ปทุมธานี 11 มิ.ย. – มีเหตุเศร้าเป็นอุทาหรณ์พึงระวัง ชายวัย 46 ปี กินทุเรียนร่วมกับกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลัง เกิดอาการจุกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เจ้าหน้าที่กู้ชีพได้รับแจ้งว่า มีชายหมดสติ ชื่อนายอังคาร ก้อนแก้ว อายุ 46 ปี ซึ่งหายใจรวยรินไม่รู้สึกตัว นอนอยู่ข้างทาง ริมถนนมุ่งหน้าสะพานปทุมธานี 2 โดยมีนายสมร ธาดา อายุ 40 ปี และนายสิรดนัย มะลิวรรณ อายุ 20 ปี ยืนอยู่ใกล้ร่างชายหมดสติ เจ้าหน้าที่จึงทำการปฐมพยาบาล พร้อมปั๊มหัวใจ เนื่องจากตรวจวัดชีพจรแล้วสัญญาณอ่อนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคนพยายามให้การช่วยเหลือ แต่สุดท้ายไม่สามารถยื้อชีวิตได้ นายอังคารเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบถามนายสมร เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกน้อง ทำงานตัดติดตั้งกระจก เมื่อช่วงเช้าได้ขับรถออกมาจากบ้านพักย่านพุทธมณฑล (สาย 4) เพื่อจะไปวัดงานที่ย่านรังสิต โดยมีผู้ตายนั่งข้าง ส่วนนายสิรดนัย ซึ่งเป็นหลานชายผู้ตาย นั่งเบาะหลัง โดยได้พูดคุยกันมาตามปกติ และขณะขับรถมาถึงบริเวณสะพานต่างระดับบางคูวัด จู่ๆ นายอังคารก็มีทำท่าทางลักษณะเหมือนกับคนจุกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก พร้อมกับบอกตนว่า อยากจะเรอ แต่เรอไม่ออก สักพักทั้งมือและเท้าก็เกร็ง แล้วก็แน่นิ่งไป ตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้ชะลอรถแล้วจอดชิดข้างทาง ก่อนจะช่วยกันเรียกชื่อ แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงหามลงมาที่พื้นข้างทาง ก่อนโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยมาช่วยกันปั๊มหัวใจ เพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน
ส่วนสาเหตุนั้น ตนทราบเพียงว่า เมื่อช่วงเช้าก่อนจะเดินทางมาทำงาน ผู้ตายได้กินทุเรียน จากนั้นก็ดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังไป 1 ขวด ก่อนจะมาขึ้นรถ และเกิดอาการดังกล่าว จึงเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการกินทุเรียนและเครื่องดื่มชูกำลัง พร้อมกาแฟ ทำให้ลมตีขึ้นหน้าอก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และญาติได้เดินทางมาดู โดยไม่ติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้ จากอาการเหล่านี้ แพทย์คาดว่าน่าจะเกิดจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน
ทีนี้มาดูเรื่องของ “ทุเรียน” ว่ากินร่วมกับสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่
ทุเรียน เป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน แม้ว่าทุเรียนจะถูกปากหลายคนมากเพียงใด แต่ในทางกลับกัน หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดโทษตามมาได้ เพราะทุเรียนเป็นผลไม้มีฤทธิ์ร้อน ยิ่งหากรับประทานเป็นจำนวนมากในช่วงหน้าร้อน ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายร้อนเข้าไปใหญ่ อีกทั้งคนมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ฯลฯ ควรระมัดระวังในการรับประทาน
ประโยชน์ของทุเรียน
ในทุเรียน ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน เส้นใย โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก เบตาแคโรทีน วิตามินต่างๆ ฯลฯ ซึ่งทุเรียนมีประโยชน์มากมาย อาทิ ช่วยในการขับถ่าย ช่วยในการเผาผลาญ ช่วยฆ่าเชื้อ มีฤทธิ์ขับพยาธิ ฯลฯ
กินทุเรียนให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ
- ควรรับประทานทุเรียนร่วมกับผลไม้ฤทธิ์เย็น อาทิ มังคุด แตงโม ฯลฯ เพราะจะช่วยให้ร่างกายคลายร้อนได้
- มากเกินไปก็ไม่ดี ควรรับประทานแต่พอดี เพราะการรับประทานทุเรียนเป็นจำนวนมาก นอกจากจะทำให้เกิดอาการร้อนในแล้ว ยังทำให้อ้วนได้อีกด้วย หากอยากรับประทานขึ้นมาจริงๆ ให้รับประทานเพียงแค่หายอยากสัก 2 พู/สัปดาห์ ก็พอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง
- ห้ามเด็ดขาด ห้ามรับประทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายร้อนจัด ซึ่งในทุเรียนมีสารกำมะถันอยู่มาก และสารนี้จะละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ทำให้แอลกอฮอล์เข้าสู่กระแสเลือดได้รวดเร็ว จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
- รับประทานทุเรียนถูกเวลาก็ได้ประโยชน์ ให้รับประทานทุเรียนตอนตี 5 เพราะเป็นเวลาที่ธาตุทำงาน เสร็จแล้วให้ดื่มน้ำอุ่นตาม งดอาหารเช้าของวันนั้น ทำติดต่อกัน 2 วัน จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกในลำไส้ได้
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงมาก 1 เม็ด ให้พลังงานเท่ากับ 130 กิโลแคลอรี เพราะในทุเรียนมีแป้งและน้ำตาลสูง และยังมีโพแทสเซียมสูงด้วย เพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะในคนไข้ที่เป็นโรคไต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ เพราะเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะเกิดความร้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูง หรือทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเกิดภาวะขาดน้ำ ในคนที่เป็นโรคหัวใจ หากดื่มกาแฟ หรือยาบำรุงกำลังที่มีการกระตุ้น อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจกำเริบได้ เพราะฉะนั้น ในคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หัวใจ จึงไม่ควรกินทุเรียนเกิน 1-2 เม็ด/วัน และไม่กินถี่ทุกวัน. – สำนักข่าวไทย