สถ.กำชับซ้ำท้องถิ่นจัดซื้อเสาไฟประติมากรรมต้องโปร่งใส

ภูมิภาค 15 ก.ค.-เปิดรายละเอียด สถ.แจ้งด่วนผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด กำชับย้ำ อปท.อีกรอบให้ทำตามข้อเสนอแนะของ สตง.ในการจัดทำโครงการเสาไฟประติมากรรม ต้องสำรวจความต้องการประชาชนผ่านการทำประชาคมก่อน โดยให้คำนึงความคุ้มค่า ทำโครงการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้

ความคืบหน้าหลังสำนักข่าวไทย อสมท เสนอข่าวสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะ พร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เข้ายื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขอให้ตรวจสอบโครงการเสาไฟประติมากรรมกินรีของ อบต.ราชาเทวะ ว่าเข้าข่ายการฮั้วประมูลหรือไม่ ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลของสำนักข่าวไทย พบว่ากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ทำหนังสือแจ้งกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ให้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง.อีกครั้งหนึ่ง


หนังสือฉบับดังกล่าว นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ลงนามเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.64 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ขอให้กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ดำเนินการเกี่ยวกับการติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะและการก่อสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมพร้อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าของ อปท.ตามแนวทางดังนี้

1.กรณีจะดำเนินการจัดทำโครงการฯ ขอให้ อปท.ทำการสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ผ่านการทำประชาคมท้องถิ่นก่อนนำบระจุเข้าแผนพัฒนาท้องถิ่น โดย อปท.ควรพิจารณาเลือกรูปแบบของเสาไฟฟ้าที่จะนำมาติดตั้งบนถนน ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิทัศน์ของท้องถิ่น ถ้าจะติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมฯ ก็ควรพิจารณาถึงความสวยงาม หรือเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น หรือความเหมาะสมของจุดติดตั้งตามการใช้ประโยชน์ในสวนสาธารณะ หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ และคำนึงถึงความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และตรวจสอบได้ เนื่องจากเสาไฟฟ้าประติมากรรมมีราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาเสาไฟฟ้าแบบปกติ


การติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนถนน ควรเน้นเรื่องความปลอดภัยในการสัญจรของผู้ใช้ถนนในเวลากลางคืนเป็นหลัก ค่าความส่องสว่างและระยะห่างของเสาไฟฟ้าต้องเหมาะสม และเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

2.ส่วนกรณีที่ อปท.ได้ติดตั้งไฟฟ้าสาธารณะและเสาไฟฟ้าประติมากรรมพร้อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าไปแล้ว อปท.ควรมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการจัดทำแผนการตรวจสอบสภาพการใช้งานของระบบไฟฟ้าแสงสว่างให้ครอบคลุม มีรอบระยะเวลาการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ และควรพิจารณาจัดตั้งงบประมาณสำหรับการแก้ไขซ่อมแซมอุปกรณ์ หรือเปลี่ยนใหม่ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติในทันที

นอกจากนี้ อปท.ควรจัดให้มีศูนย์ฯหรือเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ และให้บริการแจ้งสถานภาพการให้บริการไฟฟ้าสาธารณะแก่ประชาชน เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุไฟฟ้าเสียหรือขัดข้องได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการจัดระบบให้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุไฟฟ้าสาธารณะขัดข้อง เช่น การเขียนหนังสือคำร้อง/หนังสือร้องเรียน แจ้งเหตุทางโทรศัพท์ แจ้งเหตุทางเว็บไซต์ของ อปท.หรือทางวิทยุสื่อสาร เป็นต้น และหลังได้รับแจ้งเหตุกรณีอุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด อปท.ควรดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชม.


อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2561 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเคยทำหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 4 กันยายน 2561 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้กำชับ อปท.ที่จะทำโครงการเสาไฟฟ้าประติมากรรม ให้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง.มาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจาก สถ.ได้รับแจ้งจาก สตง.ว่า สตง.ได้ตรวจสอบโครงการเสาไฟประติมากรรมของ อปท.ในปีงบประมาณ 2560 พบว่ามีการจัดทำโครงการในลักษณะที่ไม่เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ โดยเลือกรูปแบบเสาไฟที่มีราคาสูงและติดตั้งในจุดที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสียงบประมาณเกินความจำเป็น

ต่อมาเกิดกรณีเสาไฟประติมากรรมกินรีของ อบต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ที่กำลังถูกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สตง. ป.ป.ช. ป.ป.ท. ตำรวจ ป.ป.ป. และล่าสุดคือดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังเกิดกระแสเรียกร้องในสังคมให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณในการจัดซื้อเสาไฟกินรีราคาสูงต้นละ 95,000 บาท จำนวนกว่าหมื่นต้น เป็นเงินรวมกว่า 900 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการตีแผ่เสาไฟประติมากรรมรูปแบบต่างๆ ในท้องถิ่นอีกหลายแห่ง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจึงได้ทำหนังสือกำชับ อปท.ในเรื่องนี้อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]