ภูมิภาค 30 พ.ค. – เร่งตรวจเชิงรุก คลัสเตอร์โรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี พบติดเชื้อแล้ว 391 คน โรงงานแจงคนติดเชื้อไม่ได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ ขณะที่อยุธยาพบติดโควิดในโรงงานเครื่องมือแพทย์ 20 ราย ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา สั่งปิดโรงงาน หลังยอดติดเชื้อพุ่ง
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าฯ สระบุรี มีหนังสือด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงมหาดไทยแจ้งผลการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) ในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีร่วมกับโรงพยาบาลแก่งคอยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแก่งคอยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกพนักงานโรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี (บริษัทซีพีเอฟประเทศไทยจำกัดมหาชน) ซึ่งมีพนักงานรวมทั้งสิ้น 5,862 คน ตรวจเชิงรุกแล้ว 3,400 คน ทราบผลแล้ว จำนวน 2,299 คน พบผู้ติดเชื้อจำนวน 391 คน ในจำนวนนี้เป็นชาวกัมพูชา 240 คน ชาวไทย 151 คน
ผู้ที่ตรวจพบเชื้อดังกล่าวได้นำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในพื้นที่และจังหวัดสระบุรีได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น ณ ค่ายลูกเสือเจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยสามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ประมาณ 160 ราย
ส่วนโรงงานเนื้อไก่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี (บริษัทซีพีเอฟประเทศไทยจำกัดมหาชน) ได้เตรียมการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ของบริษัทฯ โดยคาดว่าจะสามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ประมาณ 400 ราย บริษัทจะปิดสายการผลิตชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ถึงวันที่ 3 มิถุนายน 2564 รวม 5 วัน
ในวันนี้ทางโรงพยาบาลสระบุรี โรงพยาบาลพรพุทธบาท และโรงพยาบาลแก่งคอย ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังวัดสระบุรี ได้ร่วมกันตรวจครอบครัวและผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากโรงงานซีพีเอฟ (แปรรูปเนื้อไก่) อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งมีครอบครัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ามารับการตรวจเป็นจำนวนมาก ซึ่งในขณะเดียวกัน ทางโรงงาน ซีพีเอฟ (แปรรูปเนื้อไก่) ก็ได้นำแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสระบุรี สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแก่งคอย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจหาผู้ป่วยเชิงรุกกับพนักงานโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ภายในโรงงาน
ซีพีเอฟชี้แจงยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัยขั้นสูงสุด
ด้านบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ชี้แจงว่า กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโรงแปรรูปเนื้อไก่สระบุรี ด้านพนักงาน ตรวจคัดกรองพนักงานทั้งหมดทุกคนและส่งตัวผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา แยกผู้เสี่ยงสูงเข้ากักตัวในสถานที่ที่สาธารณสุขจัดให้เป็นเวลา 14 วัน พร้อมตรวจยืนยันโรค 2 ครั้ง ส่วนผู้เสี่ยงต่ำให้กักตัวที่บ้านสังเกตอาการตลอดช่วง 14 วันเช่นกัน
ทั้งนี้ พนักงานผู้ติดเชื้อเป็นผู้ปฏิบัติงานในส่วนที่ไม่ได้สัมผัสผลิตภัณฑ์อาหารโดยตรง และในขณะปฏิบัติหน้าที่ทุกคนจะสวมชุดฟอร์ม หน้ากากอนามัย และผ้าปิดปากปิดจมูกอย่างมิดชิด ด้านสถานที่ได้หยุดการดำเนินงานในพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อปฏิบัติงานทันทีเป็นเวลา 5 วัน และทําความสะอาด Big Cleaning พร้อมพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทันที ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
อยุธยาพบติดโควิดในโรงงานเครื่องมือแพทย์ 20 ราย
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานล่าสุดพบการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์ อ.เสนา พบผู้ติดเชื้อในแผนกผลิตวัสดุการแพทย์ Infusion และแผนก Blood line tubing จำนวน 19 ราย และคนขายของในโรงอาหาร 1 ราย รวมทั้งสิ้น 20 ราย เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกเมื่อวันที่ 27 และ 28 พฤษภาคม 2564 จำนวน 141 ราย ผลการตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย และในวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ได้ตรวจหาเชื้อเชิงรุกอีก 85 ราย อยู่ระหว่างรอผลการตรวจหาเชื้อ พร้อมกำหนดแผนการตรวจหาเชื้อเชิงรุกเพิ่มเติมในวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 และวันที่ 1 มิถุนายน 2564 รวม 1,300 คน
ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา สั่งปิดโรงงาน หลังยอดติดเชื้อพุ่ง
นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา มีหนังสือสั่งปิดบริษัทยูเนี่ยนโชจิรุซิ จำกัด อ.บางปะกง เฉพาะส่วนการผลิตและคลังสินค้า อาคาร step1 step2 step3 ไว้เป็นการชั่วคราว และห้ามผู้ใดเข้าออกจากสถานที่ดังกล่าว เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หลังตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 84 ราย และตรวจเชื้อกับพนักงานในโรงงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หวั่นเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ใน อ.บางปะกง
สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,496 ราย วันนี้พบผู้ป่วยใหม่ 201 ราย ทำให้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดทวีความรุนแรงมากขึ้น. – สำนักข่าวไทย