วิสามัญหนุ่มคลั่งใช้มีดไล่ฟันตำรวจเจ็บสาหัส

ร้อยเอ็ด 26 พ.ค. – ที่ จ.ร้อยเอ็ด ไปดูเหตุระทึก ตำรวจวิสามัญฯ หนุ่มคลั่งเสียชีวิตคาบ้าน หลังใช้มีดไล่ฟันตำรวจบาดเจ็บสาหัส


เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ค.) พนักงานสอบสวนเวร สภ.สว่าง รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านดงกลาง หมู่ 11 ต.โคกกกม่วง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดฟันตำรวจบาดเจ็บสาหัส และคนร้ายถูกยิงเสียชีวิต ภายในหมู่บ้าน ที่บ้านเลขที่ 58 โดยคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตภายในห้องครัวหลังบ้าน จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ถูกยิงเสียชีวิต คือ นายอนุวัฒน์ (ตั้ม ดงกลาง) ชมภูพฤกษ์ อายุ 27 ปี กระสุนเข้าที่หน้าผากและลำตัวหลายแห่ง เสียชีวิตคาที่ ขณะที่มีดเปื้อนเลือดยังคาอยู่ในมือของผู้ตาย

ด้าน ด.ต.ธงชัย มีชัย อายุ 52 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.สว่าง อ.โพนทอง มีบาดแผลถูกฟันที่ศีรษะเป็นแผลเหวอะหวะ 2 แผล และที่แขนขวาอีก 1 แผล อาการหนัก ต้องนำส่ง รพ.โพนทอง ก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอาการต่อยัง รพ.ร้อยเอ็ด


จากการสอบสวนนางคำสอน หรือ ทา บุญย่อ อายุ 60 ปี ยายของมือมีด ทราบว่า หลานชายจิตฟั่นเฟือนและป่วยทางจิตมาหลายปีแล้ว ต้องกินยาจากโรงพยาบาลเป็นประจำ แต่ช่วงหนึ่งยาหมดก็คลุ้มคลั่งอาละวาด เที่ยวระรานขู่ทำร้ายคนในบ้านและบ้านข้างเคียงมาโดยตลอด ต่อมาจึงพาไปหาหมอ ได้ยามากิน แต่ไม่ค่อยยอมกิน และล่าสุดตนเองทนไม่ไหว เพราะเกรงจะถูกทำร้าย จึงหนีไปอยู่กับญาติที่บ้านหลังอื่น ปล่อยให้หลานชายอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง และต้องคอยเทียวมาดูแลอยู่บ่อยๆ

ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ชาวบ้านโทรมาบอกว่า ผู้ตายเที่ยวอาละวาดถือมีดขู่ฆ่าฟันชาวบ้าน พูดจาไม่รู้เรื่อง ระรานเขาไปทั่ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไประงับอารมณ์ที่สถานีตำรวจชั่วคราวที่เคยเป็นบ่อยๆ

ด้านเพื่อนบ้านและเพื่อนคนหนึ่งของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายคลุ้มคลั่งระรานคนมา 2 วันแล้ว จึงแจ้งให้ยายผู้ตายทราบ เพื่อโทรแจ้งตำรวจ ซึ่งเป็นตำรวจที่คุ้นเคยกันกับผู้ตายเป็นอย่างดี มาระงับเหตุ หรือรับตัวไป เพราะหลายปีที่พอมีเหตุก็จะมีแต่ตำรวจนายนี้มาแก้ปัญหา เกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ จนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี


ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาตรวจสอบดังเช่นทุกครั้ง เมื่อมาถึงก็เดินเข้าไปหาในบ้าน และพบว่าผู้ตายเหมือนกำลังจุดไฟทำอาหารอยู่ในครัว จึงเดินเข้าไปหา หวังใช้ความคุ้นเคย เพื่อที่จะพูดคุยเกลี้ยกล่อมดังเช่นที่เคยเป็นมาตลอด และหากพูดคุยไม่รู้เรื่อง จึงจะรับตัวไปสงบสติอารมณ์ แต่ปรากฏว่ากลับเกิดเหตุคาดไม่ถึงขึ้น โดยผู้ตายที่ถือมีดอยู่ในมือได้หันกลับมา แล้วใช้มีดฟันเข้าที่ศีรษะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 ครั้ง จนเป็นแผลเหวอะหวะ ตำรวจนายดังกล่าวจึงตะโกนเรียกชื่อ และบอกให้หยุด แต่ผู้ตายกลับไม่ยอมหยุด ยังปรี่เข้ามาฟันซ้ำ จนต้องยกแขนขวาขึ้นรับและถูกฟันเป็นแผลลึก ก่อนจะรีบถอยหนีออกมา แต่ผู้ตายก็ยังถือมีดไล่ฟันซ้ำอีก ตำรวจจึงชักปืนยิงสวนไป 1 นัด ผู้ตายก็ยังไม่ยอมหยุด ยังถือมีดเดินเข้าหา ตำรวจจึงยิงสกัดไปอีก 2 นัด ก่อนที่ผู้ตายจะล้มลงจมกองเลือดในที่เกิดเหตุ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก