นนทบุรี 18 มิ.ย. – ลุงวัย 52 ปี แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายจนสลบคาวัด และทุบทำลายกล้องวงจรปิดโยนทิ้งน้ำ
จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะกลุ่มวัยรุ่นกำลังรุมทำร้ายชายสูงอายุจนสลบ เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.64 บริเวณศาลาริมเขื่อน วัดเขมาภิรตาราม ถ.พิบูลสงคราม อ.เมือง จ.นนทบุรี ทางโซเชียล จนมีคนเข้ามาตำหนิพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ (18 มิ.ย.) นายไสว งามเนตร อายุ 52 ปี เจ้าของร้านตัดผมไสวบาร์เบอร์ และเป็นชายที่ถูกรุมทำร้ายในคลิป ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุ
ลุงไสว กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นช่วงกลางดึก ตนได้ไปนั่งที่บริเวณริมเขื่อนท่าน้ำวัดเขมาภิรตาราม เนื่องจากคิดถึงลูกชายที่เสียชีวิตจากการถูกรุมทำร้าย เมื่อปี 2559 ซึ่งตนนำกระดูกของลูกชายมาลอยอังคารตรงบริเวณนี้ ทุกครั้งที่ตนคิดถึงลูกชายก็จะมานั่งตรงนี้เป็นประจำ วันเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 10 คน เดินเข้ามาหาเรื่อง ตนเห็นว่าเป็นลูกหลานของคนรู้จัก ก็เลยบอกไปว่า “พ่อเอ็งเป็นรุ่นน้องของลุง” แต่กลุ่มวัยรุ่นได้ยินว่าเป็นลูกน้อง ก็เลยไม่พอใจ เข้ามารุมทำร้าย ตนเห็นท่าไม่ดี พยายามอธิบาย พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษ แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่ยอม กลับลงมือทำร้ายจนสลบไป และมีคนที่ทำร้ายพยายามจะเอาแหวนรุ่นของลูกชาย ซึ่งเป็นสิ่งของแทนใจที่เก็บไว้ดูหลังลูกชายเสียชีวิต ก่อนจะมีเพื่อนในกลุ่มมาห้าม พร้อมทั้งนำแหวนมาคืนให้กับตน และพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาส่งที่ร้านตัดผม ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่องราว แต่พอมาดูคลิปเหตุการณ์ จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่น เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
ด้าน ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากไวยาวัจกรของวัด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณริมเขื่อน จำนวน 2 ตัว ถูกทุบทำลายโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาตัวคนก่อเหตุ โดยดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ก่อนจะเรียกตัวผู้ปกครองและเด็กที่ก่อเหตุเข้ามาพบ
เบื้องต้นเด็กที่ก่อเหตุ ยอมรับว่า เป็นคนทุบทำลายกล้องวงจรปิดของทางวัด หลังร่วมกันรุมทำร้ายนายไสว แล้วกลัวความผิด ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กยอมชดใช้ค่ากล้องวงจรปิดให้กับทางวัด ส่วนวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ตำรวจจะเรียกทั้งหมดมาสอบปากคำ พร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ก่อนจะแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น
จากการพูดคุยกับกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์และคอยห้ามคนที่ก่อเหตุไม่ให้ทำร้ายนายไสว ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดในวันเกิดเหตุ ย้ำพยายามห้ามปรามแล้ว แต่นายอาร์มไม่ฟัง แถมขู่จะทำร้ายพวกตนด้วย หลังลุงสลบไป ตนได้ไปเอาแหวนจากนายอาร์มมาคืนให้กับลุง ก่อนจะพาลุงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปส่งที่ร้านตัดผม แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน. – สำนักข่าวไทย