นครสวรรค์ 25 มิ.ย.- สัปเหร่อน้อยวัย 13 ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 10 หลังเขียนจดหมายกราบบังคมทูลขอพระราชทานความช่วยเหลือ ซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรม
สภาพบ้านของ ด.ช.จีรภัทร กรมไธสง หรือ น้องเบส เด็กที่เขียนจดหมายถึงพระองค์ท่าน บ้านอยู่ในพื้นที่ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ในชุมชนที่มีสภาพแออัด พบว่าบ้านไม้ยกสูงชั้นเดียว และมุงหลังคาด้วยสังกะสี และคับแคบ เพราะมีสมาชิกรวมกันถึง 6 คน สภาพบ้านเก่าผุพัง ตั้งแต่พื้นไม้กระดานไปจนถึงฝาผนัง ต้องใช้เศษไม้อัด และผ้าใบมาซ่อมแซมในส่วนที่พัง
น้องเบสเล่าว่า ที่เขียนจดหมายไปขอพระราชทานความช่วยเหลือ เนื่องจากบ้านของตนอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก ทั้งพื้นบ้านทะลุ และฝาบ้านพังเสียหายมานานหลายปี แต่ทางบ้านก็ไม่มีเงินซ่อม เพราะครอบครัวอยู่ในฐานะยากจน พ่อ อายุ 37 ปี มีอาชีพรับจ้างขับรถส่งน้ำดื่ม และแม่ อายุ 33 ปี ทำงานเป็นลูกจ้างขายไก่ทอดที่ร้านแห่งหนึ่ง ภายในห้างสรรพสินค้า ซึ่งทั้งคู่มีรายได้ต่อเดือนเพียงน้อยนิดเท่านั้น
![](https://tna.mcot.net/wp-content/uploads/2021/06/Screen-Shot-2564-06-25-at-17.32.54.png)
น้องเบสเล่าวิธีการเขียนจดหมาย หาแบบฟอร์มจากกูเกิล บรรจงเขียนจดหมายด้วยลายมือตัวเอง เล่าถึงความเดือดร้อน ด้วยภาษาแบบชาวบ้านทั่วไป ไม่ได้ใช้คำราชาศัพท์ และค้นหาที่อยู่ของพระองค์ท่าน ในการจ่าหน้าซองระบุที่อยู่จัดส่ง และให้แม่ช่วยไปส่งที่ไปรษณีย์ ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันนี้ มีเจ้าหน้าที่ของจังหวัด นำเครื่องอุปโภคบริโภคเดินทางมามอบให้ถึงบ้าน จึงได้ทราบว่าในหลวง ร.10 ได้อ่านจดหมายและได้ทราบถึงการขอพระราชทานความช่วยเหลือของตน ทรงให้ทางจังหวัดมาตรวจสอบ พร้อมกับให้การช่วยเหลือเรื่องการซ่อมแซมบ้านพัก รู้สึกปลาบปลื้มใจที่พระองค์ท่านทรงให้ความเมตตาเป็นอย่างมาก
แม่ของน้องเบสเล่าว่า มีลูกสี่คน เบสเป็นลูกชายคนที่ 2 บ้านหลังนี้อยู่มานานหลายปีแล้ว เป็นบ้านที่สร้างกันเอง และอยู่ในที่ของการรถไฟ ยอมรับว่าไม่มีเงินซ่อมแซม ทำได้เพียงแค่หาวัสดุเก่าๆ มาซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายไปก่อน จู่ ๆวันหนึ่ง ลูกชายมาบอกกับตนว่า จะเขียนจดหมายเพื่อขอความช่วยเหลือกับในหลวง ตอนนี้ครอบครัวปลาบปลื้มดีใจที่สุด เมื่อทราบว่าพระองค์ท่านทรงอ่านจดหมายขอความช่วยเหลือของน้องเบส และพระราชทานความช่วยเหลือมา รู้สึกว่าพระองค์ทรงห่วงใยใส่ใจต่อความเดือดร้อนของประชาชน เรื่องของตนอาจจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ เมื่อเทียบกับเรื่องอื่น
ตอนนี้หน่วยราชการลงมาดูแล้วบอกว่า ขอให้ใช้เวลารออีกสักพักในการทำเรื่องเบิกจ่ายงบประมาณ ประเมินค่าซ่อมแซ่มบ้านประมาณ 20,000 บาท
วันที่นักข่าวไปหาน้องเบสที่บ้าน ตอนแรกน้องไม่อยู่บ้าน เพราะน้องเบสต้องช่วยครอบครัวด้วยการไปรับจ้างเป็นผู้ช่วยสัปเหร่ออยู่ที่วัดปากน้ำโพใต้ หรือวัดตะแบก วัดนี้อยู่ไกลจากบ้านมาก ตอนผู้สื่อข่าวไปเจอ ด.ช.จีรภัทร กำลังช่วยงานฌาปนกิจอยู่ ได้ค่าจ้างครั้งละ 100-400 บาท ส่วนการเรียนของ ด.ช.จีรภัทร ตอนนี้อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลวัดปากน้ำโพใต้ เรียนในระดับดี เกรด 3 กว่า.-สำนักข่าวไทย