รุ่นพี่-เพื่อนร่วมสถาบัน แห่อาลัย “น้องปลื้ม”

บุรีรัมย์ 11 มิ.ย. – ญาติพี่น้อง ตัวแทนมหาวิทยาลัย คณาจารย์ ศิษย์เก่า รุ่นพี่ และเพื่อนร่วมสถาบัน ร่วมอาลัย “น้องปลื้ม” ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายเสียชีวิต เป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยพี่ชายร้องไห้อย่างหนักตลอดเวลา


พิธีฌาปนกิจศพนายวีรพัฒน์ หรือน้องปลื้ม นักศึกษาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก (อุเทนถวาย) ที่วัดเก่าหนองกี่ อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยเฉพาะพี่ชายของน้องปลื้ม ที่ร้องไห้อย่างหนักตลอดเวลา ซึ่งพิธีฌาปนกิจเมื่อวานมีญาติพี่น้อง ตัวแทนมหาวิทยาลัย คณาจารย์ รวมถึงรุ่นพี่และเพื่อนสถาบัน เข้าร่วมพิธี

โดยพี่ชายของน้องปลื้มเป็นตัวแทนอ่านประวัติด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ รวมถึงช่วงที่เปิดโลงศพให้ญาติและเพื่อนดูหน้าเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมีบางจังหวะที่เกือบจะเป็นลม ทำให้คนในงานต้องมาประคองตัว เช่นเดียวกับแฟนสาวของน้องปลื้ม ได้ยื่นมือไปจับมือและใบหน้าด้วยความอาลัย


ครอบครัวของน้องปลื้มบอกว่า หลังจากนี้จะเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด ส่วนคดีความขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ เช่นเดียวกับเพื่อนสนิทของน้องปลื้มที่บอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ลงโทษรุ่นพี่ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

สำหรับการดำเนินคดี สน.ปทุมวัน ได้ออกหมายเรียกให้รุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ 12 คน มาให้ปากคำเพื่อดำเนินคดีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานการเข้าพบ หากไม่มาตามนัดจะพิจารณาออกหมายเรียกครั้งที่ 2 จากนั้นหากยังไม่มาอีกจะขอศาลอนุมัติหมายจับทันที

ด้านพลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานเบื้องต้นพบมีรุ่นพี่ 6 คน ที่อยู่ในข่ายเป็นผู้สั่งการลงโทษและร่วมกันทำร้ายร่างกาย ในจำนวนนี้มี 1 คน ที่พบกระทำความผิดชัดเจน ส่วนที่เหลืออีก 6 คน เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยกระบวนการหลังการสอบสวนปากคำ ทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ส่วนรุ่นพี่ที่ร่วมลงมือทำร้ายร่างกายจะแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนข้อหาบุกรุกสถานที่ในยามวิกาล เนื่องจากนักศึกษากลุ่มนี้ไม่ได้ขออนุญาตมหาวิทยาลัยนั้น ต้องรอความชัดเจนจากมหาวิทยาลัยว่าจะดำเนินคดีอย่างไรต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย