บุรีรัมย์ 10 มิ.ย. – 12 รุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย “น้องปลื้ม” จนเสียชีวิต เดินทางเข้าขอขมากับครอบครัวแล้ว เตรียมฌาปนกิจวันนี้ (10 มิ.ย.) ด้านตำรวจอยู่ระหว่างทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. รุ่นพี่ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายวีรพัฒน์ หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จนเสียชีวิต ได้เดินทางเข้าขอขมากับครอบครัวแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ (9 มิ.ย.) นางมนัสนันท์ แม่ของน้องปลื้ม ได้เรียกร้องให้ตำรวจ สน.ปทุมวัน เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ก่อนจะมีพิธีฌาปนกิจในวันนี้ (10 มิ.ย.) เพื่อหวังให้ลูกชายตายตาหลับ
สำหรับการดำเนินคดี เมื่อวาน (9 มิ.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมเปิดเผยว่า ชุดสืบสวนได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยลงพื้นที่จุดเกิดเหตุและประชุมหารือกันแล้ว เชื่อว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุ 12 คน โดยหลักฐานสำคัญคือ รถยนต์ที่รุ่นพี่ใช้ ภาพจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ รวมถึงสภาพแวดล้อม เหลือเพียงสอบปากคำพยานบางส่วนเพื่อมาประกอบสำนวน โดยต้องพิจารณาว่าใครมีหน้าที่อย่างไร หรือใครเป็นผู้สั่งการ หรือใครเป็นผู้ลงมือกระทำ
สำหรับพฤติการณ์เบื้องต้นพบว่ามีรุ่นพี่ปี 3 ขึ้นไป เรียกรุ่นน้องปี 1 ที่จะขึ้นปี 2 มาประชุม เพื่อเตรียมการรับน้อง และลงโทษให้รุ่นน้องนั่งเรียงกัน ก่อนที่รุ่นพี่หมุนเวียนใช้เท้าเตะ ซึ่งมีรุ่นพี่ผู้หญิงอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าลงมือกระทำหรือไม่ ส่วนการแจ้งข้อหาจะแบ่งเป็นคดีตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ หากรุ่นพี่คนใดที่มีหลักฐานว่าเป็นผู้กระทำจะถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต” เพิ่มเติม รวมถึงอาจมีข้อหาบุกรุกสถานที่ในยามวิกาล
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง โดยมีการแยกเป็นกลุ่มๆ เบื้องต้นพบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้นายวีรพัฒน์เสียชีวิต แบ่งเป็นกลุ่มคนที่เข้าไปรุมทำร้าย 6-7 คน และผู้สั่งการ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะข้อความสนทนาทางไลน์ เพื่อระบุตัวผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา แม้ในที่เกิดเหตุอาจไม่มีกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ แต่มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 30-40 คน ที่สามารถชี้ตัวได้ว่าใครทำอะไรในเหตุการณ์ดังกล่าว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พรชัย อัจฉริยเมธากร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ย้ำว่า มหาวิทยาลัยไม่อนุญาตให้นักศึกษาใช้สถานที่ทำกิจกรรมใดๆ แต่มีกลุ่มนักศึกษา 30-40 คน แอบเข้ามาทำกิจกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ทราบเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ส่วนกลุ่มนักศึกษาที่ก่อเหตุจะสรุปและทำเรื่องถึงอธิการบดีให้พิจารณาลงโทษ ซึ่งถึงขั้นไล่ออก คาดว่าจะทราบผลใน 1-2 วันนี้.-สำนักข่าวไทย