BIG STORY : ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ ระบุรัศมี 1 กม.ยังเป็นพื้นที่อันตราย

สมุทรปราการ 7 ก.ค. – ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ แถลงในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ยังเป็นพื้นที่อันตราย และอนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยห่างจากโรงงานหมิงตี้ เกินรัศมี 1 กม. กลับเข้าพื้นที่ได้ ขณะที่ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้องค่าเสียหายบ้านพัง


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทุกชั่วโมง ปรากฏว่าคุณภาพอากาศเป็นปกติแล้ว โดยในรัศมีเกินกว่า 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ไม่พบทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารอินทรีย์ระเหยง่าย และก๊าซอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานที่กำหนด ส่วนระยะรัศมี 1 กิโลเมตรแรกยังมีเกินเป็นระยะๆ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวต่อว่า ยังไม่ทราบปริมาณสารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ว่ายังคงหลงเหลืออยู่เท่าไร เพราะการแจ้งปริมาณเก็บสารเคมีอันตราย ทางโรงงานจะแจ้งกับอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยยังคงเป็นห่วงเรื่องการควบคุมไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก หากอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์จะทำปฏิกิริยาทำให้สารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ใต้ดินแข็งตัวและติดไฟยากขึ้น โดยจะประสานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและวางแผนวิธีการปฏิบัติ หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการพิจารณาเห็นชอบจะเร่งดำเนินการ


อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีบทบังคับที่ละเอียดครอบคลุมในการป้องกันและเยียวยา โดยเฉพาะการให้โรงงานรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ต่อความเสียหายต่อทั้งประชาชนและสิ่งแวดล้อม

ด้านชาวบ้านในหมู่บ้านพาทิโอ ย่านถนนกิ่งแก้ว กว่า 200 คน รวมตัวกันบริเวณสวนหย่อมภายในหมู่บ้าน เพื่อร้องเรียนหลังบ้านพักได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด โดยมีนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เจ้าของเพจ “ทนายไพศาลช่วยด้วย” รับเรื่องร้องเรียน และจะเป็นตัวแทนไปเจรจาเรียกร้องความเสียหายจากโรงงานหมิงตี้ และบริษัท เอกชน (พฤกษา) เจ้าของโครงการ ที่ไม่เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาให้ลูกบ้าน จนไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้

ทนายไพศาล ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านผ่านเพจทนายไพศาลช่วยด้วย ว่าชาวบ้านที่นี่กำลังเดือดร้อนหนัก ไม่สามารถเข้าไปพักอาศัยได้ เพราะหลังคาที่พักในหมู่บ้านกว่า 200 หลังคาเรือน จากทั้งหมดประมาณ 300 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย ฝ้าถล่ม กระจกประตู หน้าต่างแตก และทางโครงการยังไม่มีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้นแต่อย่างใด หลังจากนี้จะไปเจรจากับทางโครงการ รวมไปถึงโรงงานว่าจะเข้ามาชดเชยความเสียหายให้กับชาวบ้านได้อย่างไร


นายอิทธิกานต์ จิตสมบูรณ์ หนึ่งในลูกบ้านที่รับความเสียหาย ระบุว่า พยายามแจ้งเรื่องไปยังนิติบุคคล เพื่อให้โครงการเข้ามาช่วยเหลือแก้ไข โดยเฉพาะหลังคา ในเบื้องต้นแต่โครงการกลับเพิกเฉย ยิ่งเมื่อวานนี้ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้บ้านพักเสียหายเพิ่มมากขึ้น ฝ้าถล่มลงมา และน้ำท่วมภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายเพิ่มเติม จึงอยากให้ทางโครงการเห็นใจรีบเร่งมาดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นเหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ ในละแวกนี้ ที่มีการซ่อมแซมในเบื้องต้น พร้อมติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐในการแจ้งความดำเนินคดีให้

ขณะที่นางสาวสุกัลยา บุญยะกา หนึ่งในผู้เสียหาย นำผู้สื่อข่าวสำรวจความเสียหายในบ้านที่พบว่าแรงระเบิดจากโรงงานส่งผลให้หลังคาบ้านพักเปิด ฝ้าถล่ม ประตูหน้าต่างแตกละเอียด พร้อมเผยถึงเหตุการณ์วันที่เกิดการระเบิดว่าแรงสั่นสะเทือนรุนแรงมาก บ้านสั่นทั้งหลัง กลัวว่าเหตุครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของตัวบ้าน อยากให้วิศวกรเข้ามาตรวจสอบ

ผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินและเตรียมเข้าจัดการผสมสารเคมีให้สารไวไฟในโรงงานผลิตโฟม ให้เสื่อมสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ เพื่อสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปกำจัด แต่การปฏิบัติการจะต้องตรวจสอบและปรับอุณหภูมิของสารไวไฟที่ตกค้างอยู่ในถังบรรจุให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม ด้วยการใช้รถกระเช้าฉีดโปรยละอองน้ำใส่ถังบรรจุ

นายณัฐธัญ ละอองทอง ผู้จัดการส่วนบริหารภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญของกลุ่ม ปตท. เข้าประเมินแบบนาทีต่อนาที เพื่อความปลอดภัย โดยจะมีการผสมสารเคมีเข้าไปในถังบรรจุสารไวไฟให้สารเปลี่ยนสภาพเป็นของเหลวที่ไม่ติดไฟ และเมื่อไม่ติดไฟแล้วก็จะมีความปลอดภัยในการทำงาน และจากนั้นหากจะขนย้ายไปทำลายก็จะทำได้

ทางด้านนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ แถลงข่าววันนี้ว่า ในรัศมี 1 กม.จากที่เกิดเหตุ ยังประกาศเป็นพื้นที่อันตราย เจ้าหน้าที่ยังต้องควบคุมอยู่ คือ ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันตก ตั้งแต่ซอย 19 ถึงซอย 25 ยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านพักเข้าพื้นที่ ส่วนถนนกิ่งแก้วจะเปิดการจราจรทั้งสาย ยกเว้นซอย 19 ถึงซอย 25 เป็นพื้นที่ควบคุม ยังไม่อนุญาตให้เข้าไปในซอย ส่วนผู้มีบ้านพักรัศมีเกินระยะ 1 กิโลเมตร หรือในระยะ 2-5 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ สามารถใช้ชีวิตประกอบอาชีพได้ตามปกติ

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ยังระบุด้วยว่าตอนนี้ปัญหามีอยู่ 2 ส่วน คือ สารเคมีที่ยังอยู่ในถังกว่า 1,600 ลิตร ยังหลงเหลืออยู่กี่ลิตร และที่รั่วไหล่ออกมาถูกเผาไหม้ไปแล้วกี่ลิตร ซึ่งการประชุมได้แยกการดำเนินการเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกจะเข้าไปกำจัดการสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งในภาคพื้นดินและในถัง โดยจะใช้สารเคมีเข้าไปเจือปนให้เป็นกลางและก่อให้ติดไฟน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือการเข้าถึงตัวถังสารเคมี ซึ่งตรงนี้ต้องมีการสำรวจให้รอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัยสูงสุด ก่อนที่จะให้ผู้ชำนาญการเข้าจัดการกับสารเคมีที่เหลืออยู่ต่อไป

สำหรับประชาชนที่ห่วงใยเรื่องการกลับเข้าสู่ที่พักนั้น หลังจากได้มีการประชุม ซึ่งหลายฝ่ายเห็นว่าสถาณการณ์เริ่มปลอดภัยมากขึ้น แต่ยังมีบางจุดที่ยังเป็นห่วงเรื่องอันตรายและยังอยู่ในพื้นที่ควบคุม แต่จะผ่อนคลายเปิดให้ใช้ถนนกิ่งแก้วทั้งสองฝั่ง และประชาชนที่อยู่ศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับเข้าที่พักและประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยเฉพราะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ถนนกิ่งแก้วฝั่งตะวันออก ซึ่งสามารถเข้าพื้นที่ได้ทั้งหมด แต่ยกเว้นผู้ที่พักอยู่ในซอย 19-25 ที่ยังประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุม โดยจะเปิดให้ใช้ถนนและกลับบ้านพักได้ในเวลา 17.00 น.ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องของคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนผู้ได้รับบาดเจ็บที่พอจะให้การได้ไปแล้วบางส่วน รวมถึงผู้จัดการโรงงาน และพนักงานที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุ แต่ข้อสรุปนั้นยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจที่เกิดเหตุได้ รวมถึงสถานที่ยังมีความร้อนอยู่ จากนั้นต้องรอผู้ชำนาญการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ชำนาญการจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความผิดของใคร ต้องขึ้นอยู่กับการสอบสวนทุกๆ ด้าน ต้องรอหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้จัดกำลังตำรวจออกตรวจตราในพื้นที่รัศมี 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ตลอด 24 ชม. จนกว่าจะประกาศเป็นพื้นที่ปลอดภัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่ 1 กิโลเมตร ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไม่มีเหตุเข้าไปขโมยทรัพย์สินใดๆ หากต้องการรื่องการแจ้งความทรัพย์สินเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ทำได้ 2 วิธี คือ ทรัพย์สินที่สามารถประเมินราคาได้ ให้นำเอกสารการประเมินจากช่าง ไปมอบให้ตำรวจได้เลย และถ้ายังประเมินราคาไม่ได้ ให้ไปแจ้งความไว้ก่อนได้เลย แล้วค่อยนำเอกสารการประเมินราคามามอบให้ตำรวจเพิ่มเติมในภายหลังได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]