มหาสารคาม 20 มิ.ย. – เปิดใจ “แพทย์-พยาบาล” คุณครูชุดขาว รักษาโควิด 19 ไปด้วย สอนหนังสือเด็กที่เข้ามารักษาโควิด-19 ไปด้วย ในห้องความดันลบ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้บุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่มีพลังปฏิบัติหน้าที่อย่างถึงที่สุด
จากกรณีจังหวัดมหาสารคาม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มเด็กนักเรียน อายุระหว่าง 6-10 ปี ในโรงเรียนเดียวกันถึง 9 ราย ติดเชื้อคลัสเตอร์งานบวช ในพื้นที่บ้านหนองบัว ต.บัวค้อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับไปรักษาตัวที่หอผู้ป่วยเฉพาะโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม จำนวน 8 ราย ส่วนอีก 1 ราย ถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนามอำเภอกุดรัง เพื่อรักษาพร้อมกับญาติที่ติดเชื้อโควิด-19
หลังจากแพทย์หญิงจิราพร พิลัยกุล หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาสารคาม และหัวหน้าทีมรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ของโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้แชร์ภาพทีมแพทย์-พยาบาลกำลังทำกิจกรรมดูแลผู้ป่วยเด็กติดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งสอนหนังสือเด็กๆ ภายในห้องความดันลบ
นางสาวขนิษฐา ศรีธรรมา พยาบาลวิชาชีพประจำหอผู้ป่วยเฉพาะโรค โรงพยาบาลมหาสารคาม หนึ่งในคุณครูจำเป็นเล่าว่า ผู้ป่วยเด็กทั้งหมดเป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ร่างกายโดยรวมยังแข็งแรงดี คาดว่าเบื้องต้นต้องใช้เวลาสังเกตอาการและรักษาตัวอย่างน้อย 14 วัน ในระหว่างนี้โรงพยาบาลจึงประสานกับผู้ปกครองและคุณครู จัดกิจกรรมการเรียนการสอนรูปแบบพิเศษ เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้เวลาระหว่างพักรักษาตัวให้เป็นประโยชน์ นอกเหนือจากการนอน การออกกำลังกาย การช่วยกันวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อส่งให้พยาบาลจดบันทึกข้อมูลสุขภาพในแต่ละวัน ตลอดจนการปฏิบัติตัวตามที่แพทย์วางรูปแบบไว้ ซึ่งทางโรงเรียนของเด็กๆ ได้ส่งการบ้านมายังเจ้าหน้าที่พยาบาล เพื่อส่งให้น้องๆ ได้ทำ หากเด็กๆ ทำแบบฝึกหัดเสร็จก็ส่งให้พี่พยาบาลตรวจความเรียบร้อย แล้วส่งให้คุณครูต่อไป ในการสื่อสารระหว่างเด็กๆ จะใช้วิธีการโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล แจกการบ้านและตรวจทานร่วมกัน แต่บางครั้งที่น้องๆ ไม่เข้าใจแบบฝึกหัด ตนและพี่พยาบาลท่านอื่นๆ จะช่วยดูและสอนการบ้าน ภายในห้องความดันลบอีกด้วย โดยจะใช้เวลาช่วงที่เข้าไปตรวจวัดสุขภาพประจำวันเสร็จ เรียกเด็กๆ มาพูดคุย และเปิดโอกาสในซักถามโจทย์การบ้านอย่างเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาตนรู้สึกสนุกที่ได้ทำหน้าที่เป็นคุณครูจำเป็น เพราะถือเป็นการได้ทบทวนความรู้ในระดับชั้นประถมอีกครั้ง
พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ผู้ป่วยเด็กที่ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงกำลังใจที่ส่งมาให้บุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ในทีมรู้สึกหัวใจฟองฟู มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย