ดราม่าร้านทำผม สาวโวยค่าสระผม 600 บาท

อ่างทอง 2 มิ.ย.- สาวเดือดโพสต์โซเชียลถามราคาสระผมในร้านเสริมสวยที่ถูกเก็บเงินถึง 600 บาท ขณะที่เจ้าของร้านแจงคิดราคาปกติใช้แชมพูม่วงและผมยาวพิเศษ เตรียมปรึกษาทนายหลังมีนักเลงคีย์บอร์ดโพสต์ให้เสียหาย


สังคมโซเชียลในพื้นที่อ่างทองแห่แชร์ข้อความของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งโพสต์ข้อความ หลังหญิงสาวคนดังกล่าวไปสระผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งกลางเมืองอ่างทอง และถูกเรียกเก็บเงินถึง 600 บาท โดยมีข้อความว่า “สอบถามผู้รู้ค่ะ ไปสระผมมาที่ร้านในตลาดอ่างทอง สระด้วยแชมพูธรรมดาสองรอบ ตามด้วยแชมพูม่วงหนึ่งรอบ นวดด้วยแชมพูม่วงหนึ่งรอบหมักทิ้งไว้ 10-15 นาที ล้างออก ฉีดวิตามินผม ไดร์หนีบ ราคา 600 บาท แพงไปไหมคะ ความคิดส่วนตัวคือแพงมาก (แล้วอันนี้คือถามช่างที่เคยสระประจำค่ะเขายังบอกแพงมาก)” หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นานมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าแพงมากจากราคาปกติ 100-150 บาท แม้จะใช้แชมพูม่วงซึ่งเป็นแชมพูสำหรับผมที่ทำสีก็ตาม และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่าราคาดังกล่าวเป็นการซ้ำเติมผู้บริโภคในช่วงวิกฤติโควิด-19

หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นส.กุ๊ก(นามสมมติ) อายุ 39 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าวเปิดเผยว่าเมื่อหลายวันก่อนตนเองมาทำธุระที่ตลาดอ่างทองและอยากสระผมจึงหาร้านแถวใกล้ๆ ที่ตนเองมาทำธุระ และเห็นว่าร้านนี้ไม่มีคนจึงเข้าไปใช้บริการเพราะไม่อยากจะเสียเวลา โดยบอกช่างให้สระผมแต่ขอให้ใช้แชมพูม่วงเนื่องจากตนเองไปทำสีผมมา ซึ่งทางช่างก็โอเคก็เลยเริ่มทำโดยไม่ได้ถามราคาก่อน และให้สระหลานก่อนซึ่งมาด้วยกัน โดยทางช่างก็ทำตามกระบวนการของช่างใช้เวลาไปกว่าชั่วโมงครึ่ง หลังเสร็จตนเองก็ซื้อครีมบำรุงผมอีกส่วนหนึ่งแต่เมื่อคิดเงินมาตนเองถึงกับตกใจเนื่องจากทั้งหมดเป็นเงินถึง 1,140 บาท 


เมื่อแยกครีมบำรุงผมออกไปแล้วก็ราคาสระผมเฉพาะของตนสูงถึง 600 บาท ซึ่งตนเองก็ตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้ขณะที่เคยสระทั่วไปอย่างแพงสุดไม่เกิน 180-250 บาทแต่นี่กระโดดขึ้นไปถึง 600 บาทเลยทีเดียว แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงออกมาโพสต์ถามว่าราคาขนาดนี้แพงหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าราคานี้มันสูงเกินไปหรือไม่ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงโควิด-19 น่าจะเห็นใจลูกค้าบ้างราคาขนาดนี้ลูกค้ารับไม่ได้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านเสริมสวยดังกล่าว พบว่าภายในร้านมีการปิดป้ายราคาให้บริการด้านหน้ากระจก พบพี่หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 59 ปี เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า น้องกุ๊กเข้ามาสระผมที่ร้านจริง โดยขอให้ใช้แชมพูม่วงซึ่งเป็นแชมพูสำหรับผมทำสี และผมของน้องเสียมากจึงใช้แชมพูเคราตินล้างผมก่อน ก่อนที่จะใช้แชมพูม่วงและครีมนวดม่วงโดยต้องหมักไว้ 10-15 นาที ก่อนที่จะใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 1 ชั่วโมง ลักษณะคล้ายการทำสปาเส้นผม เป่าไดร์หนีบ จนเสร็จซึ่งหลังทำเสร็จน้องก็พอใจยังถ่ายรูปไว้ดูด้วย ส่วนตนคิดว่าเป็นราคาที่เหมาะสมเพราะน้องผมยาวมากและคิดราคาตามสภาพและความยาวของผม แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงมีการนำไปโพสต์เช่นนี้ รวมถึงมีผู้มาแสดงความคิดเห็นจนร้านเสียหาย เบื้องต้นก็ได้ปรึกษาทนายเพื่อเตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว