สุพรรณบุรี 24 พ.ค. – สาวท้องทิพย์แถลงยอมรับกุเรื่องขึ้นมาจริง กลัวสามีรับไม่ได้ว่าแท้งลูก ด้านสามีเผยเสียใจถูกหลอก ประกาศขอแยกทาง เพราะตนและครอบครัวก็รับไม่ได้เช่นกัน
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันนี้ (24 พ.ค.) ที่เทศบาลตำบลสวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี น.ส.กรกนก และนายเกรียงไกร สองสามีภรรยา ได้แถลงสารภาพความจริง กรณีกุเรื่อง “ท้องทิพย์” และกล่าวหาโรงพยาบาลทำศพลูกหาย
โดย น.ส.กรกนก หรือ เตย อายุ 21 ปี ยอมรับว่า ตนเองเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาทั้งหมด และทำเพียงคนเดียว โดยสามีและคนรอบข้างไม่ได้รู้เห็นด้วย แต่ยืนยันว่า ตนเองเคยตรวจพบว่าตั้งครรภ์จริง เมื่อเดือนตุลาคม 2563 แต่ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ตนเองแท้ง หลังจากมีเพศสัมพันธ์กับสามี แล้วมีก้อนเลือดหลุดออกมา 2 ก้อน ซึ่งตอนที่เห็นยังไม่มีลักษณะของการเป็นเด็กทารก หรือมีแขนขา อวัยวะ จึงคิดว่าตนเองท้องลูกแฝดแล้วแท้ง ด้วยความตกใจ ตนจึงราดน้ำทิ้ง (ตอนแรกเคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า มีเพศสัมพันธ์กับสามีแล้วมีก้อนเลือดออกมา 2 ก้อน จึงเรียกสามีมาดู แต่สามีคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่หลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีเลือดออก) ซึ่งหลังจากที่แท้งลูก ตนไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อขูดมดลูกหรือตรวจร่างกาย เนื่องจากกลัวว่าสามีจะรู้ความจริง และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่กล้าบอกความจริงกับสามี เนื่องจากสามีอยากมีลูกมาก กลัวว่าหากตนเองบอกความจริงกับสามี สามีจะเสียใจและทิ้งตนไป
หลังจากนั้นตนเองจึงแต่งเรื่องสร้างสถานการณ์ให้เหมือนว่ายังท้องลูกแฝดอยู่ โดยให้สามีไปส่งที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจท้อง หาภาพอัลตราซาวด์เด็กจากอินเทอร์เน็ต ถ่ายคลิปขณะที่ลูกดิ้นลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งคลิปที่นำไปลงเป็นคลิปก่อนหน้าที่ตนจะแท้งลูก
จากนั้นเดือนพฤษภาคม ตนเองได้เข้ารักษาตัวด้วยอาการปีกมดลูกและอุ้งเชิงกรานอักเสบ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องของตนเองบวมเหมือนคนตั้งครรภ์ ส่วนสาเหตุที่ทุกคนบอกว่าจับท้องแล้วเด็กในท้องดิ้น ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไร จึงสร้างเรื่องว่ามาคลอดลูกแฝด และลูกเสียชีวิต ซึ่งหลังจากที่สร้างเรื่องว่าคลอดลูกแล้วก็กลับมาบีบน้ำนมใส่ถุง ซ่อนไว้ในซอกตู้ภายในห้องนอน เพื่อที่จะเตรียมไว้ใช้โกหกต่อ
ในวันที่มารับศพลูกแฝดชายจากโรงพยาบาลไปที่วัด ก็วางแผนห่อศพลูกในร้านกาแฟ เพราะเห็นว่าเป็นมุมเงียบ โดยเป็นผ้าที่ซื้อเตรียมไว้ให้ลูกอยู่แล้ว ก่อนจะอ้างกับสามีและคนในครอบครัวว่า ไม่สามารถเปิดดูหน้าได้ เพราะโรงพยาบาลแจ้งว่าศพติดเชื้อ หลังจากที่มีการเปิดโลงและพบว่าไม่มีศพเด็ก ตอนนั้นตนเองร้องไห้ด้วยความกลัวว่าเรื่องจะแดง เพราะยังหาทางลงไม่ได้
ส่วนสาเหตุที่ตนเองไปร้องเรียนโรงพยาบาลว่าทำศพลูกหาย และไปออกรายการโทรทัศน์ เป็นการไหลตามน้ำ เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะเรียกเงินจากโรงพยาบาล สิ่งที่โกหกเป็นการคิดวันต่อวัน นาทีนั้นไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า ยอมรับว่า ที่เรื่องบานปลายมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะตนเองคิดไม่ทัน จึงสร้างเรื่องโกหกไปเรื่อยๆ เพื่อพยายามหาทางลงให้ได้ และไม่คิดว่าโรงพยาบาลจะมีหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด และผลการตรวจร่างกาย ตอนนี้ตนเองยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของตนเอง ทั้งเรื่องการถูกโรงพยาบาลแจ้งความ และความสัมพันธ์ของตนกับสามีที่อาจจะต้องเลิกรากัน และอยากขอโทษสังคม รวมถึงสื่อมวลชนที่ออกมาช่วยเหลือตนในตอนแรก
ขณะที่นายเกรียงไกร หรือ นัด เปิดเผยว่า ตอนที่ตนเองรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ ดีใจมาก เพราะตนเองมีแฟนมาหลายคน แต่ไม่เคยท้อง จนเพื่อนๆ สงสัยว่าตนอาจเป็นหมัน ตอนที่จับท้องของภรรยา ก็สัมผัสได้ว่าลูกดิ้นจริงๆ แต่หลังจากที่ภรรยาบอกว่ามีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์กัน ตอนที่ตั้งครรภ์ 3-4 เดือน ตนเองก็ไม่กล้ามีความสัมพันธ์กับภรรยา และไม่กล้านอนใกล้ภรรยา เพราะตนเองนอนดิ้น เกรงว่าภรรยาจะแท้งลูก แต่ทราบว่าภรรยาไปหาหมอ ซึ่งภรรยาก็บอกว่าลูกปกติดี ยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นกับสิ่งที่ภรรยาสร้างเรื่องขึ้นมา ส่วนประวัติฝากท้องของภรรยานั้น ตนเองไม่เคยเห็น แต่รู้ว่าภรรยามีสมุดสีชมพู จึงยืนยันกับสื่อมวลชนไปก่อนหน้านี้ว่า ภรรยามีสมุดฝากท้อง ส่วนพัฒนาการของลูก ตนเองไม่เคยถามกับภรรยา เพราะเชื่อใจ เนื่องจากเห็นว่าภรรยาเคยมีลูกมาก่อน และมั่นใจว่าภรรยาจะดูแลลูกเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ได้รู้ว่าภรรยาสร้างเรื่องทั้งหมด และหลังจากนี้หากคดีความต่างๆ จบลงแล้ว ตนเองก็คงจะแยกทางกับภรรยาอย่างเด็ดขาด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งตนและครอบครัวของตนก็รับไม่ได้เช่นกัน. – สำนักข่าวไทย
