เพชรบุรี 1 มิ.ย. – จ.เพชรบุรี เร่งสกัดแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 โดยใช้แนวทาง bubble and seal เป็นทางรอดและควบคุมการแพร่ระบาด
เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จ.เพชรบุรี สานประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลบังคับใช้ และให้ขยายระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2564 โดยเร่งสกัดแหล่งแพร่เชื้อ รับมือควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมเร่งค้นหาทุกกลุ่มเสี่ยง สุ่มตรวจเพื่อการป้องกันควบคุมโรคไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
ด้าน นพ.เพชรฤกษ์ แทนสวัสดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงยอดรวมแรงงานติดเชื้อสะสมจากโรงงานแคล-คอมพ์ฯ ว่าอยู่ที่ 5,060 ราย ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างเยอะ คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลง ภายใน 14 วัน
นอกจากนั้น นพ.เกรียงศักดิ์ คำอิ่ม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จ.เพชรบุรี มีแรงงานเกือบ 200,000 คน มีโรงงานที่จำนวนแรงงานเกิน 100 คนขึ้นไปอยู่ 41 โรงงาน และที่มีจำนวนเกิน 1,000 คน ประมาณ 3-4 โรงงาน ที่สำคัญที่สุด คือ ที่เกิน 10,000 คน มี 1 โรงงาน หากปิดโรงงานจะกระทบถึงปากท้องแรงงานเกือบ 200,000 คน และก่อให้เกิดผลเสียในแง่ของออเดอร์ต่างๆ ที่โรงงานต้องมีผลผลิต จึงเร่งหาแนวทางควบคุมโรค ไม่ให้เชื้อแพร่กระจายออกจากจุดที่เกิดเหตุ โดยใช้แนวทาง bubble and seal คือ ให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในโรงงานได้มีที่พักในโรงงาน ไม่ออกนอกโรงงาน เฝ้าระวังสุขภาพของตนเองในแต่ละวัน
เมื่อตรวจเจอคนที่เป็นบวก ก็จะนำเข้าสู่โรงพยาบาลสนาม และคนที่ไม่เป็นบวกก็ให้ทำงานต่อ แล้วเฝ้าระวังด้วยการตรวจซ้ำไปเรื่อยๆ พี่น้องแรงงานก็ได้ทำงานปกติ ส่วนแรงงานที่อยู่นอกโรงงาน ก็ให้จัดวางระบบเส้นทางมาทำงาน ให้เช้ามาทำงาน เย็นกลับไปบ้าน หรือหอพักต่างๆ และต้องมีการ seal ที่พักด้วย bubble and seal จะเป็นทางรอดของชาวเพชรบุรี. – สำนักข่าวไทย