รถยนต์ชน จยย. เสียชีวิตคาที่ 2 ศพ

สงขลา 6 มิ.ย.- หลายจังหวัด ในหลายพื้นที่เกิดอุบัติเหตุบางรายถึงขั้นเสียชีวิต บางรายบาดเจ็บสาหัส เช่น จ.สงขลา ตำรวจรับเเจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนจักรยานยนต์ สภาพพังเสียหายทั้งคัน ทำให้ 2 เเม่ลูกเสียชีวิตคาที่ และลูกสาวบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย 


รถยนต์ชน จยย. ดับคาที่ 2 ศพ 


เมื่อช่วง 20.30 น. เมื่อคืนนี้ตำรวจ สภ.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บนถนนกาญจนวนิช ฝั่งขาไป อ.สะเดา จึงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินทะเบียน สงขลา ถูกชนล้มอยู่บนถนน สภาพพังเสียหายทั้งคันและมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 คน คือ นางจินตนา เพ็ชรศรี อายุ 37 ปี กระเด็นไปเสียชีวิตอยู่ตรงล้อรถบรรทุกพ่วงที่จอดอยู่ข้างทาง และเด็กหญิงอายุประมาณ 7 ปี อีก 1 คนซึ่งเสียชีวิตอยู่บนถนนใกล้ๆ กัน

นอกจากนี้ยังมีเด็กผู้หญิงอายุ 14 ปี อีก 1 คนบาดเจ็บสาหัสขาหักทั้งสองข้าง หน่วยกู้ชีพนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยทั้งสามคนเป็นแม่ลูกกัน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยหลังเกิดเหตุญาติได้เดินทางมายังจุดเกิดเหตุและเมื่อเห็นร่างสองแม่ลูกนอนเสียชีวิตถึงกับร่ำให้โฮออกมาด้วยความตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนรถคู่กรณีที่ขับชนทราบว่าเป็นรถมิตซูบิชิปาเจโร่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนหลังเกิดเหตุได้ขับหลบหนีไปและมีรายงานว่าคนขับได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว

จากการสอบถามพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าก่อนเกิดรถจักรยานยนต์สามแม่ลูกที่ขับขี่มาด้วยกัน ได้ออกจากปั๊มน้ำมันและถูกรถมิตซูบิชิปาเจโร่ ที่วิ่งมาทางตรงพุ่งชนท้าย จนกระเด็นไปคนละทาง โดยก่อนเกิดเหตุทั้งสามคนเดินทางกลับมาจากร้านขายข้าวแกงใน ต.บ้านพรุ เพื่อกลับบ้านที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา แต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน


– ชนกลางแยกวัดใจไม่มีสัญญาณไฟจราจรดับ 1 เจ็บ 3

ที่ จ.ลพบุรี ตำรวจสภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์บรรทุกไก่ชนกับรถยนต์กระบะที่ถนนสายโคกตูม-มะนาวหวาย ในที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่เกิดเหตุเป็นถนนสองเลน สี่แยกไม่มีสัญญานไฟจราจร พบรถยนต์บรรทุก 10 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียน ลพบุรี ที่ดัดแปลงเป็นรถบรรทุกไก่ ชนอัดรถยนต์กระบะ สีดำ หมายเลขทะเบียน ลพบุรี ด้านซ้าย ติดกับตู้ยามตำรวจของ สภ.มะนาวหวาน พังยับเยิน มีผู้ที่กระเด็นหลุดออกมาจากรถซึ่งเป็นคนขับกระบะ ภายในพบผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาซากรถอยู่จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้เร่งช่วยเหลือออกมาจากซากรถได้ในเวลาต่อมา จำนวน 3 ราย นำตัวส่ง รพ. พัฒนานิคม ทราบชื่อนายสมพงษ์ พรหมลา อายุ 54 ปี คนขับ ด.ช.รัฐภูมิ ขุนศรี อายุ และ ด.ญ.สุนิสา สมาคม ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกรายเป็นหญิงเสียชีวิตที่เกิดเหตุ ทราบชื่อ น.ส.เรไร สมาคม อายุ 28 ปี

จากการสอบสวนนายจิรายุทธ ศรีผาย อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุก 10 ล้อเล่าว่า เดินทางมาจากเส้นทางวิทยาลัยเกษตร มุ่งหน้าโคกสลุง เมื่อมาถึงสี่แยก รถยนต์กระบะขับมาจากซอย 24 ได้ขับผ่านสี่แยกพอดี ไม่สามารถหยุดรถหรือหักหลบได้ทันได้พุ่งชนกลางรถด้านซ้าย ลากไปไกลกว่า 200 เมตร จนถึงป้อมยามนำเย็นของ สภ.มะนาวหวาน ซึ่งจากการตรวจสอบของร้อยเวรสอบสวน ทราบว่ารถยนต์บรรทุก 10 ล้อ และรถยนต์กระบะที่ขับผ่านสี่แยกต่างไม่ทันระวัง ประกอบกับสี่แยกดังกล่าวไม่มีสัญญานไฟเตือน ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนับไม่ถ้วน 

– หนุ่มส่งพัสดุชนขอบทางเสียชีวิต

ช่วงเช้ามืดวันนี้ พ.ต.ท.ทศพล ปานกัน  สว สอบสวน สน ท่าข้าม ได้รับแจ้ง ได้รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งชนขอบทางเสียชีวิต จุดเกิดเหตุปากทางเข้าหมู่บ้านดีเค ถนนกาจนาภิเษก แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชายสภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลที่ศีรษะแขนขวาหัก นอนเสียชีวิตอยู่เกาะกลางถนนถนน ทราบชื่อต่อมาคือนายวุฒิชัย แซ่ตั้น อายุ 34 ปี เป็นพนักงานขับรถส่งพัสดุของบริษัทแห่งหนึ่งห่างออกไปประมาณ 20 เมตร พบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต โดยสภาพด้านหน้ามีร่องรอยเฉี่ยวชน 

จากการสอบถามพ่อผู้เสียชีวิตได้ความว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายแจ้งว่ากำลังออกจากบ้านเพื่อน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพักย่านบางขุนเทียน ก่อนประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนขอบทางดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนของพนักงานได้ความว่าผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วแล้วบังคับไม่อยู่จึงชนขอบทาง ประกอบกับจุดที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งเล็กน้อยจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยในเบื้องต้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปเก็บรักษาที่ สน.ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

– อ้างถูกคนไล่ทำร้าย ขับรถลงบึง

 จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทางน้ำ มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ กำลังลงไปภายในบึงหนองโคตร ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น เพื่อนำรถยนต์ที่ตกลงในไปในบึงหนองโคตรใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถนำรถยนต์ขึ้นมาได้ เป็นรถยนต์ BMW สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ส่วนคนขับรถ ทางหน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านเป็ด นำตัวส่งโรงพยาบาลไปแล้ว

นายวิศวชิด กันหากูล เจ้าหน้าที่ VR กู้ภัยขอนแก่นเล่าว่า เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบพลเมืองดีได้นำคนขับรถยนต์ออกจากรถยนต์ขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว จากนั้นจึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยคนขับรถยนต์คันดังกล่าวเป็นเพศชาย อายุประมาณ 35 ปี โดยได้ให้การวกไปวนมาว่า ได้ถูกคนขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามก่อนจะใช้มีดฟันที่คอ จึงได้หักรถยนต์ลงไปในบึงหนองโคตร จากนั้นพลเมืองดีที่ขับรถสวนทางมาได้ลงมาให้ความช่วยเหลือออกจากรถ ก่อนที่จะแจ้งหน่วยกู้ชีพได้เข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยที่คอมีร่องรอยถูกของคมบาดไม่ลึกมากจำนวน 2 แผล

ด้าน ร.ต.อ.ชัยวาณิช คำละมุล สว.สส.สภ.บ้านเป็ด ได้รวบรวมหลักฐาน ก่อนที่จะไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นว่ามีเกิดจากการไล่ทำร้ายกันจริงหรือไม่ รวมทั้งเตรียมสอบปากคำพยานด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย