เรือนจำเชียงใหม่ ติดโควิด ตายเพิ่ม 1 ราย

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-ติดโควิดในเรือนจำเชียงใหม่ เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดรักษาหายเพิ่มอีก 13 ราย สะสมอยู่ที่ 346 ราย ยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษา 3,430 ราย ปล่อยตัวผู้มีภูมิแล้วกลับบ้าน 5 ราย

วันที่ 26 พ.ค.64 ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ รายงานข้อมูลสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค.64) ว่า วันนี้เรือนจำกลางเชียงใหม่พบมีผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 เพิ่มอีก 1 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 3,995 ราย มีผู้รักษาเพิ่มอีก 13 ราย ยอดผู้รักษาหายแล้วเพิ่มเป็น 346 ราย และยอดผู้ตรวจไม่พบเชื้อสะสมรวม 1,226 ราย วันนี้มีผู้ต้องขังเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย


นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ ลดลง วันนี้มีผู้อยู่ระหว่างการรักษาทั้งสิ้น 3,530 ราย แยกรักษาตัวในแดนต่างๆ 3,448 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ 75 ราย แยกตามอาการเป็น ระดับสีเขียว 61 ราย สีเหลือ 11 ราย และสีส้ม 3 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ 7 ราย

ในช่วงควบคุมสถานการณ์การระบาดภายใต้ระบบ Bubble and Seal เรือนจำกลางเชียงใหม่ (26 เม.ย.- 28 พ.ค. 64) ยอดการปล่อยตัวผู้ต้องขังถึงวันนี้ ปล่อยรวมแล้วทั้งสิ้น 117 ราย รวมถึงการปล่อยตัวผู้ที่มีภูมิแล้ว 5 ราย วันนี้มีผู้ต้องขังเข้ามาส่งเข้ามายังเรือนจำ 12 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ต้องขัง ณ วันที่ 25 พ.ค. 64 มีทั้งสิ้น 6,508 ราย วันนี้ไม่มีการปล่อยตัวเพื่อส่งต่อไปกักตัวในสถานกักกันของรัฐในพื้นที่อำเภอแม่แตง ส่งผลให้ยอดยังคงเดิมสะสมอยู่ที่ 63 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ 39 ราย ส่งให้หน่วยงานอื่น อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรต่างๆ ดำเนินการต่ออีก 15 ราย และมียอดผู้ต้องขังที่รักษาหายและปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาสะสม จำนวน 5 ราย


สำหรับการบริหารผู้ที่อยู่ในสถานกักกันองรัฐฯ หรือ LQ อำเภอแม่แตงรายงานว่า วันนี้ยอดผู้ที่ถูกส่งตัวเข้า LQ ยังคงที่อยู่ที่ 63 ราย ตรวจพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ได้แยกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนของ LQ จึงแยกได้เป็น กักตัวใน LQ 14 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ 36 ราย และส่งตัวกลับภูมิลำเนาสะสมอยู่ที่ 13 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน