15 ก.ค. – บุรีรัมย์ตั้ง รพ.สนามในวัด รองรับผู้ป่วยโควิดจากคลัสเตอร์ปลาส้ม ขณะที่ อบจ.ตรัง ปล่อยรถกู้ชีพรับคนตรังกลับบ้าน รวม 31 คน ส่วนที่อุบลราชธานี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคำขวาง ยกเรือนไทยให้ทำศูนย์พักคอยคนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ
สาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ร่วมกับ อบต.ผู้นำชุมชน ตั้ง รพ.สนามในวัด รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์ปลาส้ม โดยใช้ศาลาวัดใหม่ บ้านโคกเพชร อ.เมือง หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ออกคำสั่ง พื้นที่ควบคุมหรือล็อกดาวน์ 4 หมู่บ้าน เนื่องจากมีการตรวจพบคลัสเตอร์จากผู้ประกอบอาชีพทำปลาส้มขาย ทำให้ชาวบ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 38 ราย และเป็นกลุ่มเสี่ยงอีกหลายราย
รพ.สนามภายในวัดใหม่บ้านโคกเพชร จะใช้สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดที่อาการไม่หนัก หรือผู้ที่ได้รับการรักษาจาก รพ.แล้วมีอาการดีขึ้น หรือตรวจไม่พบเชื้อ แต่อยู่ในข่ายเฝ้าสังเกตอาการให้ครบ 14 วัน เพื่อลดความแออัดและจำนวนเตียงผู้ป่วยใน รพ.บุรีรัมย์ ที่เตียงอาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อบจ.ตรัง ส่งรถกู้ชีพอีก 4 คัน เพื่อไปรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พัก อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งป่วยนอนรอเตียงรักษาแต่ไม่มีเตียง และประสงค์กลับมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา ตามโครงการ “รับคนตรังกลับบ้านเรา” โดยผู้ป่วยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายอะไรทั้งสิ้น รถกู้ชีพจะไปรับถึงที่พัก บ้านพัก ซึ่งมีคนตรังที่เสียสละเงินเพื่อออกค่าใช้จ่ายช่วยเหลือคนตรังด้วยกันให้ได้กลับบ้าน ล่าสุดมีคนตรังประสงค์กลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดแล้ว 31 คน โดยเข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ สสจ.ตรัง เป็นผู้กำหนดตามอาการของผู้ป่วยและภูมิลำเนาของผู้ป่วย
ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี มีแนวโน้มมีผู้ป่วยติดเชื้อจากพื้นที่สีแดงเดินทางกลับมารักษาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงต้องหาสถานที่รองรับ และพบว่าคุ้มเรือนไทยส่วนตัวของนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลคำขวาง อ.วารินชำราบ เนื้อที่กว่า 40 ไร่ สถานที่มีความพร้อมและเหมาะเป็นศูนย์พักคอยของคนกลุ่มเสี่ยงและผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวชาวจังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างรอนำส่งโรงพยาบาลรักษา ซึ่งเจ้าของยินดีให้ใช้สถานที่ โดยยกคุ้มเรือนไทยขนาดใหญ่ 3 หลัง และอาคารที่พักมูลค่าเกือบร้อยล้านบาท ให้กับสาธารณสุขจังหวัดสำรองรับผู้ป่วยโควิดที่เดินทางมาจากพื้นสีแดง ประสงค์เดินทางมารักษาที่ภูมิลำเนา สามารถรองรับได้ถึง 200 คน และระหว่างรอการนำตัวส่งโรงพยาบาล คนทั้งสองกลุ่มคือกลุ่มเสี่ยง และผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเขียว จะไม่ปะปนกัน และมีห้องน้ำใช้แยกจากกันกว่า 20 ห้อง . – สำนักข่าวไทย