายที่ 2 ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดดำเนินการให้กับผู้ป่วย
เผาศพติดโควิดเสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง
แต่ที่วัดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีครอบครัวและเพื่อนของหญิงวัย 35 ปี ที่ท้อง 7 เดือน ต้องมาร่วมงานศพของหญิงรายนี้ เพราะติดโควิดพร้อมกับสามี และอาการหนัก ทำให้ภรรยาเสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ การประกอบพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย และปฏิบัติตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ด้านครอบครัวนำรูปผู้เสียชีวิตตั้งหน้าเมรุให้พระสงฆ์สวดอภิธรรม บังสุกุล เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้
สะเทือนใจ หนุ่มใหญ่ติดโควิด ชวนครอบครัวกลับบ้าน แต่สิ้นใจก่อน
ส่วนที่อุดรธานี มีเรื่องเศร้าเช่นกัน เมื่อหนุ่มโรงงานที่อยู่ในกรุงเทพฯ ติดโควิด ตัดสินใจชวนภรรยาและครอบครัว ติดต่อโรงพยาบาลบ้านผือให้เข้ารักษาตัวตามโครงการ “นำลูกหลานอุดรกลับบ้าน” ล่าสุดโรงพยาบาลนัดรับตัวไว้แล้ว แต่เมื่อเดินทางมาถึงยังไม่ทันรักษา เจ้าตัวกลับเสียชีวิต
ภรรยาเล่าให้ทีมสอบสวนโรคฟังว่า สามีอายุ 43 ปี ทำงานเป็นพนักงานขับรถให้ผู้บริหารโรงงานแห่งหนึ่ง ส่วนภรรยาทำงานในออฟฟิศโรงงานเดียวกัน เมื่อในโรงงานมีคนติดเชื้อ สามีก็มีอาการไข้ จึงไปตรวจหาเชื้อ และผลยืนยันติดโควิด สามีพยายามกักตัวตามคำแนะนำ ขณะที่แม่ก็เริ่มมีไข้ สามีเห็นท่าไม่ดี จึงให้ติดต่อโรงพยาบาลที่อุดร ก่อนขับรถมุ่งหน้ามาที่โรงพยาบาลบ้านผือ โดยมีภรรยา แม่ และลูก 2 คน มาด้วย แต่สุดท้ายระหว่างทาง ภรรยาเห็นสามีเงียบไป ไม่คุย ตอนแรกคิดว่าหลับ เพราะความเพลีย จึงไม่เอะใจ จนมาถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสามี และบอกว่าสามีเสียชีวิตแล้ว
เหตุการณ์นี้สร้งความสะเทือนใจให้คนในโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก หลายคนบอกว่าเช้านี้โรงพยาบาลบ้านผือมีแต่น้ำตา ตอนนี้ร่างของผู้เสียชีวิตได้ถูกนำไปฌาปนกิจที่เมรุป่าช้าบ้านผือนอก ขณะที่ครอบครัว ภรรยาและแม่ เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ ส่วนลูกยังรอผล เพราะตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ
วัดบางม่วงสร้าง “บันไดสวรรค์” นำศพโควิดขึ้นเมรุ
ส่วนที่วัดบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งรับเผาศพโควิด บางวันพบผู้เสียชีวิตหนักกว่า 100 กิโลกรัม ทำให้วัดต้องให้เจ้าหน้าที่และพระลูกวัดหลายคนมาช่วยยกหีบศพขึ้นเมรุ การทำแบบนี้ค่อนข้างทุลักทุเลเพราะบันไดเมรุมีความสูงชัน ล่าสุดวัดปรึกษาหารือกันและตัดสินใจทำรางเหล็กที่เรียกว่า “บันไดสวรรค์” เพื่อใช้ดึงศพขึ้นไปบนเมรุแทนการแบกหีบศพขึ้นไปเผา นับว่าเป็นโชคดีที่มีบริษัทแห่งหนึ่งติดต่อมาว่าจะทำรางเลื่อนให้กับวัดฟรี ซึ่งขณะนี้สามารถใช้งานได้แล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่นที่ดึงยังต้องใช้เชือก กำลังหารือเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ ที่สามารถกดสวิตช์บังคับด้วยรีโมตให้เดินหน้าถอยหลังขึ้นลงได้ เพื่อปรับให้เข้ากับสถานการณ์
เจ้าอาวาสฝากถึงญาติโยม หากต้องการร่วมสมทบทุนสร้าง “บันไดสวรรค์” ให้เสร็จสมบูรณ์ สามารถบริจาคได้ที่บัญชีวัดบางม่วง ธ.ก.ส. เลขบัญชี 020007121621
เปิดรับอาสาสมัครช่วยจัดสง-ขอสนับสนุนถังออกซิเจน
ส่วนที่กรุงเทพฯ ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ได้ทราบข้อมูลจากทีมงานมูลนิธิกระจกเงา ว่าขณะนี้มูลนิธิได้ประสานความร่วมมือกับอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร ให้ช่วยเหลือจัดส่งถังออกซิเจนให้ผู้ป่วยที่ต้องการเครื่องช่วยหายใจและออกซิเจน เพื่อพยุงอาการระหว่างรอเข้ารับการรักษา ซึ่งก่อนหน้านี้มูลนิธิจะใช้เวลาจัดส่งในเวลากลางคืน เพื่อสะดวกในการเดินทาง และเป็นช่วงเวลาว่างของอาสาสมัครจากงานประจำ แต่การประเมินสถานการณ์ล่าสุด คาดว่าอาจมีผู้ป่วยตกค้างมากขึ้น จึงเตรียมจัดส่งถังออกซิเจนในเวลากลางวัน พร้อมกับขอรับอาสาสมัครมาช่วยจัดส่งและขอรับการสนับสนุนถังออกซิเจนเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการรักษาชีวิตผู้ป่วยระหว่างรอเข้ารับการรักษา. – สำนักข่าวไทย
