เร่งตามตัว “ลุงพล” หนีหมายจับคดีน้องชมพู่

มุกดาหาร 2 มิ.ย.- เกาะติดการติดตามจับกุม “ลุงพล” ผู้ต้องหาคดีน้องชมพู่ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับลุงพลที่บ้าน แต่ไร้เงา และขณะนี้ตำรวจเตรียมแถลงข่าวเรื่องนี้


ปฏิบัติการฟ้าสางกลางกกกอก คว้าน้ำเหลว หลังไม่พบตัวลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆาตกรรมปริศนาน้องชมพู่ ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าบ้านน้องชมพู่ ซึ่งกำลังเกาะติดหน้าจอทีวี เพื่อดูลุงพลเข้ามอบตัวกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในช่วงเวลานี้

ตามที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม แจ้งว่า จะพานายไชย์พล วิภา หรือลุงพล เข้ามอบตัวตามหมายจับคดีฆาตกรรมปริศนาน้องชมพู่ ที่เป็นหลานสาวของตัวเองในเวลา 10.00 น.กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำให้ครอบครัวน้องชมพู่ต้องเกาะติดหน้าจอโทรทัศน์เพื่อให้เห็นกับตาว่า คนร้ายถูกจับกุมสิ้นอิสรภาพจริงๆ


สำหรับปฏิบัติการที่คว้าน้ำเหลาเมื่อเช้ามืดวันนี้ เริ่มขึ้นในเวลา 06.00 น. เพื่อเข้าจับกุมลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร คดีฆาตกรรมปริศนาน้องชมพู่ 3 ข้อหา ได้แก่ พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น แต่ผลการตรวจค้นบ้านพักในบ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ไม่พบตัวลุงพล ผู้ต้องหาตามหมายจับแต่อย่างใด รวมทั้งป้าแต๋น ภรรยา ก็ไม่พบว่าอยู่ในบ้านเช่นกัน

มีการตั้งข้อสังเกตว่า ลุงพลอาจหลบหนีไปตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ พร้อมทนายความ หลังกลับจากให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีหมิ่นประมาทที่ สภ.กกตูม ที่เห็นให้สัมภาษณ์ยูทูบเบอร์คืนที่ผ่านมา เป็นการนำภาพเก่ามานำเสนออีกครั้ง

ขณะที่นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ ซึ่งหลั่งน้ำตาระหว่างมาดูปฏิบัติการเข้าจับกุมลุงพล ระบุว่า ตราบใดที่ยังไม่เห็นคนร้ายถูกรวบ ถือว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม การหลบหนีเท่ากับยอมรับว่า ผิดหรือไม่ คนทำกับหลานสาวตัวน้อยได้ขนาดนี้ ต้องบอกว่า อำมหิตมาก เหมือนคนไม่มีเลือดเนื้อ ไม่มีหัวใจ ความรู้สึกอะไรเลย ตนซาบซึ้งในพ่อแบม แม่แบม พยาน ที่แม้ไม่ได้สนิทกัน แต่ไม่เคยทอดทิ้ง ยืนหยัดต่อสู้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ที่ร้องโฮ เพราะเห็นว่ายูทูบเบอร์ต่างๆ ควรหยุดได้แล้ว ได้มามากพอแล้ว โดยตนเคยถูกยูทูบเบอร์กลุ่มหนึ่งเช็กราคาผ้าที่ตนขาย แล้วส่งข้อมูลให้คู่แข่งตัดราคา และประจานร้านของตน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม