พ่อวัย 72 แทงลูกชายวัย 51 ดับ เคยขู่ฆ่ามาก่อน

อุบลราชธานี 29 มิ.ย. – พ่อวัย 72 ปี ก่อเหตุใช้มีดแทงลูกชายวัย 51 ปี เสียชีวิต เหตุไม่พอใจพาลูกสะใภ้มาอยู่ในบ้าน ด้านลูกสะใภ้เผยก่อนหน้านี้เคยถูกผู้ต้องหาขู่ฆ่ามาแล้ว


ตำรวจ สภ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายหน้าบ้านชั้นเดียว เลขที่ 129 บ้านม่วงสามสิบ หมู่ 10 ต.ม่วงสามสิบ อ.ม่วงสามสิบ พบร่างผู้ตายริมถนนลูกรังหน้าบ้าน ทราบชื่อ นายเดชธนา เปิ้ลมั่นคง อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตอยู่ข้างรถตู้นิสสัน ทะเบียน นก 2419 นครราชสีมา ซึ่งเป็นรถของผู้ตาย มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมที่หน้าอกขวา 1 แผล เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังพบคนร้ายใช้ของแข็งทุบที่กระจกหน้าและหลังรถจนแตก จึงเก็บรวบรวมหลักฐานไว้ประกอบสำนวน ผู้ก่อเหตุ คือ นายธนกิจ จันทร์ชูผล อายุ 72 ปี พ่อของผู้ตาย หลังก่อเหตุพยายามหลบหนี แต่ถูกชุดสืบสวนไล่ล่าตามจับตัวไว้ได้ และยังไม่ขอให้การใดๆ ในขณะนี้

น.ส.มุกดา นามสมบูรณ์ อายุ 35 ปี ภรรยาของผู้ตาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ กระทั่งมีชาวบ้านผ่านมาเห็นนายเดชธนา นอนเสียชีวิตอยู่หน้าบ้าน สำหรับชนวนเหตุ เดิมนายเดชธนา เป็นชาวกรุงเทพฯ อาศัยอยู่เขตคลองสามวา มีอาชีพขายของออนไลน์ และเมื่อปีที่ผ่านมาได้มาซื้อบ้านหลังเกิดเหตุและสวนใช้เลี้ยงหมูในหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อพักอาศัยอยู่กับภรรยา พร้อมรับนายธนกิจ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและเป็นคนโมโหร้าย มาอยู่ด้วยกัน กระทั่งเมื่อ 2-3 เดือนก่อน นายธนกิจ มีเรื่องทะเลาะกับลูกชาย เพราะไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน พร้อมขู่จะฆ่าตนและลูกชายหลายครั้ง นายเดชธนา จึงตัดสินใจพา น.ส.มุกดา ไปพักอาศัยอยู่กระท่อมที่สวน ห่างออกไป 200 เมตร เพื่อตัดปัญหา ต่อมาตนตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ซึ่งนายเดชธนา เคยบอกว่า อยากพาตนกลับเข้าไปอยู่ในบ้านตามปกติ เพราะจะได้สะดวกในการพักอาศัยระหว่างตั้งครรภ์ จึงคาดว่า เช้าวันนี้ (29 มิ.ย.) หลังนายเดชธนา ผู้ตาย กลับจากไปเอาผักใช้เลี้ยงหมู ที่ตลาดในตัวอำเภอ อาจแวะมาคุยกับนายธนกิจ ผู้เป็นพ่อ จากนั้นทั้งคู่ก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีก ก่อนที่นายธนกิจจะใช้มีดทำครัวแทงนายเดชธนา จนเสียชีวิต


ด้านนายกระโยธร ชุมนุม เพื่อนของผู้ตายที่พอทราบเรื่องระหองระแหงระหว่างพ่อลูกคู่นี้ เล่าว่า ผู้ตายมาซื้อบ้าน ต้องการให้พ่อ ภรรยา และตนเอง มาอยู่ด้วยกัน แต่ก็มีความขัดแย้งกับลูกสะใภ้ ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน ผู้ตายบอกจะไม่จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จะปล่อยให้เขาตัด เพื่อให้พ่อย้ายไปอยู่ที่อื่น จะได้ไม่มีปัญหากับภรรยาที่กำลังท้อง ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการฆ่ากันครั้งนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”