“ค่ายมวยดาบรันสารคาม” ปรับตัวเป็นคาเฟ่

มหาสารคาม 20 ก.ค.- “ค่ายมวยดาบรันสารคาม” ค่ายมวยมวยมาตรฐานแห่งจังหวัดมหาสารคาม ปรับตัวยุคโควิด-19 ปรับเปลี่ยนค่ายมวยเป็นคาเฟ่ สร้างรายได้ให้นักมวยไปพลางๆ 

ริมถนนสายทางหลวง 2367 กม.8 ทางไป อบต.ลาดพัฒนา จ.มหาสารคาม  จะพบกับร้าน Camp & Cafe Dabrun คาเฟ่เปิดใหม่ในค่ายมวยดาบรันสารคาม ของ ร.ต.อ.นิรันดร์ ยศพล เจ้าของค่ายมวยดาบรันสารคาม ที่ได้ปรับเปลี่ยนค่ายมวยเป็นคาเฟ่ บรรยากาศท้องทุ่งนา ขายกาแฟมีเอกลักษณ์ ด้วยกาแฟดริปใส่หวดไม้ไผ่ ที่ได้ความหอมของกาแฟ และอรรถรสในการดื่มแบบธรรมชาติ กาแฟอาราบิกา จากจังหวัดพะเยา ราคา 45 บาทต่อชุด และยังมีอาหารพื้นบ้าน ไก่นึ่งสมุนไพร, ปลาจุ่ม           สุกี้ลาว ในราคาหลักสิบ วิวหลักล้าน พนักงานในร้านจะใช้เด็กในค่ายนักมวย และญาติๆ แม่ครัวก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นคุณแม่ของนักมวยดังในค่าย “ชูเจริญ ดาบรันสารคาม” ส่วนเด็กเสิร์ฟ ก็ใช้นักมวยที่ว่างจากการซ้อมมาเสริ์ฟอาหาร อย่างแก่นนครและแม็คนั่ม ดาบรันสารคาม

ร.ต.อ.นิรันดร์ ยศพล เผยว่าในช่วงที่โควิดรอบแรกเริ่มระบาดก็ไม่ได้คิดอะไรครับ ตอนนั้นตนเองได้ไปกักตัวที่ค่าย แต่โควิดรอบสอง และมาเจอรอบสามอีก หนักขึ้นมาก เริ่มมีความคิดว่าสถานการณ์แบบนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไร นักมวยในค่ายก็มี 10 กว่าคน รายได้ก็ไม่มีเข้ามา มวยก็ไม่รู้จะได้ต่อยเมื่อไร จึงได้เริ่มความคิดจะทำคาเฟ่นั่งชิล บนเนื้อที่ 4 ไร่กว่า ด้านหน้าของค่ายมวย ถูกเนรมิตขึ้นมาเป็นเรือนไม้หลังใหญ่ตบแต่งด้วยอุปกรณ์ของมวยไทยเกือบ 100 % ไม่ว่าจะเป็น นวม กระสอบทราย และรูปภาพเก่าที่หายาก 

นอกจากนั้น บริเวณพื้นที่ภายนอกของเรือนไม้ทรงคลาสสิกแห่งนี้ ยังถูกโอบอุ้มไปด้วยบรรยากาศของธรรมชาติของบ้านทุ่ง พร้อมแมกไม้อันสวยงามล้อมรอบเอาไว้ เรียกว่าได้ทั้งกินกาแฟ และอาหารพื้นบ้านอีสานอร่อยๆ แถมยังได้เพลินตากับนักมวยในค่ายที่มีหน่วยก้านดี หุ่นระดับนายแบบออกมาช่วยเสิร์ฟอาหารตลอดทั้งวัน ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ทุกวัน วัตถุประสงค์เพื่อให้นักมวยฝึกพัฒนาทักษะในการชงกาแฟ และพัฒนางานด้านบริการควบคู่กันไปอีกด้วย  เพื่ออนาคตเด็ก ๆ  จะได้นำไปต่อยอดได้ในอนาคตต่อไป   

ส่วนในอนาคตตนเองก็คิดว่าอาจจะแก้ปัญหาเรื่องจัดให้มีการต่อยมวย ในระบบการไลฟ์สดผ่านช่องทางเพจมวยได้ชมกัน จุดประสงค์ก็เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสยืดเส้นยืดสาย และเพื่อให้พวกเด็กใหม่ๆ ได้มีเวทีสร้างกระดูกมวย เพราะถ้าไม่ทำเราปล่อยไว้แบบนี้ อนาคตเราจะไม่มีมวยสายเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน.-สำนักข่าวไทย