fbpx

ออกหมายจับเพิ่มอีก 1 คดีฆ่าฝังดิน “เสี่ยสุชาติ”

กระบี่ 18 พ.ค.-ศาลจังหวัดกระบี่ อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีฆ่าฝังดิน “เสี่ยสุชาติ” เจ้าของร้านอาหาร จ.กระบี่ เพิ่มอีก 1 คน เป็นน้องชายคนสุดท้องของ “บังฟิต” หลังพบพยานยืนยันร่วมก่อเหตุ


ความคืบหน้าคดีฆ่าฝังดิน นายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี เจ้าของร้านอาหารและฟิชชิ่งใน อ.ลำทับ จ.กระบี่ วันนี้ (18 พ.ค.) พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.นปพ.ภ.8 นำกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (EOD) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาหัวกระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุสังหารนายสุชาติ บริเวณสวนยางพารา ม.1 บ้านหนองแบก ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ โดยพบหัวกระสุนฝังติดอยู่ที่ต้นยางพารา 2 หัว ห่างจากจุดที่ลงมือสังหารนายสุชาติราว 10 เมตร และมีรอยกระสุนเฉี่ยวอีก 1 จุด อยู่ใกล้ๆ กัน เจ้าหน้าที่ต้องใช้ขวานและใช้สิ่วเจาะเพื่อเอาหัวกระสุนออกมา เก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นพบว่าหัวกระสุนมีขนาดไม่เท่ากัน คาดมาจากอาวุธปืนคนละกระบอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งตรวจพิสูจน์

พ.ต.อ.พิษณุ เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบวิถีกระสุน เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าเป็นกระสุนที่ยิงทะลุร่างผู้ตายหรือไม่ เนื่องจากจุดที่พบหัวกระสุนอยู่สูงประมาณ 2 เมตร บนต้นยาง ซึ่งจากพฤติกรรมของคนร้ายที่ก่อเหตุ ไม่น่าจะยิงเสยขึ้นไปข้างบน ทั้งนี้ต้องรอการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง และหลังจากมีการแสข่าวว่า นายสุริยา หรือ บังฟิต เริงสมุทร และนายสุรชัย หรือบังกิ๊บลี่ เริงสมุทร ได้ติดต่อผ่านญาติ เพื่อให้ผู้ใหญ่ในพื้นที่เจรจาขอเข้ามมอบตัวนั้น ยังไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด และได้เชิญตัวคนที่ได้รับการติดต่อมาให้ข้อมูลแล้ว เป็นเพียงการติดต่อผ่านพ่อบังฟิตและบังกิ๊บลี่ ซึ่งผู้เป็นพ่อได้บอกให้ลูกชายมอบตัว แต่ก็ยังไม่มีมีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด


สำหรับผู้ต้องหาในคดีที่ได้มีการออกหมายจับไปแล้ว 3 คน คือ นายสุริยา หรือบังฟิต เริงสมุทร นายสุรชัย หรือบังกิ๊บลี่ เริงสมุทร พี่ชาย และนายสุวิทย์ หรือบังซัน เริงสมุทร ซึ่งนายสุวิทย์ได้เข้ามอบตัวแล้วเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อช่วง 15.00 น. ศาลจังหวัดกระบี่ ได้อนุมัติหมายจับ เพิ่มอีก 1 คน คือ นายสุริยันต์ หรือบังกอนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี น้องชายคนสุดท้องของบังฟิตและบังกิ๊บลี่ ในข้อหาเดียวกัน คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกับวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นและทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย หลังมีพยานยืนยันว่าร่วมก่อเหตุด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี รวมออกหมายจับทั้งหมด 4 คน มอบตัว 1 คน

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน คาดว่า นายสุรชัย หรือบังกิ๊บลี่ และนายสุริยันต์ หรือบังกอนี น่าจะกบดานอยู่ในพื้นที่บริเวณเขาลูกไฟในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ส่วนนายสุริยา หรือบังฟิต น่าจะแยกหลบหนีไปอีกทาง โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ ได้แบ่งกำลังชุดหนึ่งไปตรวจค้นบ้านญาติในพื้นที่ อ.อ่าวลึก และไปตรวจค้น ภรรยานายบังฟิตที่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ ส่วนปมหลอกนายกฯ ยืนยันเป็นตำรวจตัวเล็กจะไปทำกับผู้นำประเทศได้อย่างไร ยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่กระทบบริหารตำรวจทั่วประเทศ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว