นครพนม 2 มิ.ย.- หมู่บ้านท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม ไม่เคยขาดแคน ทำเครื่องดนตรีอีสานส่งขายทั่วไทย สู้วิกฤติโควิด มั่นใจไม่มีตกงาน เผยทีเด็ดต้นตำหรับทำแคนที่เดียวในไทย สร้างเงินสะพัดปีละหลาย 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.นครพนม ถึงแม้สถานการณ์โควิดจะกระทบต่อความเป็นอยู่ รวมถึงเศรษฐกิจตกต่ำ หลายคนตกงานขาดรายได้ แต่สำหรับชาวบ้านท่าเรือ ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือเป็นหมู่บ้านสุดเจ๋งที่มีอาชีพจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำเครื่องดนตรีอีสาน พิณ แคน โหวต ขายมายาวนาน กว่า 100 ปี โดยได้สืบทอดอาชีพภูมิปัญญามาตั้งแต่บรรพบุรุษจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีรายได้ตลอดปี ไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น สร้างรายได้ครอบครับละนับแสนบาท มีเงินสะพัดหมุนเวียนปีละนับ 10 ล้านบาท
ช่วงวิกฤติโควิต ชาวบ้านยังยืนยันว่าเครื่องดนตรีอีสาน พิณ แคน โหวต ยังสามารถขายได้ โดยเฉพาะแคนเป็นเครื่องดนตรีอีสานที่ขายดี ถึงแม้ยอดขายจะลดลงบ้าง แต่ไม่กระทบ เพราะต้นทุนต่ำ เป็นงานฝีมือที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งจะขายในราคา เต้าละ 1,500 บาท ถึงราคา 5,000 บาท ตามประเภท และขนาดของแคน
จากการสอบถาม นายโสวัตร ชาสงวน อายุ 56 ปี อาชีพช่างแคนเล่าว่า ตนทำแคนเครื่องดนตรีอีสานภูมิปัญญาชาวบ้านมานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่เริ่มโตเป็นวัยรุ่น ได้สืบทอดจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งหมู่บ้านท่าเรือจะเป็นหมู่บ้านอันซีนที่เดียวในไทย ที่ทำเครื่องดนตรีอีสานขายครบวงจร ตั้งแต่ พิณ แคนโหวต ส่งขายทั่วไทย
โดยเฉพาะการทำแคน จะต้องมาจากบ้านท่าเรือเท่านั้น เนื่องจากเป็นต้นตำหรับแคนที่มีเสียงดี ไพเราะ ด้วยความชำนาญและฝีมือที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ส่วนอุปกรณ์การทำถือว่าเป็นวัตถุดิบที่หาจากธรรมชาติคือ ไม้ไผ่ลำแคน แต่ชาวบ้านเรียกง่ายๆ ว่า ไม้ลำแคน ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติป่าเขา ก่อนที่จะตัดมาเป็นส่วนประกอบของแคน จำนวน 1 เต้า จะมีไม้ลำแคนมาตรฐาน 8-9 คู่ ส่วนเต้าแคนที่ใช้ปากเป่าจะใช้ไม้ประดู่ หรือไม้หนามเกลี้ยง ทำขึ้นมาจากงานฝีมือที่สืบทอดกันมา ก่อนนำมาประกอบเป็นแคน ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน
โดยการทำแคน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การทำลิ้นแคน เพราะเป็นตัวกำหนดเสียงจะให้เกิดคีย์ดนตรี เสียงสูงต่ำ รวมถึงความไพเราะอ่อนหวานของเสียงในการประกอบดนตรี ซึ่งแคนสามารถนำไปประยุกต์เป่าร่วมกับเครื่องดนตรีพื้นบ้านรวมถึงดนตรีสากลได้ทุกชนิด ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เป่าแคน.-สำนักข่าวไทย