ครอบครัวเชิญวิญญาณ “น้องพอส”

สมุทรปราการ 8 ก.ค. – ครอบครัวน้องพอส อาสาดับเพลิงที่เสียชีวิตขณะเข้าฉีดน้ำดับเพลิงจากเหตุไฟไหม้โรงงาน นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญวิญญาณ “น้องพอส” บริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่วิศวกรรมสถานตรวจบ้านเรือนรอบโรงงานไฟไหม้ เพื่อจัดโซนนิ่งความปลอดภัย ด้าน รมว.อุตสาหกรรม สั่งปิด บ.หมิงตี้-เร่งกำจัดสไตรีนที่ตกค้างอยู่ 600 ตัน ใน 3 วัน


พ่อแม่และพี่ชายของนายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ หรือ น้องพอส อาสาดับเพลิงที่เสียชีวิตขณะเข้าฉีดน้ำดับเพลิงภายในโรงงาน ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญวิญญาณ “น้องพอส” บริเวณจุดเกิดเหตุโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้จุดธูป หรือก่อประกายไฟโดยเด็ดขาด เพราะในพื้นที่ยังมีสารเคมีที่เป็นวัตถุไวไฟอยู่ทั่วบริเวณ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมได้ ซึ่งทางพ่อแม่ของน้องพอสก็ยินดีให้ความร่วมมือ โดยใช้วิธีเข้าไปปักธูปบริเวณที่น้องพอสเสียชีวิต โดยไม่ได้จุดธูปแต่อย่างใด จากนั้นจึงทำพิธีเชิญวิญญาณน้องพอส กลับบ้านตามความเชื่อ

วิศวกรรมสถานตรวจบ้านเรือนรอบโรงงานไฟไหม้
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำวิศวกรอาสาลงพื้นที่ปูพรมสำรวจความเสียหาย บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบในรัศมี 1 กิโลเมตร จากจุดเกิดระเบิดและเพลิงใหม้โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกและโฟม เพื่อจัดโซนนิ่งความปลอดภัย หลังทางจังหวัดอนุญาตให้ประชาชนบางส่วนที่อพยพออกจากบ้าน สามารถกลับเข้าอยู่อาศัยได้


นายกวิศวกรรมสถานฯ บอกว่า เหตุไฟไหม้ครั้งนี้มีการระเบิดเกิดขึ้น บ้านส่วนใหญ่เสียหายจากแรงระเบิด จึงต้องได้รับการประเมินความปลอดภัยก่อนที่ประชาชนจะเข้าอยู่อาศัย โดยต้องประเมินเบื้องต้น 4 ข้อ 1.ลักษณะทางกายภาพ เช่น รอยแตกร้าว ความเอียง 2.ตำแหน่งรอยราวของเสาและรอยแตกแนวนอน 3.รอยร้าวบริเวณคอเสาและคาน 4.เสียงลั่นและการตกร่วงของคอนกรีน ซึ่งทางวิศวกรอาสาจะสำรวจและนำข้อมูลของบ้านแต่ละหลังนำไปจัดทำฐานข้อมูลจัดโซนความปลอดภัยเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยประเมินเบื้องต้นว่าที่อยู่อาศัยของตนเองได้รับผลกระทบมากหน่อยเพียงใด สามารถอพยพกลับเข้าบ้านได้ปลอดภัยหรือไม่

หลายคนก็เริ่มเข้ามาดูบ้าน อย่างที่หมู่บ้านพฤกษา วิลล์ 97 (วงแหวน-อ่อนนุช) เจ้าของบ้านเข้าสำรวจความเสียหาย หลังจากต้องอพยพไปอาศัยอยู่บ้านญาติ 2 วัน เมื่อเห็นสภาพบ้านก็ตกใจ เพราะฝ้าเพดานชั้นสองหลุดออกมาจากแรงระเบิด ประตูกระจกหน้าบ้านแตกเสียหายทั้งบาน รวมทั้งพัดลมดูดอากาศที่ชั้นสองก็กระเด็นหลุดออกมา เมื่อสำรวจรอบบ้านยังพบรอยร้าวของผนังหลายจุด

รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับ
ส่วนความเคลื่อนไหวที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ที่ก่อนหน้านี้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกไป เนื่องจากโรงงงานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลมาก เพียง 1 กม. วันนี้เจ้าหน้าที่นำรถพยาบาลดำเนินการนำผู้ป่วยในทั้งหมด เป็นผู้ป่วยไอซียู 16 คน และผู้ป่วยใน 80 คน รวมทั้งผู้ป่วยไอซียูที่เราย้ายออกไปพักดูแลตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเครือกลับมาแล้ว และเริ่มกลัมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง โดยวันนี้ในส่วนห้องฉุกเฉินจะรับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ศูนย์ไตเทียมสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ สำหรับผู้เป่วยนอก (opd) และผู้ป่วยใน จะเปิดให้บริการวันพรุ่งนี้ รวมถึงการตรวจคัดกรองโควิด จะต้องรีบเคลียร์คนที่ตกค้างอยู่ เรียกว่าพรุ่งนี้จะเปิดเต็มรูปแบบ โดยช่วงที่ย้ายผู้ป่วยไป แพทย์เจ้าของไข้ก็ตามไปดูแลผู้ป่วยของตนเองตามโรงพยาบาลนั้นด้วย ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินผู้ป่วยที่มีอาการหนักกลับมาก่อน


เร่งสำรวจเยียวยาชาวบ้านเหตุโรงงานระเบิด
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ วันนี้ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการ มีการประชุม นำโดยนายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี พร้อมบูรณาการขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งสำรวจความต้องการของประชาชน

พ.ต.ท.ธัญญ์นิธิ อัศวรักษ์อารี รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางพลี ในฐานะชุดบูรณาการสอบสวนร่วม แจ้งว่ามีประชาชนมาแจ้งความแล้วกว่า 500 ราย คาดว่าน่าจะมีมากว่า 1,000 ราย ทั้งนี้ จากการรวบรวมข้อมูลและสอบสวนข้อมูลไว้เบื้องต้น มูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 200 ล้านบาท แต่ยังไม่รวมมูลค่าเสียหายของตัวโรงงานที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หน่วยงานในพื้นที่จะเข้าไปตั้งจุดบริการลงทะเบียนรับเรื่องช่วยเหลือเยียวยาในด้านต่างๆ จะมีด้วยกัน 5 จุด ประกอบด้วย หมู่บ้านศุภาลัย หมู่บ้านพฤกษา วัดสลุด วินด์มิลล์ และวัดกิ่งแก้ว

หากดูเป็นรายวัน พบว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุ 5 ก.ค. มีการแจ้งความไป 153 ราย วันที่ 6 ก.ค.แจ้งความ 219 ราย และเมื่อวานนี้ 198 ราย รวม 3 วัน แจ้งความไปแล้ว 570 ราย ตัวเลขยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความเสียหาย 3 วัน รวม 251 ล้านบาท

นายศิวกร บัวป้อง ผอ.กองช่วยเหลือผู้ประสบภัย กล่าวว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องการสำรวจผู้ที่มาลงบันทึกประจำวันเรื่องความเสียหาย พร้อมกับประสาน อ.บางพลี ให้แยกเป็นหมู่บ้านเพื่อที่จะสะดวกในการสำรวจ ส่วนการซ่อมแซมมีทีมวิศวกรอาสาได้ประสานเข้ามาสำรวจดำเนินการตามหมู่บ้านและประเมินความเสียหาย จากนั้นจะเร่งส่งเรื่องให้จังหวัดประสาน หน่วยงาน กปภ.จ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนต่อไป

“สุริยะ” สั่งปิด บ.หมิงตี้-เร่งกำจัดสไตรีน 600 ตัน ใน 3 วัน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบพบว่ายังมีสารสไตลีนโมโนเมอร์ตกค้างอยู่ประมาณ 600 ตัน ซึ่งขณะนี้ได้รับความร่วมมือจาก ปตท. และบริษัท ดาว เคมีคอล ประเทศไทย เติมสารดีฮาร์ (DEHA) เพื่อลดปฏิกิริยาทางเคมีให้มีสภาพเสถียร คาดจะขนย้ายออกไปหมดภายใน 3 วัน เพื่อนำไปกำจัดตามหลักวิชาการต่อไป พร้อมระบุได้สั่งปิดโรงงานหมิงตี้แล้ว ยืนยันจะไม่มีการสร้างโรงงานใหม่ในพื้นที่เดิม หากบริษัทจะดำเนินการต่อไปก็ต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม จะไม่มีการก่อสร้างโรงงานที่เป็นอันตรายในพื้นที่ชุมชน

ส่วนการตรวจสอบคุณภาพอากาศ ล่าสุดพบว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อระบบทางเดินหายใจของประชาชน คุณภาพน้ำพบการปนเปื้อนของสารสไตรีนที่เกิดจากการดับเพลิงไหลลงสู่แหล่งน้ำบริเวณรอบโรงงาน ซึ่งตามหลักวิชาการจะสลายตัวได้เองภายใน 30-45 วัน อย่างไรก็ตาม ขอให้งดใช้น้ำคลองช่วงเวลานี้เป็นการชั่วคราว

ส่วนแนวทางการเยียวยาประชาชน ได้สั่งให้โรงงานดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงาน มาตรา 39 วรรค 1 เพื่อให้มีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนจะต้องได้รับอย่างเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ 3 แห่ง ได้แก่หน้าโรงงานหมิงตี้ สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว/ และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมรับเป็นหน่วยงานกลางทำหน้าที่ในการประสาน เพื่อเยียวยาประชาชนต่อไป

ขณะที่ตัวแทนบริษัทหมิงตี้ ยืนยันจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนทุกกรณี โดยทางบริษัทจะตั้งจุดให้ประชาชนยื่นเรื่องร้องเรียน พร้อมระบุความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อรับเงินเยียวยา

นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า แม้จะมีคำสั่งปิดกิจการบริษัท หมิงตี้ฯ ไปแล้ว แต่ไม่ใช่การถอนใบอนุญาต ที่ผ่านมาโรงงานหมิงตี้ฯ ได้ก่อตั้งก่อนที่จะมีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ทำให้ไม่อยู่ในเกณฑ์ทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และโรงงานนี้ได้มีการขอขยายโรงงานเมื่อ พ.ศ.2560 ในพื้นที่เดิม และกรณีที่ระบุว่า พ.ร.บ.โรงงานที่ปรับปรุงใหม่จะยกเว้นการต่ออายุใบอนุญาตที่ทำให้การดูแลโรงงานอ่อนลงนั้น ยืนยันว่าไม่จริง แต่ตรงกันข้ามที่เข้มงวดขึ้น เพราะต้องประเมินตนเองด้วยและยังประเมินผลกระทบความเสี่ยงตามเงื่อนไข และโรงงานประเภทเดียวกันกับหมิงตี้ ทั่วประเทศก็มีอีกเพียง 1 แห่งที่ระยองของไออาร์พีซีเท่านั้น

น้ำสีชมพูเหตุไฟไหม้โรงงานลาดกระบัง เกิดจากการดับเพลิง
ส่วนกรณีไฟไหม้โกดังเก็บสินค้าของ บริษัท ฟลอรอลแมนูแฟคเจอริ่งกรุ๊ป ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง จากการรายงานเบื้องต้นทราบว่าเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท สำหรับกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีน้ำเสียสีชมพูอยู่บริเวณรางน้ำฝนโดยรอบบริเวณโรงงาน ขอชี้แจงว่าน้ำดังกล่าวเกิดจากการดับเพลิงและยังอยู่ในบริเวณนิคมอุตสาหกรรมไม่ได้ระบายออกไปภายนอก และเป็นความรับผิดชอบของบริษัทฯ ที่ต้องเร่งบำบัดให้ได้ภายในพรุ่งนี้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม

สอบแล้ว 5 ปาก คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์

ผบช.ภ.2 เผย สอบแล้ว 5 ปาก พยานสำคัญ คลี่ปม “แบงค์ เลสเตอร์” ยังปฏิเสธจ้างดื่มโชว์ พร้อมไล่ไทม์ไลน์ เปิดผลชันสูตรเบื้องต้นหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่งชิ้นเนื้อ สารคัดหลั่ง เลือด และเศษอาหารในกระเพาะตรวจแล็บ หาสาเหตุที่แท้จริง

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการ ปชช.เดินทางช่วงปีใหม่

นายกฯ ตรวจความพร้อมหมอชิต 2 ให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า กำชับ บขส. อำนวยความสะดวกเตรียมพร้อมรถ สั่งเข้มตรวจแอลกอฮอล์-ยาเสพติดพนักงานขับรถ ป้องกันอุบัติเหตุ