พิตบูลหลุดจากบ้าน ขย้ำเด็ก 3 ขวบบาดเจ็บ

สมุทรสาคร 15 มิ.ย. – อุทาหรณ์! สุนัขพิตบูลหลุดออกจากบ้าน ขย้ำแขนเด็กวัย 3 ขวบ บาดเจ็บ พ่อแม่เด็กเคลียร์เจ้าของสุนัขไม่ลงตัว


หลังสุนัขพิตบูลกัดเด็กหญิงวัย 3 ขวบ พ่อและแม่ของเด็กต้องการให้เป็นอุทาหรณ์เตือนผู้ที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุว่า ให้ระวังการดูแลเลี้ยงสุนัข และไม่อยากให้มีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุร้ายในหมู่บ้านหรือชุมชนที่มีเด็กเล็กอาศัยอยู่จำนวนมาก ในการนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับนายกัลป์พล คุณนุช อายุ 34 ปี และ น.ส.ศิริมาศ คุณนุช อายุ 33 ปี พ่อแม่ของน้องเปียโน เด็กหญิงวัย 3 ขวบเศษ ที่ถูกสุนัขพิตบูลสีขาว ไม่ทราบเพศ ซึ่งเป็นสุนัขที่เพื่อนบ้านในซอยเดียวกันเลี้ยงไว้แล้วหลุดออกมาจากบ้านพัก ก่อนจะวิ่งเข้ามาขย้ำกัดที่แขนของเด็ก 3 แผล ขณะขี่รถจักรยานยนต์เด็กเล่นอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านของหนูน้อย จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 17.45 น. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร

นายกัลป์พล และ น.ส.ศิริมาศ พ่อแม่น้องเปียโน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ แม่พาน้องเปียโนออกมาขี่มอเตอร์ไซค์สำหรับเด็กเล่นที่บริเวณถนนหน้าบ้านตนเอง ส่วนพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน สักพักเดียวช่วงที่แม่หันหลังให้ลูก ก็มีสุนัขพิตบูลสีขาวที่เพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ หลุดออกมาจากประตูรั้ว แล้วก็วิ่งเข้ามาขย้ำกัดลูกสาวจนล้มลงจากรถเด็กที่ขี่อยู่ ซึ่งแม่และพ่อของลูกได้รีบเข้าไปไล่สุนัขให้ออกจากลูก ก่อนที่แม่จะเป็นคนเข้าไปอุ้มลูกสาวขึ้นมากอดแนบไว้ในอก เพราะน้องเปียโนขวัญเสียมาก ส่วนพ่อก็พยายามไล่สุนัขที่จะวิ่งกลับเข้าไปขย้ำลูกสาวไม่หยุด หลังเกิดเหตุ ครอบครัวพาลูกสาวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล นอนพัก 3 วัน 4 คืน ครั้นพอกลับมาบ้าน ลูกสาวก็เอาแต่ร้องไห้ สะดุ้งผวา และบอกว่ากลัว ไม่ยอมนอน จะไปอยู่บ้านยาย จนในที่สุดก็ต้องพาไปพักฟื้นที่บ้านของคุณยาย


ส่วนทางคู่กรณีเจ้าของสุนัขเคยได้มาพูดคุยบ้าง บอกว่ายอมรับผิดที่สุนัขหลุดออกมาจากบ้านแล้ววิ่งเข้ามากัดลูกสาว เหตุเพราะทางเจ้าของสุนัขปิดประตูรั้วบ้านไม่สนิท ทำให้สุนัขหลุดออกมาทำร้ายเด็ก ซึ่งต่อมาก็ได้ทำที่กั้นสุนัขไว้แล้ว แต่ตนเห็นว่าแค่นั้นคงยังไม่ปลอดภัย จึงขอให้เจ้าของนำสุนัขออกไปอยู่ที่อื่น อย่าไว้ในหมู่บ้านที่มีเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะหลุดออกมาทำร้ายได้อีก ซึ่งทางเจ้าของบ้านที่มีอยู่ 2 คนนั้น คนหนึ่งยอม แต่อีกคนหนึ่งกลับมีทีท่าไม่ยอม ทำให้หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่เด็กเสียความรู้สึก และกังวลเป็นอย่างมากว่า นับแต่นี้ชีวิตของลูกตนจะไม่มีความปลอดภัยอีกแล้ว แม้จะเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านของตนเอง หากวันนั้นไม่มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ลูกสาวของตนซึ่งเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ จะเป็นอย่างไร เพราะด้วยนิสัยของสุนัขพิตบูล เป็นสุนัขสายพันธุ์ดุร้าย หากได้กัดเหยื่อแล้วต้องกัดจนกว่าเหยื่อจะแน่นิ่ง

คุณพ่อของน้องเปียโน ในฐานะผู้เสียหาย บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุ ตนได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร แล้ว โดยส่วนตัวเพียงแค่ต้องการให้เจ้าของนำสุนัขสายพันธุ์ดุแบบนี้ออกไปไว้ที่อื่น ห่างไกลจากคนในหมู่บ้านที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษานั้น เป็นเรื่องของคดีความที่จะต้องดำเนินการรับผิดชอบตามกฎหมายอยู่แล้ว อีกทั้งตนยังได้ทำเรื่องไปยังส่วนกลาง ขอให้มีการสำรวจและวางระเบียบการเลี้ยงสุนัขดุ หรือสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ดุร้ายในหมู่บ้านไว้อย่างชัดเจน เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหานี้กับลูกหลาน หรือครอบครัวอื่นอีก และสุดท้ายคือ อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมเรื่องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ดุร้ายภายในหมู่บ้านหรือชุมชนด้วย

ด้านนายจุฑาวัชร วิชกูล อายุ 30 ปี เจ้าของสุนัขพันธุ์พิตบูล ยอมรับว่า ในวันเกิดเหตุ ตนเองออกไปทำธุระ พอกลับเข้าบ้านมาก็ปิดประตูเหมือนทุกครั้งที่ทำเป็นประจำ เพราะคิดว่าปิดสนิทดีแล้ว จึงไม่ได้หันไปดูซ้ำ แต่จริงๆ แล้วมันยังไม่สนิท จึงทำให้สุนัขที่วิ่งเล่นอยู่ในบ้านลอดช่องออกไปได้ จากนั้นตนก็ไปล้างจานหลังบ้าน กระทั่งได้ยินเสียงคนร้อง จึงวิ่งออกมาดู เห็นว่าสุนัขของตนออกไปกัดน้อง ก็เลยรีบเข้าไปจับสุนัขไว้แล้วพาเข้าบ้าน ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยส่วนตัวแล้วพร้อมดูแลรักษาน้องให้ดีที่สุด ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้แวะไปเยี่ยมเยียน และพร้อมที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด ส่วนเรื่องของสุนัขที่กัดเด็กนั้น ขณะนี้ตนได้ทำคอกกั้นสุนัขไว้หลังบ้านแล้ว และยืนยันว่าไม่เคยปล่อยปละละเลยสุนัขที่ตนเองเลี้ยงไว้ ส่วนที่สุนัขวิ่งออกไปกัดเด็กนั้น เชื่อว่าอาจจะมาจากพฤติกรรมฝังใจของสุนัขที่เคยได้ยินเสียงเด็กๆ ในหมู่บ้านปั่นจักรยานมาส่งเสียงดังรบกวน ครั้นพอได้ยินเสียงน้องเล่นอยู่ จึงทำให้สุนัขเกิดความหงุดหงิดแล้ววิ่งไปกัด


ส่วนที่ต้องมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่โรงพักนั้น เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตนไม่เคยปล่อยปละละเลยในการเลี้ยงสุนัข และไม่เคยคิดที่จะปัดความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตามข้อเรียกร้องของพ่อแม่เด็กที่ต้องการให้นำสุนัขไปไว้ที่อื่น แม้จะมองว่าเป็นทางออกทางหนึ่งตามความต้องการของคู่กรณี แต่ยังไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกตนและสุนัขที่เลี้ยงไว้ เพราะหากนำไปไว้ที่อื่นแล้วใครจะเลี้ยงดูและเข้าใจสุนัขเหล่านี้ได้ดีเท่ากับเจ้าของที่เลี้ยงมันมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ซึ่งก็คงต้องมีการเจรจาหาข้อตกลงและเป็นทางออกที่ดีที่สุดกับทั้งสองฝ่ายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]