กาญจนบุรี 10 มิ.ย.- มูลนิธิแห่งหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กว่าญาติของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งสงสัยถึงการเสียชีวิตหลังจากเพิ่งฉีดวัคซีนป้องโควิด-19 ได้เพียงวันเดียว ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นพร้อมกับสอบถามข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับการจะต้องไปฉีดวัคซีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาจารย์ขวัญชัย ถิระศิลป์ คณะกรรมการบริหารมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี โพสต์ข้อความพร้อมนำภาพผู้เสียชีวิตมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “วันที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลา 17:00 น มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ฐาน 20-00 จุดไทรโยคน้อย ท่าเสา วังกระแจะ ได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ให้จัดกำลังสนับสนุนที่เกิดเหตุผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุภายในบ้านที่เกิดเหตุบริเวณซอยข้างสถานีรถไฟท่ากิเลน เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าแพทย์ทำการชันสูตรเบื้องต้นแล้ว ทราบว่าผู้เสียชีวิตได้ไปฉีดวัคซีนยี่ห้อหนึ่งเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00 น. จนมาถึงวันที่ 9 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 15.00 น. พบว่าเสียชีวิตแล้วในลักษณะการนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนเก้าอี้โยก
ทางญาติของผู้เสียชีวิต จึงติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการฉีดวัคซีนดังกล่าว จึงขอให้ทำการส่งชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันนิติเวชฯ อาสาสมัครจึงบรรจุร่างของผู้เสียชีวิตลงในห่อผ้าพลาสติก เป็นถุงซิปจำนวน 3 ชั้นก่อนนำเคลื่อนย้ายไปเก็บรักษาไว้ที่โรงพยาบาลไทรโยค เพื่อรอผลการทำสวอป ก่อนทำการส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวชต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเอกสารใบนำส่งผู้บาดเจ็บหรือศพให้แพทย์ตรวจชันสูตร ระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายเพรียว พันธุ์ฟัก อายุ 84 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 1 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยผู้ตายมีโรคประจำตัวเป็นถุงลงโป่งพอง โรคหอบ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด (AstraZeneca) เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564 เวลา 10.15 น. ที่โรงพยาบาลไทรโยค ครั้งสุดท้ายญาติพบเห็นยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 9 มิ.ย.2564 ญาติสอบถามแล้วผู้ตายบอกว่าไม่เป็นอะไร ญาติที่พักอาศัยอยู่ด้วยจึงออกไปทำงาน และกลับมาพบว่าเสียชีวิตเมื่อเวลา 14.30 น.
ขณะนี้ นายขวัญชัย ถิระศิลป์ คณะกรรมการบริหารมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ได้ไปรับศพที่ รพ.ไทรโยค เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือศพ และกำลังเดินทางนำศพส่งไปชันสูตรที่ รพ.รามาธิบดี เพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตในครั้งนี้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ยอมรับการปูพรมฉีดวัคซีนตั้งแต่ 7 มิถุนายน นั้น ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องพบปัญหา หรือข้อกังวลผลกระทบจากวัคซีน จากเดิมที่ฉีดได้น้อย ก็ไม่ค่อยพบคนมีอาการไม่พึ่งประสงค์น้อย เมื่อฉีดมากขึ้นก็ย่อมต้องพบมากเป็นธรรมดา แต่ก็ต้องพิสูจน์ว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากวัคซีนจริงหรือไม่ เช่น การเสียชีวิต บางคนมีโรคประจำตัว มีโรคหัวใจ ดังนั้นอาจจะเป็นเหตุแห่งจากปัญหาสุขภาพเดิม
ส่วนที่พบกลุ่มอาการ ไข้สูง ปวดเมื่อย หลังรับวัคซีนแอสต้าเซเนก้า หรือวัคซีนตัวอื่นๆ ไม่ใช่กลุ่มอาการใหม่ แต่เป็นกลุ่มอาการเดิมที่เจออยู่แล้ว ในการรับวัคซีนทั่วไป เช่น อาการไข้ พบได้ 30 % ซึ่งเป็นปฏิกิริยาปกติของร่างกายเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย แต่อาการที่เกิดขึ้น พักและรับประทานยา 24-48 ชั่วโมงก็หายได้ ส่วนที่พบอาการไข้จำนวนมากในคนวัยทำงาน มากกว่าคนสูงอายุ ก็เป็นถือปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับการเกิดภาวะลิ่มเลือดที่พบในต่างประเทศ ส่วนกรณีที่ประชาชนบางคนแสดงเจตจำนง เลือกรับวัคซีนบางชนิดไม่รับบางชนิด ยืนยันว่าวัคซีนทั้งแอสตร้าฯ และ ซิโนแวค ดีทั้ง 2 ชนิด มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันไม่อยากให้ประชาชนเลือกชนิดวัคซีน การเลือกขอให้เป็นหน้าที่ของแพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าจะให้ฉีดวัคซีนชนิดใด ส่วนกระแสวิจารณ์เรื่องฉีดวัคซีนให้กลุ่มวีไอพีที่บางปูนั้นได้กำชับให้หน่วยบริการฉีดตามลำดับดำเนินการให้ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย