fbpx

ภูเก็ตพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแล้ว 1 ราย

ภูเก็ต 9 ก.ค. – ภูเก็ตมีรายงานพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาแล้ว 1 ราย เป็นชาวต่างชาติที่อาศัยและทำธุรกิจอยู่ใน จ.ภูเก็ต ติดจากเพื่อนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ


วันนี้ (9 ก.ค.64) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 41/2564 โดยมีว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของ จ.ภูเก็ต และการพิจารณาเพื่อออกมาตรการต่างๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ นพ.กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของ จ.ภูเก็ต ว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ณ เวลา 15.00 น. วันนี้ (9 ก.ค.64) จำนวน 10 ราย โดยเป็นตัวเลขผู้ป่วยสูงสุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวเลขหลักเดียว จึงทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ยังไม่น่าไว้วางใจมากนัก เนื่องจากขณะนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ที่อยู่นอก LQ หรือไม่อยู่ในระบบกักตัว และส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่น


อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเฝ้าระวังนั้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยสูงกว่า 32% เฉพาะกรุงเทพฯ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70% และขณะนี้ในส่วนของ จ.ภูเก็ต มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) แล้ว 1 ราย ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้ว 5 วัน นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เบตา (แอฟริกา) เพิ่มอีก 4 ราย จากเดิมมี 2 ราย โดยทั้งหมดเดินทางมาจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดและมีความเสี่ยงสูงได้นำเข้าระบบกักตัวแล้วทั้งหมด

นพ.กู้ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมภายหลังว่า ขณะนี้ใน จ.ภูเก็ต มีผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ต่างๆ แล้ว 3 สายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) รองลงมาเป็นสายพันธุ์เบตา (แอฟริกา) จำนวน 6 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก 4 จังหวัดภาคใต้ และสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จากการส่งตรวจ พบ 1 ราย เป็นชาวต่างชาติที่พักอาศัยและประกอบธุรกิจอยู่ใน จ.ภูเก็ต แต่สัมผัสกับคนไทยที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยผู้เสี่ยงสัมผัสเป็นคนในครอบครัวและเพื่อน ซึ่งทั้งหมดเข้าสู่ระบบการกักตัวแล้ว เหตุที่เพิ่งทราบผลสายพันธุ์ เนื่องจากการส่งตรวจยืนยันต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เบื้องต้นมีรายงานยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เพียง 1 ราย เป็นชายที่เดินทางมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นสายพันธุ์ใด อยู่ระหว่างรอผล. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว