สงขลา 30 มิ.ย. – ตำรวจบุกรวบยายวัย 70 ปี ค้ายาบ้า ซุกของไว้หัวเรือ ใครจะซื้อต้องรอน้ำลด อ้างโควิด-19 หมดทางทำกิน พบประวัติสุดแสบ โดนจับคดียาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง
ยายวัย 70 ปี ถูกจับ หลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา วางแผนล่อซื้อ โดยยายใช้วิธีซุกยาบ้าไว้ที่หัวเรือประมงพื้นบ้าน การซื้อขายต้องรอให้น้ำลดถึงจะลงไปเอายาบ้าจากเรือมาขาย บางครั้งลูกค้ามาผิดเวลาต้องคอยนาน เพราะต้องรอให้น้ำลด ยึดยาบ้าได้ 9 ถุง จำนวน 1,791 เม็ด ยายคนนี้ชื่อ นางฟาตอน๊ะ เผยถูกจับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว อ้างว่าอายุมากแล้ว ไม่รู้จะทำอะไร จึงหันมาค้ายาบ้าอยู่กับบ้าน ยิ่งในช่วงโควิดระบาด ครอบครัวลำบากมาก ครั้งนี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ขายยาบ้า
ที่สุราษฎร์ธานี ตำรวจ ทหาร ไล่จับรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังฝ่ายสืบสวนติดตามเป้าหมายกลุ่มหนึ่ง ชื่อว่านายปอนด์ และนายโจ กำลังลำเลียงยาเสพติดลอตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงดักเฝ้าที่ด่านตรวจยานพาหนะจังหวัดชุมพร เพื่อจับกุม แต่เป้าหมายขับรถด้วยความเร็วผ่านด่านไปได้ จนมาถึงเขตอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รถของเป้าหมายเกิดเสียหลัก คนในรถคือ นายปอนด์ และนายโจ ลงจากรถ และอาศัยความมืดหลบหนีไป ตรวจค้นในรถพบยาบ้า 1.4 ล้านเม็ด ไอซ์ 7 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 77 ล้านบาท คาดว่าจะกระจายให้กับกลุ่มผู้ค้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และกระบี่
ส่วนที่ระนอง หน่วยเฉพาะกิจทหารราบ ออกลาดตระเวนพื้นที่ชายแดน ไปในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง พบแรงงานเมียนมาเข้ามาแจ้งว่าพบถังต้องสงสัยลอยน้ำมาบริเวณป่าโกงกาง ท่าเรือท่องเที่ยวเก่า จึงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าในถังมีไอซ์ 6 ถุง หนักประมาณ 6 กิโลกรัม บรรจุงอยู่ในถุงชาต่างประเทศ โดยแรงงานแรงงานเมียนมาให้ข้อมูลเพิ่มว่าตอนแรกเห็นถังน้ำคิดว่าน่าจะยังเอามาใช้ประโยชน์ได้ จึงลากขึ้นมา แต่พอเปิดดูเห็นของข้างในเป็นถุงสีเหลืองคล้ายชา ปกติเห็นในทีวีว่าซองแบบนี้จะมียาเสพติดซ่อนอยู่ ทำให้ไม่อยากยุ่ง ประกอบกับเห็นเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนผ่านมาพอดี จึงขอให้เข้าตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดเครือข่ายยาเสพติดอาจซุกยาใส่ถังผูกเชือกไว้กับอะไรซักอย่าง แต่เชือกเกิดขาด ทำให้ถังลอยน้ำมา ล่าสุดประสานท้องที่ส่งมอบไอซ์ของกลางให้สืบหาที่มาแล้ว.-สำนักข่าวไทย