รถยนต์ชน จยย. เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ

สงขลา 6 มิ.ย.- หลายจังหวัด ในหลายพื้นที่เกิดอุบัติเหตุบางรายถึงขั้นเสียชีวิต บางรายบาดเจ็บสาหัส เช่น จ.สงขลา ตำรวจรับเเจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนจักรยานยนต์ สภาพพังเสียหายทั้งคัน ทำให้ 2 เเม่ลูกเสียชีวิตคาที่ และลูกสาวบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย 


รถยนต์ชน จยย. ดับคาที่ 2 ศพ 


เมื่อช่วง 20.30 น. เมื่อคืนนี้ตำรวจ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บนถนนกาญจนวนิช ฝั่งขาไป อ.สะเดา จึงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินทะเบียน สงขลา ถูกชนล้มอยู่บนถนน สภาพพังเสียหายทั้งคันและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน คือ นางจินตนา เพ็ชรศรี อายุ 37 ปี กระเด็นไปเสียชีวิตอยู่ตรงล้อรถบรรทุกพ่วงที่จอดอยู่ข้างทาง และเด็กหญิงอายุประมาณ 7 ปี อีก 1 คนซึ่งเสียชีวิตอยู่บนถนนใกล้ๆ กัน

นอกจากนี้ยังมีเด็กผู้หญิงอายุ 14 ปี อีก 1 คนบาดเจ็บสาหัสขาหักทั้งสองข้าง หน่วยกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยทั้งสามคนเป็นแม่ลูกกัน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยหลังเกิดเหตุญาติได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุและเมื่อเห็นร่างสองแม่ลูกนอนเสียชีวิตถึงกับร่ำให้โฮออกมาด้วยความตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนรถคู่กรณีที่ขับชนทราบว่าเป็นรถมิตซูบิชิปาเจโร่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลังเกิดเหตุได้ขับหลบหนีไปและมีรายงานว่าคนขับได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว

จากการสอบถามพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าก่อนเกิดรถจักรยานยนต์สามแม่ลูกที่ขับขี่มาด้วยกัน ได้ออกจากปั๊มน้ำมันและถูกรถมิตซูบิชิปาเจโร่ ที่วิ่งมาทางตรงพุ่งชนท้าย จนกระเด็นไปคนละทาง โดยก่อนเกิดเหตุทั้งสามคนเดินทางกลับมาจากร้านขายข้าวแกงใน ต.บ้านพรุ เพื่อกลับบ้านที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน


– ชนกลางแยกวัดใจไม่มีสัญญาณไฟจราจรดับ 1 เจ็บ 3

ที่ จ.ลพบุรี ตำรวจสภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกไก่ชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายโคกตูม-มะนาวหวาย ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองเลน สี่แยกไม่มีสัญญานไฟจราจร พบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียน ลพบุรี ที่ดัดแปลงเป็นรถบรรทุกไก่ ชนอัดรถยนต์กระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน ลพบุรี ด้านซ้าย ติดกับตู้ยามตำรวจของ สภ.มะนาวหวาน พังยับเยิน มีผู้ที่กระเด็นหลุดออกมาจากรถซึ่งเป็นคนขับกระบะ ภายในพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถอยู่จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้เร่งช่วยเหลือออกมาจากซากรถได้ในเวลาต่อมา จำนวน 3 ราย นำตัวส่ง รพ. พัฒนานิคม ทราบชื่อนายสมพงษ์ พรหมลา อายุ 54 ปี คนขับ ด.ช.รัฐภูมิ ขุนศรี อายุ และ ด.ญ.สุนิสา สมาคม ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกรายเป็นหญิงเสียชีวิตที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ น.ส.เรไร สมาคม อายุ 28 ปี

จากการสอบสวนนายจิรายุทธ ศรีผาย อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุก 10 ล้อเล่าว่า เดินทางมาจากเส้นทางวิทยาลัยเกษตร มุ่งหน้าโคกสลุง เมื่อมาถึงสี่แยก รถยนต์กระบะขับมาจากซอย 24 ได้ขับผ่านสี่แยกพอดี ไม่สามารถหยุดรถหรือหักหลบได้ทันได้พุ่งชนกลางรถด้านซ้าย ลากไปไกลกว่า 200 เมตร จนถึงป้อมยามนำเย็นของ สภ.มะนาวหวาน ซึ่งจากการตรวจสอบของร้อยเวรสอบสวน ทราบว่ารถยนต์บรรทุก 10 ล้อ และรถยนต์กระบะที่ขับผ่านสี่แยกต่างไม่ทันระวัง ประกอบกับสี่แยกดังกล่าวไม่มีสัญญานไฟเตือน ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนับไม่ถ้วน 

– หนุ่มส่งพัสดุชนขอบทางเสียชีวิต

ช่วงเช้ามืดวันนี้ พ.ต.ท.ทศพล ปานกัน  สว สอบสวน สน ท่าข้าม ได้รับแจ้ง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนขอบทางเสียชีวิต จุดเกิดเหตุปากทางเข้าหมู่บ้านดีเค ถนนกาจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชายสภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลที่ศีรษะแขนขวาหัก นอนเสียชีวิตอยู่เกาะกลางถนนถนน ทราบชื่อต่อมาคือนายวุฒิชัย แซ่ตั้น อายุ 34 ปี เป็นพนักงานขับรถส่งพัสดุของบริษัทแห่งหนึ่งห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต โดยสภาพด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชน 

จากการสอบถามพ่อผู้เสียชีวิตได้ความว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายแจ้งว่ากำลังออกจากบ้านเพื่อน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักย่านบางขุนเทียน ก่อนประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนขอบทางดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนของพนักงานได้ความว่าผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วแล้วบังคับไม่อยู่จึงชนขอบทาง ประกอบกับจุดที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งเล็กน้อยจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยในเบื้องต้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปเก็บรักษาที่ สน.ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

– อ้างถูกคนไล่ทำร้าย ขับรถลงบึง

 จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทางน้ำ มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ กำลังลงไปภายในบึงหนองโคตร ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น เพื่อนำรถยนต์ที่ตกลงในไปในบึงหนองโคตรใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถนำรถยนต์ขึ้นมาได้ เป็นรถยนต์ BMW สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ส่วนคนขับรถ ทางหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านเป็ด นำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว

นายวิศวชิด กันหากูล เจ้าหน้าที่ VR กู้ภัยขอนแก่นเล่าว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบพลเมืองดีได้นำคนขับรถยนต์ออกจากรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว จากนั้นจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยคนขับรถยนต์คันดังกล่าวเป็นเพศชาย อายุประมาณ 35 ปี โดยได้ให้การวกไปวนมาว่า ได้ถูกคนขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามก่อนจะใช้มีดฟันที่คอ จึงได้หักรถยนต์ลงไปในบึงหนองโคตร จากนั้นพลเมืองดีที่ขับรถสวนทางมาได้ลงมาให้ความช่วยเหลือออกจากรถ ก่อนที่จะแจ้งหน่วยกู้ชีพได้เข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยที่คอมีร่องรอยถูกของคมบาดไม่ลึกมากจำนวน 2 แผล

ด้าน ร.ต.อ.ชัยวาณิช คำละมุล สว.สส.สภ.บ้านเป็ด ได้รวบรวมหลักฐาน ก่อนที่จะไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นว่ามีเกิดจากการไล่ทำร้ายกันจริงหรือไม่ รวมทั้งเตรียมสอบปากคำพยานด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย