สมุทรปราการ 5 ก.ค. – รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เผยเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก จ.สมุทรปราการ จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ส่งผลอันตรายในระยะยาวสำหรับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ใช้รถน้ำและโฟมฉีดสกัดไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมกับใช้เฮลิคอปเตอร์ของ ปภ. 2 ลำ บินโปรยทิ้งโฟมและสารเคมีดับเพลิง เพื่อควบคุมสถานการณ์ ซึ่งปริมาณโฟมที่ใช้ 300 ลิตร ผสมน้ำ 3,000 ลิตร โปรยเต็มพื้นที่ จากภาพมุมสูงพบว่าบางส่วนภายในโรงงานราบเป็นหน้ากลองและคงปะทุอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันทีมข่าวได้ภาพภายในโรงงาน พบว่าอาคารโรงงานพังเสียหายทั้งหมด ส่วนถังบรรจุสารเคมี 2 ถัง ที่ถือเป็นจุดเปราะบาง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุม เพราะหวั่นจะเกิดการปะทุอีกครั้ง ขณะนี้ยังไม่พบจุดที่เป็นตัวบ่งชี้ของเหตุระเบิดครั้งนี้
จากกลุ่มควันที่ยังพวยพุ่งอย่างต่อเนื่อง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ให้ข้อมูลว่าจากการตรวจสอบคุณภาพอากาศในรัศมี 5-7 กิโลเมตร คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากอากาศโดยรอบมีการลอยตัว ทำให้ควันลอยขึ้นสูงสู่ชั้นบรรยากาศ กลายเป็นเขม่าควัน ไม่ได้ส่งผลกระทบเป็นอันตรายในระยะยาว สำหรับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง อาจะมีอาการระคายเคือง เวียนศีรษะ อาเจียน จากการสูดดม อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ
ส่วนการอพยพประชาชนในพื้นที่ศูนย์พักพิง ขณะนี้มีทั้งหมด 4 แห่ง คือ วัดบางพลีใหญ่ วัดสลุด อบต.บางพลีใหญ่
โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ ภาพรวมพบว่าเกือบ 90% มีประชาชนเข้าไปอยู่ในศูนย์อพยพเป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ชาวบ้านได้เข้าลงบันทึกประจำวัน บ้านเสียหาย 73 หลัง รถยนต์ 50 คัน ทีมข่าวสำรวจบ้านเรือนประชาชนในรัศมี 5 กิโลเมตร โดยเฉพาะบ้านที่หันหน้าเข้าสู่โรงงาน กระจกแตกละเอียด ประตูอะลูมิเนียมเสียรูป นอกจากนี้ภายในซอยกิ่งแก้ว 25 อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ทุกห้องได้รับความเสียหายทั้งหมด พบโครงสร้างร้าวและยุบตัวทั้งหมด ขณะที่วัดกิ่งแก้ว ใกล้กับที่เกิดเหตุ หลังคาโบสถ์พัง กระจกแตกเสียหาย
จากความเสียหายครั้งนี้ประมาณการ 700 ล้านบาท ส่วนความเสียหายประชาชนทั่วไปกว่า 100 ล้านบาท คาดตัวเลขความเสียหายของประชาชนจะมากกว่านี้ เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งมากกว่านี้
สำหรับโรงแห่งนี้มีกำลังการผลิต 36,000 ตันกว่าต่อปี ขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผลิตเม็ดโฟมพลาสติก กำลังการผลิตสารเคมีที่ใช้ทั้งหมด 900,000 ตัน แต่ขณะเกิดเหตุมีสารเคมีเพียง 1,600 ตัน หรือ 160,000 ลิตรเท่านั้น จากกระแสข่าวที่บอกว่ามี 500,000 ลิตร อธิบดีกรมโรงงานยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โรงงานแห่งนี้ขออนุญาตดำเนินการครั้งแรกในปี 2532 ส่วนเจ้าของนั้นมีรายงานเป็นชาวไต้หวัน ระหว่างก่อตั้งโรงงานชุมชนยังไม่เกิด โรงงานมีการกรมธรรม์มากกว่า 372 ล้านบาท แต่มีประกันคุ้มครองบุคคลภายนอกแค่ 20 ล้านบาทเท่านั้น
ขณะนี้ไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับที่พัก จนกว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบ ก่อนประเมินสถานการณ์และจะแจ้งประชาชนทราบ ซึ่งจะเข้าดำเนินการภายใน 3 วัน หลังจากเพลิงสงบ.-สำนักข่าวไทย