ระทึก 13 ชม. นำตัวหนุ่มปีนโรงแรมกลางเมืองพัทยาลงมาได้สำเร็จ

ชลบุรี 11 ก.ค. – ตำรวจเมืองพัทยาใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมง นำตัวหนุ่มหนองบัวลำภูวัย 43 ปี ปีนโรงแรมสูงกว่า 8 ชั้น กลางเมืองพัทยา ลงมาได้สำเร็จ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลียหนัก


เริ่มตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงครึ่งวานนี้ (10 ก.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งว่ามีชายปีนโรงแรมแห่งหนึ่ง ซอยพัทยา 8 กลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ความสูงกว่า 8 ชั้น เป็นชายไทย อายุประมาณ 25-30 ปี เบื้องต้นพบว่าเป็นชาวหนองบัวลำภู ทั้งปีนทั้งไต่บนหลังคา จากนั้นไต่ไปไต่มาบนระเบียง ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกระจายกำลังอยู่รอบตัวอาคาร ทั้งในตึกและนอกตึก พร้อมเกลี้ยกล่อมให้ลงมา แต่ชายคนนี้ไม่สนใจคำพูดของเจ้าหน้าที่

สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงบอกว่าเห็นผู้ก่อเหตุถือมีดเดินไปมาตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนแอบเข้าไปในตัวอาคาร และปีนขึ้นไปบนหลังคา เมื่อมีคนเห็นเกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ


สถานการณ์ตึงเครียดและลุ้นหนัก เพราะผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววว่าผู้ก่อเหตุจะยอมลงมา ปรากฏว่ามีจังหวะหนึ่งที่ผู้ก่อเหตุพยายามปีนระเบียงของโรงแรม จากชั้นบนสุดลงมาอีกชั้น โดยค่อยๆ หย่อนตัวมาลง แต่ปรากฏว่าขณะนั้นเกิดพลาด เพราะมือที่จับอยู่หลุดจากขอบระเบียง แต่โชคดีที่ผู้ก่อเหตุตกลงมาที่ขอบของระเบียงอีกชั้น และหว่างขาพาดกับขอบระเบียง

กระทั่งเวลา 22.00 น. ตำรวจวางแผนเข้าช่วยเหลือ พร้อมส่งคนเข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อม โดยสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มเหตุการณ์จนถึงขณะนั้นผ่านไปกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยังไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้

จากนั้นตำรวจบางส่วนถอนกำลังกลับไป เพราะเชื่อว่าผู้ก่อเหตุไม่คิดจะกระโดด หรือทำร้ายตัวเอง แต่ยังอยู่ในอาการคล้ายกับหวาดกลัวและหลอนบางอย่าง แต่เนื่องจากความมืดและแสงไฟของโรงแรมไม่ได้เปิดไว้ ส่วนผู้ก่อเหตุยังคงปีนไต่หนีไปในความมืด


ตำรวจวางแผนอย่างรัดกุมและถอดเครื่องแบบออกเพื่อพรางตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุหวาดระแวงเจ้าหน้าที่ พร้อมพยายามไต่หนีไปตามระเบียงท่ามกลางความมืด กระทั่งลงจากตึกของโรงแรม และปีนข้ามไปยังโรงแรมอีกแห่งในซอยพัทยา 9 จากนั้นตำรวจได้ติดตามไป แต่ผู้ก่อเหตุยังปีนไปอีกอาคารหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ภายในซอยพัทยา 8

จากการสอบถามผู้จัดการแผนกแม่บ้านของโรงแรมจุดที่ 2 ที่ผู้ก่อเหตุปีนข้ามไป ให้ข้อมูลว่าตนเองขึ้นไปเกลี้ยกล่อม พร้อมนำข้าวกับน้ำไปให้ และพยายามหลอกล่อลงมา แต่ปรากฏว่าเมื่อเห็นคนจะเกิดอาการตกใจ ปีนตึกหนีออกไปอีก

ผ่านไปนานกว่า 13 ชั่วโมง คือเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้บนดาดฟ้าของอาคารพาณิชย์ แต่ไม่สามารถนำตัวลงมาได้ เพราะอาคารถูกล็อก จึงประสานรถกระเช้ามาสนับสนุน แต่รถกระเช้าเข้าไม่ถึง เพราะซอยแคบ รวมถึงมีสายไฟจำนวนมาก จึงติดต่อผู้เช่าอาคารมาเปิดประตู และกำลังตำรวจได้นำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถกระบะอย่างทุลักทุเล

ชายคนนี้อยู่ในอาการอ่อนเพลียอย่างหนัก จึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากนี้จะตรวจหาสารเสพติด พร้อมสอบปากคำหาสาเหตุ จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายเกียรติชัย อายุ 43 ปี เป็นชาวหนองบัวลำภู

ด้านพันตำรวจเอกธนาวุฒิ จงจิระ รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา บอกว่า ตำรวจเข้าปิดล้อมกดดันจนผู้ก่อเหตุจนมุม และไม่สามารถปีนหนีไปที่ตึกใดได้ จึงนำกำลังเข้าชาร์จ แต่ผู้ก่อเหตุอาศัยความมืดวิ่งหนีและกระโดดข้ามตึกสูง 6 ชั้น ไปยังตึกใกล้เคียง แต่เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีกระโดดตามไปติดๆ จึงคุมตัวเอาไว้ได้อย่างชุลมุน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า